ทิสโก้ ชี้เป้า 8 กองทุนเด็ด ปี 65 เพิ่มโอกาสสร้างกำไร
ธนาคารทิสโก้ชี้เป้า 8 กองทุนรับปี 2565 ชู3 ธีมลงทุนหุ้นเด่นทำกำไร กลุ่มนวัตกรรมการแพทย์ - กลุ่มเทคโนโลยีแห่งอนาคต-กลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว ชี้การลงทุนทั่วโลกยังคงยากลำบาก แนะลูกค้าลงทุนระยะยาวในหุ้นเมกะเทรนด์เพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนเด่น
นางวรสินี เศรษฐบุตร ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์กองทุน และสื่อสารการตลาด สายธุรกิจธนบดี ธนาคารทิสโก้ เปิดเผยว่า จากคำแนะนำของธนาคารทิสโก้ ซึ่งเป็นรายแรกๆ ของตลาดที่เน้นให้ลูกค้าเลือกลงทุนระยะยาวในธุรกิจเมกะเทรนด์ของโลก 2 ธีมหลัก คือ 1. ธีมหุ้นกลุ่มนวัตกรรมการแพทย์ 2. ธีมหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีแห่งอนาคต โดยที่ผ่านมา 2 ธีมลงทุนดังกล่าว สามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างน่าพอใจ และในปีนี้ยังคงให้ลูกค้าลงทุนใน 2 ธีมดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง
“ธนาคารทิสโก้ ยังคงแนะนำให้ลูกค้าเลือกลงทุนระยะยาวในธุรกิจเมกะเทรนด์ของโลกอย่างต่อเนื่อง เพราะรายได้และกำไรของธุรกิจกลุ่มนี้มีโอกาสเติบโตดีตามความต้องการของผู้บริโภค เป็นเทรนด์ที่ทั่วโลกหลีกเลี่ยงไม่ได้ และผลการดำเนินงานของธุรกิจในสองธีมหลักยังคงมีโอกาสเติบโตดีแม้มีวิกฤติต่างๆ มากระทบ ซึ่งในปี 2565 ต้องยอมรับว่าการลงทุนทั่วโลกยังคงเป็นเรื่องยาก จากสถานการณ์ COVID–19 ที่ยังคงระบาดอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ทยอยลดสภาพคล่องในระบบ และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ดังนั้น การลงทุนระยะยาวในหุ้นเมกะเทรนด์จะช่วยเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับลูกค้าได้”
อย่างไรก็ตาม เพื่อรับมือกับธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ที่เตรียมเดินหน้านโยบายการเงินที่เข้มข้นขึ้น ดังนั้น สำหรับการลงทุนในระยะกลาง ได้เพิ่มคำแนะนำใหม่คือ ธีมหุ้นกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว โดยเน้นให้เลือกลงทุนในตลาดหุ้นยุโรปและญี่ปุ่น ซึ่งจะได้รับประโยชน์จากนโยบายการอัดฉีดเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลประเทศต่างๆ ในสหภาพยุโรป และรัฐบาลญี่ปุ่น อีกทั้งมูลค่าหุ้นยังไม่สูงมากนักเมื่อเทียบกับในอดีต โดยธีมลงทุนหุ้นกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว แนะนำให้ใช้กลยุทธ์เข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัว เพื่อหาจังหวะทำกำไรในช่วงที่ราคาปรับตัวขึ้น
สำหรับกองทุนเด่นที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้อย่างโดดเด่นในปี 2565 และสอดคล้องกับ 3 ธีม คือ 1. ธีมหุ้นกลุ่มนวัตกรรมการแพทย์ 2. ธีมหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีแห่งอนาคต และ 3. ธีมหุ้นกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว ธนาคารทิสโก้ได้คัดเลือกกองทุนเด็ดจากหลากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนชั้นนำ จำนวน 8 กองทุน ดังนี้
ธีม ‘ หุ้นกลุ่มนวัตกรรมการแพทย์'
1. กองทุนเปิด ทิสโก้ ไบโอเทคโนโลยี เฮลธ์แคร์ (TBIOTECH) ความเสี่ยงระดับ 7 (เสี่ยงสูง) กองทุนรวมตราสารทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีชีวภาพ (Biotechnology) การวินิจฉัยโรค (Diagnostics) และเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิต (Life Sciences Tools) ทั่วโลก ผ่านกองทุน Polar Capital Funds plc - Biotechnology ชนิดหน่วยลงทุน I US Dollar (กองทุนหลัก) ทั้งนี้ กองทุนนี้ลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรมเฮลธ์แคร์ จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก
2. กองทุนเปิด ยูไนเต็ด ไชน่า เฮลท์แคร์ อินโนเวชั่น ฟันด์ (UCHI) ความเสี่ยงระดับ 7 (เสี่ยงสูง) กองทุนรวมตราสารทุน เน้นลงทุนในธุรกิจเฮลธ์แคร์ ของประเทศจีน ผ่านกองทุนรวมตราสารทุนต่างประเทศ หรือกองทุนรวมอีทีเอฟ ที่มีนโยบายการลงทุนในหุ้น ซึ่งมีความเกี่ยวข้องหรือได้รับประโยชน์จากการพัฒนานวัตกรรมด้านเฮลธ์แคร์ (Healthcare Innovation) ของประเทศจีน ซึ่งเกี่ยวเนื่องหรือได้รับประโยชน์จากการพัฒนานวัตกรรมด้านเฮลธ์แคร์ของจีน เช่น การพัฒนาและค้นคว้าด้านเภสัชกรรม เทคโนโลยีชีวภาพ การบริหาร สถานพยาบาล การผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ ระบบไอทีด้านการดูแลสุขภาพ เป็นต้น ทั้งนี้ กองทุนนี้ลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรมเฮลธ์แคร์ จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก
ธีม ‘ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีแห่งอนาคต’
