เลขา คปภ. เผยทำประกันโควิด “เจอ จ่าย จบ” 2 ฉบับ แต่ยันไม่ขอรับค่าสินไหมทดแทน
เลขา คปภ. เผยทำประกันภัยโควิดแบบ “เจอ จ่าย จบ” 2 ฉบับ กรุงเทพประกันภัย - วิริยะประกันภัย แต่ยืนยันไม่ขอรับค่าสินไหม เหตุมีสวัสดิการดูแลค่ารักษาพยาบาลได้ และไม่ให้เกิดประเด็นกล่าวอ้างว่าตนเองไม่ให้ยกเลิกความคุ้มครอง เพราะป่วยโควิดหวังเคลมประกันเพื่อประโยชน์ส่วนตัว
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจ (คปภ.) เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีการแจ้งข่าวการติดโควิดของตนออกไปแล้วนั้น ปรากฏว่า มีสื่อมวลชนให้ความสนใจและสอบถามเข้ามาเป็นจำนวนมากว่า ตนได้ทำประกันภัยโควิดไว้หรือไม่
จึงขอชี้แจงว่าได้ทำประกันภัยดังกล่าวไว้ โดยภรรยาตนซื้อประกันภัยโควิดแบบเจอ จ่าย จบ ไว้กับบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) และบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ให้ตนทางออนไลน์ เพราะซื้อได้ง่าย และสะดวก โดยซื้อตั้งแต่ปี 2563 แล้ว
สาเหตุที่ภรรยาซื้อจากสองบริษัทนี้เพราะปกติได้ทำประกันภัยรถยนต์กับบริษัทนี้อยู่แล้ว ต่อมาเมื่อครบกำหนด บริษัทก็ส่งข้อความมาเตือนว่าจะต่อประกันภัยหรือไม่ ภรรยาของตนได้ต่อประกันภัยไป โดยขณะที่ทำประกันภัย ตนคิดว่าคงไม่ติดโควิดเพราะระมัดระวังตัวเป็นอย่างดี แต่ซื้อประกันภัยไว้เพื่อบริหารความเสี่ยง
“ตอนซื้อภรรยาผมไม่ทราบว่ามีข้อความให้บริษัทบอกเลิกสัญญาได้ ซึ่งคนทั่วไป ผมเชื่อว่าก็คงไม่ทราบเช่นกัน ภรรยาเอากรมธรรม์ประกันภัยที่บริษัทส่งมาให้ทางออนไลน์ให้ผมดูภายหลัง ปรากฏว่าข้อความที่เป็นเงื่อนไข ของกรมธรรม์ประกันภัยนั้นมีแต่ถ้าอยากทราบต้องคลิกเข้าไปอ่าน ซึ่งคนส่วนใหญ่จะไม่คลิกเข้าไปดู”
เนื่องจากการใช้สิทธิเคลมประกันภัยเป็นสิทธิส่วนตัว ส่วนตัวได้พิจารณาด้วยความรอบคอบแล้ว ขอประกาศให้ทราบทั่วกันถึง โดยยืนยันว่า จะไม่เคลมประกันภัยโควิดแบบเจอ จ่าย จบ ที่ภรรยาซื้อให้จากสองบริษัทดังกล่าว ด้วยเหตุผลดังนี้
1. เวลานี้ตนเองยังมีสวัสดิการและเงินเดือนพอที่จะดูแลค่ารักษาพยาบาลได้ เพื่อบริษัทประกันภัยจะได้เอาเงินประกันภัยเจอ จ่าย จบ ไปจ่ายให้ผู้เอาประกันภัยคนอื่นที่เขาเดือดร้อน
2. เพื่อแสดงถึงความบริสุทธิ์ใจ และไม่ให้เกิดประเด็นที่อาจจะไปอ้างว่าที่ตนเองกำลังต่อสู้เรื่องไม่ให้เลิกประกันภัยเจอ จ่าย จบ เพราะผมต้องการจะป่วยเป็นโควิด แล้วเคลมประกันภัยเพื่อประโยชน์ส่วนตัว ทั้งๆ ที่ไม่เป็นความจริงเลย จะได้เป็นการยืนยันด้วยว่าที่ผมต่อสู้อยู่ในขณะนี้เป็นการต่อสู้เพื่อผู้เอาประกันภัยที่เขาเดือดร้อน และเพื่อไม่ให้ความเชื่อมั่นของระบบประกันภัยไทยถูกทำลาย
พร้อมกันยังเดินหน้าเชิญ 14 บริษัทประกันภัย มาหารือเพื่อยืนยันการคุ้มครองและหาทางออกร่วมกันจะเดินหน้าต่อไป ไม่เลื่อนออกไปอย่างแน่นอน เพราะได้มอบหมายทีมงานไว้แล้ว จึงขอให้มั่นใจว่า สำนักงาน คปภ. จะทำหน้าที่ของหน่วยงานกำกับฯอย่างดีที่สุดเพื่อให้เป็นที่พึ่งด้านประกันภัยของประชาชนได้อย่างแท้จริง