SMD ประมาณการ 4Q64F: คาดว่ากำไรจะเพิ่มขึ้น YoY แต่ลดลง QoQ
เราคาดว่ากำไรสุทธิของ SMD ใน 4Q64F จะอยู่ที่ 63 ล้านบาท (+66% YoY, -67% QoQ) ซึ่งจะทำให้กำไรสุทธิในปี 2564F ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 328 ล้านบาท (+322% YoY)
โดยกำไรที่เพิ่มขึ้น YoY จะมาจากยอดขายที่เติบโตอย่างมากตามยอด backlog ที่แข็งแกร่ง และคำสั่งซื้อชุดตรวจ antigen test kits (ATKs) ที่เพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกัน กำไรที่ลดลง QoQ จะมาจากฐานที่สูงเพราะมีการบริจาคโดยบริษัทขนาดใหญ่ในช่วงที่ COVID-19 ระบาด
ยอดขายจะโตอย่างมีนัยสำคัญ YoY
เราคาดว่ายอดขายของ SMD ใน 4Q64F จะอยู่ที่ 366 ล้านบาท (+60% YoY, -48% QoQ) ส่งผลให้ยอดขายในปี 2564F ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 1.6 พันล้านบาท (+135% YoY) โดยยอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ YoY จะเป็นเพราะ backlog แข็งแกร่งอยู่ที่ 300 ล้านบาทเมื่อสิ้นงวด 3Q64 และมีคำสั่งซื้อชุดตรวจ ATK เพิ่มขึ้น
อัตรากำไรขั้นต้นจะลดลงเนื่องจาก product mix ไม่ดีเท่าเดิม
เนื่องจากคำสั่งซื้อชุดตรวจ ATK (ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่าสินค้าอื่น) คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 25%ของยอดขายรวมใน 4Q64 ดังนั้น เราจึงคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นของ SMD ใน 4Q64F จะลดลงเหลือ 39%(-0.6ppts YoY, -4.6ppts QoQ) ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นในปี 2564F อยู่ที่ 41.9% (ทรงตัว YoY) ซึ่งจะต่ำกว่าสมมติฐานปีนี้ของเราที่ 43.0% เราคาดว่าสัดส่วน SG&A ต่อยอดขายจะอยู่ที่ 16.9% (จาก 19.7%ใน 4Q63 และ 8.7% ใน 3Q64) เนื่องจากไม่มีการบริจาค อย่างไรก็ตาม ยอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปี 2564F น่าจะช่วยให้ SMD มีการประหยัดต่อขนาดมากขึ้น สัดส่วน SG&A ต่อยอดขายในปี 2564F จะลดลงมาอยู่ที่ 14.5% จาก 26% ในปี 2563
กำไรยังอาจจะโตได้ YoY ในปี 2565
เนื่องจากฐานกำไรที่สูงในปีนี้ SMD อาจจะเผชิญความท้าทายอยู่บ้างในการที่จะทำกำไรเพิ่มขึ้น YoY ในปี 2565 ถึงแม้ว่าผู้บริหารจะตั้งเป้าอัตราการเติบโตของยอดขายปี 2565 ไว้ที่ประมาณ 15% (คิดเป็นเป้ายอดขายปี 2565 ที่ 1.7-1.8 พันล้านบาท) แต่เรายังคงสมมติฐานยอดขายปี 2565F เอาไว้ที่ 1.1 พันล้านบาท เราแนะนำให้จับตาผลการดำเนินงานของบริษัทใน 1H65 เพื่อดูว่าแผนธุรกิจของบริษัท (อย่างเช่น โครงการให้เช่าเครื่องมือแพทย์ และ sleep lab) ว่าจะช่วยสร้างรายได้ประเภท recurring ได้มากแค่ไหน
Valuation & action
เราเชื่อว่าโมเดลธุรกิจของ SMD จะทำให้บริษัทได้ประโยชน์ทั้งในช่วงที่ COVID-19 ระบาด และหลังจากที่ COVID-19 ผ่านไปแล้ว ดังนั้น เราจึงยังคงคำแนะนำ ซื้อ และประเมินราคาเป้าหมายสิ้นปี 2565 ที่ 19.00 บาท อิงจาก PER ที่ 20x
Risks
มีคู่แข่งรายใหม่เข้ามาในตลาด, ถูกบอกเลิกสัญญาการเป็นผู้จัดจำหน่ายก่อนกำหนด, เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไป, ความเสี่ยงด้านกฎเกณฑ์ของทางการ, ความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน, ความเสี่ยงจากการพึ่งพิงผู้ผลิตระดับโลก