กางกำไร 5 แบงก์ ปี64 กระฉูด อานิสงส์สำรองวูบ11%

      “กลุ่มธนาคารพาณิชย์” ได้ทยอยรายงานผลการดำเนินงวดไตรมาส4 และงวดปี 2564 ล่าสุด ประกาศแล้ว จำนวน 5 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB),    ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY), บมจ. ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป (TISCO) และ บมจ. แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป (LHFG) และธนาคารกรุงศรีอยุธยา(BAY) ซึ่งกำไรที่ประกาศออกมาถือว่าดีกว่าที่โบรกเกอร์ประมาณการไว้ จากสำรองที่ปรับตัวลดลง และรายได้ค่าธรรมเนียมที่ดีขึ้น 

        สำหรับผลการดำเนินรวมของธนาคารพาณิชย์ 5 แห่ง โดยด้านกำไรสุทธิโดยรวมทั้ง 5แบงก์อยู่ที่ 12,477 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 68% ขณะที่ปี 2564 กำไรสุทธิรวมอยู่ที่ 58,058 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้น 26.9%
 

     ขณะที่ภาพรวมสำรองหนี้ต่อเอ็นพีแอล หรือการขาดทุนด้านเครดิตพบว่า ไตรมาส 4 อยู่ที่ 16,680 ล้านบาท ลดลง 25.24% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน และหากเทียบทั้งปี 2564 พบว่าสำรองทั้ง 5 แบงก์อยู่ที่ 63,662 ล้านบาท ลดลง 10.59%

     นายเซอิจิโระ อาคิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)สำหรับกำไรสุทธิ33,794 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งถึง 46.7% หรือ10,754 ล้านบาท จากปี 2563 มีปัจจัยหลักคือกำไรพิเศษจากเงินลงทุนจากการขายหุ้นใน บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) (เงินติดล้อ) ในไตรมาสที่ 2/2564

     หากไม่รวมรายการพิเศษ กำไรสุทธิจากการดำเนินธุรกิจปกติในปี 2564 อยู่ที่25,609 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.1% หรือ2,569 ล้านบาท จากปี ก่อนหน้า

      นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร   ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน)หรือ TTB   กล่าวว่า ธนาคารมีกำไร ในไตรมาส 4  ที่ 2,799 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 127% จากปีก่อน ขณะที่ทั้งปี กำไร 10,474 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4%

      ด้านการบริหารหนี้เสียยังเป็นไปตามแผน โดยหนี้เสียอยู่ระดับต่ำที่ 2.81% โดย ในปี 2565 ธนาคารตั้งเป้ากลับมาเติบโตทั้งด้านสินเชื่อและเงินฝาก

        นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ซีจีเอส- ซีไอ​เอ็มบี (ประเทศไทย)กล่าวว่า สำหรับงบแบงก์ที่ออกมา โดยรวมถือว่าออกมาดีกว่าคาด โดยเฉพาะ ttb ที่ออกมาดีกว่าตลาดคาด 10% เช่นเดียวกัน TISCO ที่ดีกว่าตลาดคาด 9%

      ทั้งนี้ปัจจัยหลักๆมาจาก ค่าใช้จ่ายสำรองที่ต่ำกว่าคาด ขณะที่สินเชื่อถือว่าออกมาเติบโตดีกว่าคาดเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะ ttb ขณะที่รายได้ค่าธรรมเนียม เติบโตต่อเนื่อง

     ส่วนงบแบงก์ที่เหลือที่จะทยอยออกมาคาดว่าน่าจะออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดเช่นกัน ส่วนแนวโน้มปี 2565 คาดว่าผลประกอบการมีทิศทางดีขึ้นต่อเนื่อง จากสำรองที่คาดลดลงต่อเนื่อง

      รวมถึงรายได้ค่าธรรมเนียมใหม่ๆจากเงินลงทุนที่คาดว่าจะเห็นผลกำไรที่ดีขึ้น เช่นเดียวกันสินเชื่อที่คาดว่าจะขยายตัวตามการขยายตัวของเศรษฐกิจ จากการขยายธุรกิจและกลับมาดำเนินของกิจการมากขึ้น อีกทั้งภายใต้ดอกเบี้ยขาขึ้น น่าจะเป็นผลดีกับแบงก์ให้มีผลตอบแทนทีดีขึ้นด้วย

           ด้านนายกรกช เสวตร์ครุตมัต ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ภายหลังTISCO TTB ประกาศงบไตรมาส 4 ปี 2564  พบว่าออกมาดีกว่าที่ฝ่ายวิจัยคาดการณ์ ซึ่งทั้ง 2 ธนาคารมีปัจจัยเชิงบวกที่คล้ายกัน กล่าวคือ รายได้ดอกเบี้ย (Loan Yield) ที่ออกมาดีกว่าคาดการณ์ โดยหลักมาจากกลุ่มสินเชื่อรายย่อย (Retail Loan)

      ถัดมาคือหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ที่ลดลง โดยหลักเป็นการลดลงจากที่ลูกค้ามีความสามารถกลับมาชำระคืนหนี้เพิ่มขึ้น แตกต่างจากช่วงที่ผ่านมาที่ลดลงจากมาตรการช่วยเหลือของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)

     โดยคาดหวังว่าธนาคารอื่นๆ ที่จะทยอยประกาศงบในวันนี้ (21 ม.ค.) จะมีทิศทางเชิงบวกที่ใกล้เคียงกับ TISCO และ TTB

    สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2565 ยังเชื่อมั่นว่ากำไรกลุ่มธนาคารจะเติบโตราว 12% โดยปัจจัยหนุนมาจากรายได้ค่าธรรมเนียมที่ฟื้นตัวและภาระการตั้งสำรองที่ลดลง ขณะที่การเติบโตของสินเชื่อคาดว่าจะเติบโตราว 4%