ธุรกิจบันเทิงผันผวน “จิรัฐ บวรวัฒนะ” หันลงทุนโรงแรม รอท่องเที่ยวฟื้น

จิรัฐ บวรวัฒนะ ผู้ก่อตั้ง บริษัท ครีเอทีฟ ไลฟ์สไตล์ เวนเจอร์ จำกัด หรือซีแอลวี และปลุกปั้น BNK48 เปิดเผยว่า ตนเองให้ความสนใจในการลงทุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจการพักผ่อน(Hosppitality) เพื่อรองรับการฟื้นตัวของธุรกิจท่องเที่ยวในอนาคต ซึ่งที่ผ่านมาได้ก่อตั้งบริษัท ออสโม่ พร็อพเพอร์ตี้ส์ กรุ๊ป จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 20 ล้านบาท ในการขยายธุรกิจ

ล่าสุด ได้ใช้งบลงทุน 350 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโรงแรมขนาด 79 ห้อง บริเวณริมแม่น้ำปิง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งขณะนี้โครงการอยู่ระหว่างก่อสร้าง และคาดว่าจะแล้วเสร็จปลายปี 2565 ส่วนแบรนด์ที่จะนำมาใช้ เบื้องต้นได้เจรจาเชนโรงแรมในเครือไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล มาให้บริการ ซึ่งจะเป็นระดับ 5 ดาว

ทั้งนี้ การเลือกพัฒนาโรงแรมที่เชียงใหม่ เนื่องจากมองเป็นจังหวัดที่เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางหรือเดสทิเนชั่นของนักท่องเที่ยวที่ต้องมาเยือนให้ได้ติดท็อป 1 ใน 10

นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการออกแบบเพื่อพัฒนาโรงแรมแห่งใหม่ ติดทะเลในจังหวัดระยองเพิ่มเติม ซึ่งจะมีห้องพักราว 120 ห้อง เพื่อรองรับการเติบโตของการท่องเที่ยวที่คาดว่าจะยกระดับเป็นหัวหิน 2 เนื่องจากระยองมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรืออีอีซี รถไฟความเร็วสูงที่จะเชื่อมต่อสนามบินต่างๆ เป็นต้น

ขณะเดียวกัน ท่ามกลางการท่องเที่ยวที่เติบโต แต่จำนวนห้องพักหรือซัพพลายของโรงแรม กลับยังมีค่อนข้างน้อย ส่วนพัทยาที่เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวสำคัญของภาคตะวันออก ปัจจุบันตลาดค่อนข้างแน่นแล้ว ทำให้บริษัทมองโอกาสในการขยายธุรกิจ

นอกจากนี้ ประเทศไทยมีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวที่เติบโตมาตลอดระยะเวลา 10-20 ปี แต่การเผชิญวิกฤติโรคโควิด-19 ระบาด ส่งผลกระทบต่อธุรกิจโรงแรมที่พักต่างๆไปบ้าง แต่คาดการณ์ปลายปี 2565 จะเห็นการฟื้นตัวกลับมาได้ และหากนักท่องเที่ยวจีนกลับมาการฟื้นตัวจะเป็นอัตราเร่งขึ้นด้วย แต่ภายใน 2 ปี ฟื้นตัวแน่นอน

ปัจจุบัน จิรัฐ มีการลงทุนในธุรกิจมีเดีย บันเทิง ภายใต้บริษัท อินดิเพนเด้นท์ อาร์ทิสท์ เมเนจเม้นท์ จำกัด หรือไอแอม( iAM) ผู้ปลุกปั้นโมเดลไอดอล เกิร์ลกรุ๊ปอย่างบีเอ็นเค 48(BNK48) และ ซีจีเอ็ม48(CGM 48) โดยธุรกิจดังกล่าวมีความเคลื่อนไหวสูง การเปลี่ยนแปลงเร็ว แต่เห็นผลลัพธ์ทันที ขณะที่การพัฒนาโรงแรม อสังหาฯ คืนทุนช้า นอกจากนี้ ออสโม่ฯ ยังเข้าไปลงทุนในธุรกิจไลฟ์สโตล์ ภายใต้โมเดลฟิลคอลเล็คชั่น(Phill Collection) ภาายใต้งบประมาณ 200 ล้านบาท เพื่อเปิดพื้นที่ให้เศรษฐีรุ่นใหม่มาสานคอนเน็คชั่นขยายธุรกิจด้วย 

“ธุรกิจสื่อ บันเทิงค่อนข้างมีความเร็ว จึงต้องการลงทุนในธุรกิจที่มีความช้าลง ซึ่งการลงทุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และโรงแรม เพราะมองตลาดท่องเที่ยวของไทยมีศักยภาพในการเติบโต จากการเป็นหนึ่งในเดสทิเนชั่นของนักเดินทางทั่วโลก ขณะเดียวกัน ไทยสินทรัพย์ที่ดีมากรองรับตลาด ทั้งธรรมชาติที่สวยงาม สิ่งแวดล้อมที่ดี การบริการของผู้คนที่ยิ้มแย้มแจ่มใส ซึ่งเมื่อนึกถึงการต่อยอดธุรกิจ จึงไม่มีอะไรเหมาะสมไปกว่าโรงแรม เพียงแต่ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เราอยู่ในวิกฤติโรคโควิด-19 ระบาด แต่คาดว่าปีหน้าการท่องเที่ยวอาจฟื้นตัวกลับมาดีขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่คาดว่าจะมาเที่ยวเอเชีย และประเทศไทยมากขึ้น ไปยุโรปน้อยลง จากปัจจัยลบต่างๆทั้งความขัดแย้ง ปัญหาการเหยียดเชื้อชาติ เป็นต้น”

ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภคในปี 2565 คาดการณ์จะปรับตัวดีขึ้น แต่ที่ต้องจับตาคือการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนจะมีความรุนแรงมากน้อยเพียงใด แต่การที่คนไทยได้รับวัคซีนเข็ม 2-3 และมีเข็มที่ 4 จะส่งผลให้การอยู่ร่วมกับโรคโควิด-19 มีสถานการณ์ที่ดีขึ้น

“เศรษฐกิจปี 2565 จะปรับตัวดีแค่ไหน หลังปีใหม่จะเห็นภาพที่ชัดขึ้น รวมถึงการระบาดของไวรัสโอมิครอน ที่จะมีผลต่อจำนวนผู้ป่วย หากตัวเลขน้อย เศรษฐกิจจะฟื้นตัวเร็ว ฟื้นดีและมีความแข็งแรงขึ้น ซึ่งสุดท้าายภาพรวมปี 2565 ดีกว่าปี 2564 แน่นอน”