สบน.ขายพันธบัตรออมทรัพย์รุ่น”ส่งความสุข”วงเงิน 3 หมื่นล้าน เริ่ม17ม.ค.นี้
สบน.เปิดขายพันธบัตรออมทรัพย์พิเศษ “รุ่นส่งความสุข”อายุ 3 ปี วงเงิน 3 หมื่นล้านบาท ดอกเบี้ยเฉลี่ย 1.615%ต่อปี เริ่มจำหน่าย 17 ม.ค.65 นี้ โดยช่วงแรกกำหนดขายให้ผู้ที่อายุ 60 ปีขึ้นไปก่อน แต่ซื้อได้ไม่เกิน 5 ล้านบาทต่อราย
นางแพตริเซีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า ต้นปี 2565 นี้สบน. จะมีการจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์พิเศษ “รุ่นส่งความสุข” เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ ให้กับพี่น้องประชาชน ซึ่งกระทรวงการคลังจะนำเงินที่ได้ไปใช้เพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม และบรรเทา ผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายใต้โครงการมาตรการต่างๆ เช่น การจัดหาวัคซีน เยียวยา ผู้ประกันตน
โดยจะจำหน่ายวงเงิน 30,000 ล้านบาท ให้กับประชาชนเท่านั้น ผ่านช่องทาง Counter Internet Banking และ Mobile Banking ของธนาคารตัวแทนจำหน่าย 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์
การจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์พิเศษ รุ่นส่งความสุข เริ่มจำหน่ายวันที่ 17-31 ม.ค. 2565 เวลา 8.30 น. รุ่นอายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันไดเฉลี่ย 1.90% ต่อปี โดยปีที่ 1 อัตราดอกเบี้ย 1.60%ต่อปี ปีที่ 2 อัตราดอกเบี้ย 1.80 ต่อปี ปีที่ 3 อัตราดอกเบี้ย 2.30% ต่อปี ลงทุนได้ตั้งแต่ 1,000 บาท
แบ่งการจำหน่ายเป็น 3 ช่วง โดยในสัปดาห์แรกจะเป็นการจำหน่ายแบบกำหนดอายุและจำกัดวงเงิน และในสัปดาห์ถัดไปจึงเปิดโอกาสให้ซื้อแบบไม่จำกัดวงเงิน ดังนี้
ช่วงที่ 1 วันที่ 17-18 ม.ค. 2565 เปิดจำหน่ายให้กับบุคคลธรรมดาที่ถือสัญชาติไทยหรือมีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทยที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป โดยซื้อได้ไม่เกิน 5 ล้านบาทต่อราย
ช่วงที่ 2 วันที่ 19-23 ม.ค. 2565 เปิดจำหน่ายให้บุคคลธรรมดาที่ถือสัญชาติไทยหรือมีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทยในทุกช่วงอายุและรวมอายุ 60 ปีขึ้นไป โดยซื้อได้ไม่เกิน 5 ล้านบาทต่อราย
ช่วงที่ 3 วันที่ 24-31 ม.ค. 2565 เปิดจำหน่ายให้บุคคลธรรมดาที่ถือสัญชาติไทย หรือมีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทยทุกช่วงอายุและรวมอายุ 60 ปีขึ้นไป แบบไม่จำกัดวงเงินจำหน่าย
ทั้งนี้ วงเงินการซื้อในแต่ละช่วงไม่นับรวมกัน ผู้ลงทุนสามารถซื้อพันธบัตรได้ในทุกช่วงการจำหน่าย ตามเงื่อนไขอายุและวงเงินที่กำหนด และหากเป็นผู้เยาว์ต้องมีบัญชีธนาคารตัวแทนจำหน่ายและได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองก่อน
สบน. ได้แจ้งให้ธนาคารตัวแทนจำหน่ายปรับวิธีการจองซื้อพันธบัตรให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ของรัฐบาล เพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถทำธุรกรรม ได้อย่างปลอดภัย ซึ่งผู้ลงทุนสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับเงื่อนไขและวิธีการซื้อพันธบัตรผ่าน ช่องทางต่างๆ ของธนาคารตัวแทนจำหน่ายทั้ง 4 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารไทยพาณิชย์ และ ธนาคารกสิกรไทย
“ครั้งนี้ เราไม่เปิดขายผ่านวอลเล็ต สบม.เพราะต้องการให้ผู้สูงอายุ ซึ่งหลายคนพลาดในคราวที่แล้ว ฉะนั้น ก็จะขายผ่านธนาคาร 4 แห่ง ส่วนอัตราดอกเบี้ยนั้น เนื่องจาก เรามีภาษีหัก ณ ที่จ่าย เฉลี่ยออกมาแล้วก็จะอยู่ที่ 1.615%”
ผอ.สบน.กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 65 เราวางแผนที่จะออกพันธบัตรออมทรัพย์ไว้ที่ 1.5 แสนล้านบาท ในช่วงต้นปีงบประมาณเราขายไปแล้ว 8 หมื่นล้านบาท และจะขายครั้งนี้อีกจำนวน 3 หมื่นล้านบาท ส่วนที่เหลือจำนวน 4 หมื่นล้านบาท จะขายตั้งแต่เดือนพ.ค.65 เป็นต้นไป
“เนื่องจาก เราอยากจะส่งความสุขให้กับประชาชนและความต้องการสูงมาก เราเลยตัดในส่วน 7 หมื่นล้านบาท มาขายก่อน 3 หมื่นล้านบาทในช่วงปีใหม่นี้ ส่วนที่เหลือจะทยอยประมาณ พ.ค.ปีหน้าเป็นต้นไป”
สำหรับอัตราดอกเบี้นครั้งนี้ ถือว่า ค่อนข้างสูง เราได้บอกไปประมาณ 100.5 Basis Point จากพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 ปี ฉะนั้น ไม่น่าเกลียด และระยะสั้น 3 ปี ดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เราคิดว่าเป็นอายุพันธบัตรที่น่าสนใจ และเราก็ไม่ได้ออกพันธบัตรอายุสั้นมาซักพักนึงแล้ว ซึ่งอายุ 3 ปีก็เป็นช่วงที่เหมาะสมสำหรับผู้สูงอายุ ก็ถือว่า ตอบโจทย์
“ที่ผ่านมา เราเสนอขายพันธบัตรออมทรัพย์ไป 8 หมื่นล้านบาท ซึ่งความต้องการของผู้สูงอายุมีจำนวนมาก หลายท่านพลาดไป ครั้งนี้ เราจึงให้โอกาสแก่ผู้สูงอายุเป็นลำดับแรก ฉะนั้น คิดว่า น่าจะตอบโจทย์ในเรื่องของผลิตภัณฑ์และลูกค้าที่จะได้สิทธิ์ในการซื้อก่อน”