"เสี่ยป๋อง" ประเมินภาษีขายหุ้น กระทบคนเล่นสั้น-บวกต่อคนเล่นยาว
"เสี่ยป๋อง-วัชระ แก้วสว่าง" ขาใหญ่ตลาดหุ้น ประเมินภาษีขายหุ้นกระทบวอลุ่มการซื้อขาย เปรียบเหมือนต้นทุนค่าคอมฯ เพิ่ม-โรบอทเทรดต้องปรับสูตรใหม่ แต่คาดส่งผลบวกต่อคนถือยาว พฤติกรรมนักลงทุนในตลาดอาจเก็บกำไรก่อนขายนานขึ้น
นายวัชระ แก้วสว่าง หรือ เสี่ยป๋อง นักลงทุนรายใหญ่ เปิดเผยในงานสัมมนาหลักสูตร “Digital Transformation for CEO #3” ว่า จากกระแสข่าวการเก็บภาษีหุ้น ซึ่งจะเก็บในทุกช็อตที่ขายนั้น คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อการซื้อขายหลักทรัพย์ เพราะเปรียบเสมือนนักลงทุนถูกเก็บค่านายหน้าซื้อขาย (ค่าคอมมิชชั่น) เพิ่มขึ้น
แม้ยังไม่มีข้อสรุปแน่ชัดว่ารัฐบาลจะเก็บจริงหรือไม่ หรือจะเก็บในอัตราที่เท่าไหร่ แต่หากเก็บภาษีขายหุ้นจริงตามที่ข่าวนำเสนอ 0.1% ต่อธุรกรรม 1 ล้านบาท ถือเป็นระดับที่ค่อนข้างสูง อาทิ ตนซื้อขายหุ้นในปี 2564 ราว 1.4 แสนล้านบาท แบ่งเป็นขาซื้อ 7 หมื่นล้านบาท ขาขาย 7 หมื่นล้านบาท จะถูกเก็บภาษีแล้ว 70 ล้านบาทต่อปี
นอกจากนี้ คาดว่าการเก็บภาษีขายหุ้นจะกระทบต่อการซื้อขายของหุ่นยนต์ (โรบอทเทรด) ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนราว 30% ของปริมาณการซื้อขายหุ้น (วอลุ่ม) ทั้งหมด โดยคาดว่าวอลุ่มของกลุ่มนี้จะลดน้อย หรือหายไปชั่วขณะ เพราะต้องปรับระบบ หรือปรับสูตรใหม่ ภายหลังต้นทุนการขายต่อครั้งเพิ่มขึ้น
แต่หากมองในมุมบวก คาดว่าภาษีขายหุ้นอาจส่งผลดีต่อนักลงทุนที่ถือหุ้นยาว เพราะที่ผ่านมาต้นทุนค่าคอมมิชชั่นถูก ส่งผลให้นักลงทุนในตลาดสามารถซื้อขายหุ้นระยะสั้นได้ แต่หากเก็บภาษีขายหุ้น คาดว่าการเก็บกำไรอาจลดลง เพราะนักลงทุนอาจถือเพื่อเก็บกำไรยาวขึ้น
เช่น จากเดิมได้กำไร 2 ช่องแล้วจึงขายหุ้น หากมีภาษีขายหุ้นอาจถือรับกำไรเพิ่มเป็น 5 ช่อง เป็นต้น ซึ่งจะส่งผลบวกให้กำไรในกระเป๋านักลงทุนเพิ่มขึ้นหากทุกคนคิดเหมือนกันหมด อย่างไรก็ดี พฤติกรรมคนส่วนใหญ่จะเป็นอย่างไรคงต้องพิจารณาเมื่อมีการนำมาใช้จริง