STGT - ตามล่าหา Bottom (วันที่ 14 มกราคม 2565)

STGT - ตามล่าหา Bottom (วันที่ 14 มกราคม 2565)

คาดกำไร 4Q ลดลง 49% qoq เป็น 2.3 พันลบ. จากราคาขายเฉลี่ยลดลงและแนวโน้มเชิงลบจาก Supply ทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นจะยังกดดันราคาขายอย่างต่อเนื่อง

เราคงคำแนะนำ ถือ ราคาเป้าหมาย 29.25บาทต่อหุ้น เราคาดว่าบริษัทจะประกาศจ่ายปันผล 1.25 บาทต่อหุ้นสำหรับการดำเนินงาน 4Q

 

กำไร 4Q มีแนวโน้มลดลง qoq

คาดราคาขายเฉลี่ยลดลง 25% qoq ใน 4Q เป็น 1,148 บาทต่อ 1,000 ชิ้น   (-40%yoy -25%qoq) เนื่องจากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะในจีน (ถุงมือไนไตร) ขณะที่ต้นทุนการผลิตจะลดลงเพียง 1% เนื่องจาก (1) ต้นทุนน้ำยางข้นทรงตัว qoq, (2) Butadiene ลดลง 16% qoq, และ (3) Acrylonitrile เพิ่มขึ้น 12% qoq ทำให้กำไรขั้นต้นลดลงเป็น 35.9% จาก 51.5% ใน 3Q ปริมาณขาย 4Q ดีขึ้นเป็น 7.4 พันล้านชิ้นจาก 7.1 พันล้านชิ้นใน 3Q คาดรายได้ใน 4Q อาจลดลง 22% qoq เป็น 8.5 พันลบ. และกำไรลดลง 49% qoq เป็น 2.3 พันลบ. จากอัตรากำไรขั้นต้นที่ต่ำลง

 

การขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์กระทบอัตราการผลิต

ดัชนี WCI (ตู้คอนเทนเนอร์โลก) และ SCFI (ดัชนีค่าระวางเรือคอนเทนเนอร์ Shanghai) ยังคงอยู่ในระดับสูงใน 4Q ที่ 9,490 (+212% yoy, -4% qoq) และ 4,692 (+151% yoy, +4% qoq) ตามลำดับ แต่บริษัทสามารถส่งผ่านต้นทุนค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้นให้ลูกค้า โดยต้นทุนค่าขนส่งจะถูกบันทึกในค่าใช้จ่าย SG&A แต่การขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ทำให้ปริมาณการส่งออกลดลงและทำให้บริษัทต้องลดอัตราการผลิตเป็น 90% ใน 3Q-4Q จากระดับใกล้ 95% ใน 3Q20-1Q21 ขณะที่อัตราการผลิตใน 2Q21 ลดลงเหลือ 82% ผลจากโควิดระบาดในโรงงานสองแห่ง

 

คงคำแนะนำ ถือ ราคาเป้าหมาย 29.25บาทต่อหุ้น

เราคงคาดการณ์กำไรปี FY21F และ FY22F ที่ 2.42 และ 1.04 หมื่นลบ. ตามลำดับและคงคำแนะนำ ถือ จากซัพพลายทั่วโลกเพิ่มขึ้นเร็วกว่าความต้องการ ทำให้ราคาขายเฉลี่ยลดลงอย่างรวดเร็ว ราคาเป้าหมายของเราอ้างอิง 8x FY22F EPS