ลดค่าโอนจดจำนองปลุกบ้านคอนโดมือสองไม่เกิน3ล้านคึกคัก

  "อิสระ บุญยัง" ประธานคณะกรรมการอสังหาริมทรัพย์ออกแบบและก่อสร้าง สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ประกาศดังกล่าวส่งผลดีต่อภาพรวมตลาดอสังหาฯ หลังจากที่รัฐออกมาตรการนี้ต่อเนื่องมา 2 ปีแล้ว ตั้งแต่เกิดโควิด 

และจากคาดการณ์ว่าปีนี้เศรษฐกิจ และอสังหาฯ จะเริ่มฟื้นตัว ทำให้เชื่อว่ามาตรการดังกล่าวจะส่งผลดีกว่า 2 ปีที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งมีผลมาจากการที่ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ผ่อนคลายเกณฑ์มาตรการแอลทีวี แม้สถาบันการเงินยังคงมีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อก็ตาม ทั้งนี้ยังมีผลจากการที่มาตรการนี้ครอบคลุมบ้านมือสองด้วย

"แม้หลายคนมองว่าบ้านมือสองแข่งบ้านมือหนึ่ง แต่มีส่วนหนึ่งที่ขายบ้านมือสองเพื่อมาซื้อมือหนึ่ง หรือขายบ้านเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ หรือขายไปเพื่อใช้หนี้ หรือขายเพื่อบรรเทาความเดือนร้อนในช่วงโควิด ที่ผ่านมาช่วยแก้ปัญหาได้หลายอย่าง"

ทั้งนี้มองว่า 2 ปีที่ผ่านมาบ้านมือสองไม่ได้อานิสงส์จากมาตรการดังกล่าว แต่ปีนี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม และบ้านมือสองจะเข้ามามีส่วนแบ่งมากขึ้น เป็นนาทีของคนซื้อ เพราะที่ผ่านมาบ้านมือสองไม่ได้ลดค่าโอนฯ และค่าจดจำนอง

จากข้อมูลพบว่า สัดส่วนยูนิตบ้านมือสองปี 2563 อยู่ที่ 36% มูลค่า 242,500 ล้านบาท สัดส่วน 26% ของตลาดอสังหาฯ 928,000 ล้านบาท ส่วนปี 2564 ชะลอตัว ฉะนั้นมาตรการนี้ถือเป็นประโยชน์กับตลาดอสังหาฯ โดยเฉพาะบ้านมือสอง และเงินที่ได้จากขายบ้านมือสองก็นำเงินมาใช้จ่ายหมุนเวียนต่อไป
 

"ปิยะ ประยงค์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การประกาศลดค่าโอนฯ และค่าจดจำนอง กลายเป็นพื้นฐานที่ต้องเข้ามาช่วยกระตุ้นคนซื้อ โดยเฉพาะเซกเมนต์กลาง-ล่าง ที่ไม่มีเงินสดในมือมากนัก

ดังนั้นมาตรการนี้จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาเรื่องเงินสดที่ต้องใช้ในการซื้อที่อยู่อาศัย ยิ่งในช่วงภาวะเศรษฐกิจไม่ดี รัฐบาลออกมาตรการเป็นระยะๆ เพื่อเร่งให้คนตัดสินใจได้ผลดี เพราะรายได้ของคนลดลง หลายคนไม่มีเงินสดโดยเฉพาะกลุ่มรากหญ้า มาตรการนี้ช่วยลดภาระเรื่องเงินสดที่ต้องนำมาใช้ในการซื้อที่อยู่อาศัย แต่ปัญหาถัดไปคือการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน เพราะเซกเมนต์กลาง-ล่างมักมีปัญหาการเข้าถึงสินเชื่อค่อนข้างยาก

"ชนินทร์ วานิชวงศ์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า การต่อมาตรการลดค่าโอนฯและจดจำนองเป็นสัญญาณบวกต่อตลาดอสังหาฯ แต่เห็นว่าน่าจะขยายเพดานราคาเพิ่มกว่า 3 ล้านบาท เพราะกลุ่มไม่เกิน 3 ล้านบาท เป็นสินค้าอยู่นอกเมือง เป็นตลาดแมส และมีสัดส่วนประมาณ 40-50% ส่วนที่เหลือราคาแพงกว่านั้นน่าจะครอบคลุมให้ทั่วถึงมากกว่า

"แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เนื่องจากเซกเตอร์อสังหาฯ เป็นเซกเตอร์ใหญ่ที่ทำให้ห่วงโซ่อุปทานที่เกี่ยวข้องเดินหน้าต่อไปได้โดยเฉพาะเซกเมนต์ระดับกลางล่าง ราคาอ่อนไหวง่าย มาตรการที่ออกมาจึงมีผลในการกระตุ้นตลาดค่อนข้างชัดเจน"

ปัจจุบันคนเริ่มใช้ชีวิตตามปกติ ฉะนั้นการที่รัฐบาลออกมาตรการช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย มีส่วนช่วยธุรกิจได้ในระดับหนึ่ง เพราะลำพังภาคเอกชนจัดรายการลดแลกแจกแถม คนไม่ค่อยสนใจเท่ากับรัฐออกมากระตุ้นให้เกิดความเชื่อมั่นในกลุ่มคนที่มีความต้องการซื้ออยู่แล้ว ประกอบกับปีนี้ สงครามราคาหมดลงไปแล้ว ฉะนั้นมาตรการนี้จึงเป็นแรงกระตุ้นทำให้คนรู้สึกต้องรีบตัดสินใจก่อนที่เศรษฐกิจกลับมาเป็นขาขึ้น ซึ่งมาตรการช่วยเหลือแบบนี้ไม่มีอีกต่อไปแล้ว

"มาตรการนี้จะเป็นตัวช่วยกระตุ้นให้คนเข้ามาซื้อที่อยู่อาศัยในปีนี้ แต่เสียดายที่รัฐไม่ได้ช่วยทุกเซกเมนต์ในตลาดอสังหาฯ เหมือนฝนตกไม่ทั่วฟ้า"