บลจ.ยูโอบี ชู "3 ธีมอนาคต" ลุยลงทุน สู้ปัจจัยเสี่ยงปี65
บลจ.ยูโอบี เปิดธีมการลงทุนปี 65 ชู 3 ธีมอนาคต "ปฏิวัติอุตสาหกรรม- ระบบการเงินไร้ตัวกลาง -วิวัฒนาการของการบริโภค" พร้อมเตือนนักลงทุน ยังต้องระวัง ปัจจัยเสี่ยงนอกประเทศ-การเมืองไทยประเทศ แต่ยังบวก หุ้นไทยคาดดัชนีที่ 1,670-1,770 จุด ศก. ฟื้นมองจีดีพีที่ 3.5%
นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายกลยุทธ์และพัฒนาผลิตภัณฑ์การลงทุน สายพัฒนาธุรกิจ บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า กลยุทธ์การลงทุนในช่วงปี 2565 ผู้จัดการกองทุนแนะลดสัดส่วน "บอนด์" และหันมาเพิ่ม หุ้น สำหรับธีมการลงทุนในปี 2565 แนะ "ธีมอนาคต" มี 3 ธีมเด่น ได้แก่ ธีมปฏิวัติอุตสาหกรรม ธีมระบบการเงินไร้ตัวกลาง และธีมวิวัฒนาการของการบริโภค
สำหรับธีมแรก "ธีมปฏิวัติอุตสาหกรรม" มองว่า การใช้หุ่นยนต์เพิ่มผลผลิตด้านอุตสาหกรรมทํากําไรได้แล้ว AI เข้ามาเป็นส่วนหลักของทุกกิจกรรม และมีธุรกิจยานยนต์ไร้คนขับเป็นโอกาสสํหรับอนาคต
ส่วนธีมที่สอง "ธีมระบบการเงินไร้ตัวกลาง" ได้รับการยอมรับมา จากสถาบันเตรียมเข้าลงทุนแม้ว่ากฎระเบียบยังไม่ชัดเจน กลุ่มธนาคารพาณิชย์ได้รับหนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและแนวโน้มดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ขณะที่Fintech ต้องมาพร้อมกับ Cybersecurity เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค
และธีมสุดท้าย "ธีมวิวัฒนาการของการบริโภค" มองธีมการบริโภคออนไลน์ จะฟื้นตัวกลับมาจากกระแส เมตาเวิร์ส ( Metaverse) แม้กฎเกณฑ์จะไม่สนับสนุนมากแต่เชื่อว่าจะไม่กดดันแรงเหมือนช่วงก่อนหน้า และมีความเป็นแฟชั่นและเปลี่ยนแปลงเร็ว สามารถลงทุนได้ในช่วงที่สภาพคล่องในตลาดยังสูง
ทางด้านมุมมองตลาดหุ้นไทยในปี 2565 ยังมุมมองเชิงบวกคาดดัชนีอยู่ที่ 1,670-1,770 จุด จากกลุ่มพลังงานและธนาคาร ส่วนปัจจัยการแแพร่ระบาดโควิดโอมิครอน ไม่ได้เป็นความเสี่ยงหลักแล้ว และสายพันธุ์ต่อไปอาจเป็ต่อไปอาจสุดท้ายแล้ว
แต่อย่างไรก็ตามความเสี่ยงในปีหน้าที่นักลงทุนยังต้องระวัง ได้แก่ 1.การเมืองสหรัฐ 2.นโยบายการเงินเข้มงวดเร็วเกินไป 3 .ราคาน้ำมันดิบขึ้นเร็วสูงกว่า 90ดอลลาร์ 4.ทิศทางการเมืองในประเทศ
ทางด้านภาพรวมเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวขึ้นในปี 2565 นายจิติพล คาดว่า จีดีพีจะขยายตัวที่3.5% แม้ยังไม่ฟื้นตัวถึงระดับก่อนโควิด แต่สามารถเดินทางในประเทศได้ใกล้เคียงปรกติ และยังมีอัพไซด์อยู่ที่การกลับมาของนักท่องเที่ยวและเงินดอลลาร์ที่มีโอกาสอ่อนค่ากลับบ้าง
ส่วน ดุลบัญชีเดินสะพัด มีโอกาสเป็นบวกอ่อนๆในปี2565 มองเงินบาทแข็งกลับไปที่ 32.5บาทต่อดอลลาร์ในช่วงสิ้นปี ขณะที่เงินเฟ้อสูงแต่เชื่อว่าไม่กระทบแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบาย คาดกนง.คงดอกเบี้ย 0.50% ขณะที่บอนด์ปีแตะ 2.00%