3. กองทุนเปิด ทิสโก้ Cyber Security (TCYBER) ความเสี่ยงระดับ 7 (เสี่ยงสูง) เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยทางไซเบอร์ ที่มีการพัฒนาและจัดการด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์และได้รับประโยชน์จากการพัฒนาและการใช้เทคโนโลยีด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ทั่วโลก ผ่านหน่วยลงทุนของกองทุนรวมตราสารทุนต่างประเทศ และ/หรือกองทุนรวมอีทีเอฟตราสารทุนต่างประเทศอย่างน้อย 2 กองทุน ซึ่งเบื้องต้นกองทุนได้ลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศ 2 กองทุน ได้แก่ กองทุน Global X Cybersecurity ETF และ กองทุน Allianz Global Investors Fund - Allianz Cyber Security ทั้งนี้ กองทุนนี้ลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรมเทคโนโลยีจึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก
4. กองทุนเปิด ทิสโก้ Cloud Computing อิควิตี้ (TCLOUD) ความเสี่ยงระดับ 7 (เสี่ยงสูง) กองทุนรวมตราสารทุน ที่เน้นลงทุนในบริษัทที่ได้รับประโยชน์จากการใช้เทคโนโลยี Cloud Computing เช่น ธุรกิจซอฟต์แวร์และแอพพลิเคชั่น ธุรกิจผู้พัฒนาและจัดทำแพลตฟอร์ม ธุรกิจผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานในการจัดเก็บข้อมูล บริษัทที่เป็นเจ้าของหรือบริหารจัดการพื้นที่จัดเก็บข้อมูล ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) ที่เกี่ยวข้องกับศูนย์จัดเก็บข้อมูล (Data Center) และธุรกิจผลิตหรือจัดจำหน่ายโครงสร้างพื้นฐานที่ใช้ในการประมวลผลข้อมูล และอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์สำหรับจัดทำ Cloud ผ่านกองทุนอีทีเอฟ Global X Cloud Computing ETF (กองทุนหลัก) ทั้งนี้ กองทุนนี้ลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรมเทคโนโลยี จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก
5. กองทุนเปิด แอล เอช อีสปอร์ต ชนิดสะสมมูลค่า (LHESPORT-A) ความเสี่ยงระดับ 6 เสี่ยงสูง กองทุนรวมตราสารทุน เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับ Video Gaming และ Esports ระดับโลก รวมถึงบริษัทที่พัฒนาวิดีโอเกมและโปรแกรมหรืออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวข้อง ผ่านกองทุน VanEck Vectors Video Gaming and eSports ETF ทั้งนี้ กองทุนนี้ลงทุนกระจุกตัวในหมวด Communication Services จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจํานวนมาก
6. Roundhill Ball Metaverse ETF กองทุนรวมดัชนีจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ซึ่งรวมธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ ‘Metaverse’ ไว้ด้วยกัน เช่น ธุรกิจประมวลผลข้อมูล ผู้ให้บริการการเชื่อมต่อแบบ Real Time บริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้อง บริษัทผู้พัฒนาจําลองแบบดิจิทัลเสมือนจริง (Virtual Platforms) ธุรกิจที่สร้างเครื่องมือให้ผู้คน สามารถทํางานร่วมกันได้ (Interchange Standards) ผู้ให้บริการการชําระเงินดิจิทัล รวมไปถึงสกุลเงินดิจิทัล ธุรกิจให้บริการออกแบบ การจัดเก็บ การป้องกันด้านความปลอดภัยของสินทรัพย์ดิจิทัลและสกุลเงินเสมือน และอุปกรณ์ที่ใช้ในการเข้าถึงเทคโนโลยีต่างๆ สําหรับการเข้าสู่โลก Metaverse สำหรับตัวอย่างบริษัทที่เกี่ยวข้อง เช่น NVIDIA Meta Microsoft Tencent Sony Roblox Unity Alibaba Square และ Walt Disney เป็นต้น
ธีม ‘ หุ้นกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว’
7. กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นยุโรป แอคทีฟ (ชนิดสะสมมูลค่า) (SCBEUROPE(A)) ความเสี่ยงระดับ 6 เสี่ยงสูง กองทุนรวมตราสารทุนเน้นลงทุนในหุ้น และ Depositary Receipts (รวมถึง American Depositary Receipts (ADRs) และ European Depositary Receipts (EDRs)) ของบริษัทที่ตั้งอยู่ในทวีปยุโรป ผ่าน Morgan Stanley Investment Funds - Europe Opportunity Fund (กองทุนหลัก) ชนิดหน่วยลงทุน (Share Class) Z Accumulation สกุลเงินยูโร
8. กองทุนเปิด กรุงศรีเจแปนเฮดจ์ปันผล (KF-HJAPAND) ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง) กองทุนผสม เน้นลงทุนในหลักทรัพย์ของประเทศญี่ปุ่นและหลักทรัพย์อื่นๆ ซึ่งมีผลตอบแทนเกี่ยวเนื่องกับภาวะเศรษฐกิจของญี่ปุ่น ผ่านกองทุน JPMorgan Japan (Yen) Fund, Class (acc) – JPY (กองทุนหลัก)
ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวข้างต้นอาจมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนจากการลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งกองทุนมี นโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจผู้จัดการกองทุน ยกเว้นกองทุน KF-HJAPAND ที่ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนทั้งหมด/เกือบทั้งหมด
พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์ ศิลาวงษ์