สไปเดอร์แมน ปลุกโรงหนังฟื้นทิ้งทวนปี 64 เมเจอร์ฯ เดินเกมรุกรับโมนเมนตัมบวก
ทิศทางธุรกิจโรงภาพยนตร์ปี 2565 โมเมนตัมเป็นบวก หลังสตูดิโอต่างๆ จ่อคิวเสิร์ฟหนังฟอร์มยักษ์เพียบตอบโจทย์แฟนๆทั่วโลก เมเจอร์ฯ จัดเต็มอาวุธการตลาด ลุย 24 แคมเปญใหญ่ปีหน้า เพิ่่มช่องทางขายป๊อปคอร์นเจาะร้านสะดวกซื้อ แตกไลน์สู่แคทเทอริ่ง
นายนรุตม์ เจียรสนอง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจโรงภาพยนตร์ช่วงโค้งสุดท้ายปี 2564 มีหนังฟอร์มยักษ์อย่างสไปเดอร์แมน โน เวย์ โฮม สร้างจุดเปลี่ยนสำคัญให้ตลาดทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย เนื่องจากผลตอบรับจากผู้ชมดีมาก โดยการฉายทั่วโลกทำเงินกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ ส่วนในไทยทำรายได้เฉลี่ยราว 50 ล้านบาทต่อวัน โดยสัปดาห์นี้คาดทะลุ 200 ล้านบาท และเมเจอร์ฯ คาดว่าหนังจะทำเงินเกินกว่า 400 ล้านบาทด้วย
ทั้งนี้ ปี 2564 มีภาพยนตร์ที่ทำเงินทะลุ 100 ล้านบาทหลายเรื่อง ทั้งภาพยนตร์ไทยและภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด เช่น เร็ว..แรงทะลุนรก 9 (Fast & Furious 9) ฮีโร่พลังเทพเจ้า(Eternals) ร่างทรง โฟร์คิงส์ อาชีวะยุค 90s และสไปเดอร์แมนฯ
“สไปเดอร์แมน โน เวย์ โฮม เป็นจุดเปลี่ยนให้ธุรกิจโรงภาพยนตร์คึกคัก โดยวันแรกที่เข้าฉายมีผู้ชมสนใจจองซื้อตั๋วล่วงหน้าคิดเป็นมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท และคาดว่าทำเงินได้เทียบเท่าอเวนเจอร์ ซึ่งเป็นหนังที่ทำเงินอันดับต้นๆของเมืองไทย ขณะที่หนังไทยอย่างโฟร์คิงส์ พิสูจน์ให้เห็นว่าหนังดีมีผู้บริโภคพร้อมออกจากบ้านมาดูที่โรง”
สำหรับกลยุทธ์การดึงคนดูและกระตุ้นยอดขายในช่วงปลายปี โดยเฉพาะต้อนรับวันหยุดยาวปีใหม่ โรงหนังเมเจอร์ ที่เป็นสาขาสแตนอะโลน จะทำการเปิดฉายรอบแรก ได้เวลา 09.00 น. และปิดขายตั๋วรอบสุดท้ายเวลา 02.00 น. หรือผู้บริโภคดูหนังจบราวเวลา 05.00 น. เป็นการสร้างรอบฉายได้เกือบ 24 ชั่วโมง เทียบกับก่อนหน้านี้ที่โรงภาพยนตร์ได้กลับมาเปิดให้บริการในเดือนตุลาคมสามารถฉายหนังเฉลี่ย 3 รอบต่อวัน เดือนพฤศจิกายนเพิ่มเป็น 4 รอบต่อวัน ขณะที่เดือนธันวาคม ทำได้ 5 รอบต่อวัน
ส่วนแนวโน้มธุรกิจโรงภาพยนตร์ปี 2565 โมเมนตัมยังดี มีคอนเทนท์เป็นแม่เหล็กดึงคนดู โดยค่ายหนังระดับโลกจะทยอยเสิร์ฟหนังฮอลลีวู้ดฟอร์มยักษ์ที่ค้างอยู่จำนวนมากออกมา เช่น เดอะ แบทแมน แบล็ค อดัม ฯ ที่สำคัญสตูดิโอหรือผู้สร้างหนังต่างยืนยันจะนำภาพยนตร์เข้าฉายที่โรงภาพยนตร์เป็นวินโดว์แรก 45 วัน จึงค่อยนำไปออกอากาศบนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งอื่นๆต่อไป
“ไตรมาสแรกมีหนังฟอร์มยักษ์จ่อคิวเข้าฉายดึงคนดูอีก 40 เรื่อง ตอบผู้บริโภคชาวไทยที่ยังชื่นชอบหนังฮอลลีวู้ด และการที่สตูดิโอยืนยันว่าจะนำหนังเข้าฉายที่โรงหนังเป็นวินโดว์แรก เพราะคุ้มค่าต่อการลงทุน จากนั้นจึงไปแพลตฟอร์มอื่น ขณะที่คอหนังยุคนี้ต้องการหลบสปอยล์ ก็จะเข้าไปเสพหนังในโรงก่อนใคร ทำให้โรงหนังได้ประโยชน์มากขึ้น”
สำหรับแนวทางการทำตลาดของเมเจอร์ฯ ปีหน้ายังอัดแคมเปญการตลาดเข้มข้น โดยมี 24 แคมเปญใหญ่กระตุ้นผู้บริโภคให้มาชมภาพยนตร์อย่างต่อเนื่อง อัดโปรโมชั่นพิเศษผ่านบัตรเอ็ม พาส เพิ่มความถี่จากคอหนัง รวมถึงไลฟ์ขายสินค้า(เมอร์เชนไดซ์)ต่างๆที่เกี่ยวเนื่องกับภาพยนตร์ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เป็นต้น
นอกจากการสร้างความคึกคักให้ธุรกิจโรงภาพยนตร์ จะเห็นการบุกหนักทำตลาดป๊อปคอร์นเพิ่มเติม โดยปี 2565 จะขยายจุดจำหน่ายออกนอกโรงภาพยนตร์มากขึ้น มีคีออสจำหน่ายสินค้าบริเวณชั้นจี(G)ของห้างค้าปลีกต่างๆ รวมถึงให้บริการเตรียมอาหาร(แคทเทอริ่ง)เจาะกิจกรรมคอนเสิร์ต กีฬา งานศพ งานแต่งงาน ฯ ที่สำคัญจะเห็นการขยายช่องทางจำหน่ายป๊อปคอร์นสู่ร้านสะดวกซื้อ เซเว่นอีเลฟเว่นด้วย