สต็อกน้ำมันปาล์มเหลือ 1.6 แสนตัน ต่ำกว่าสต็อกกว่าครึ่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ของกรมการค้าภายในได้รายงานการตรวจสอบปริมาณสต็อกน้ำมันปาล์มคงเหลือภายในประเทศล่าสุด ณ วันที่ 29 ธ.ค. 2564 พบว่า น้ำมันปาล์มดิบสต็อกเหลืออยู่ 161,092 ตัน น้ำมันปาล์มกึ่งบริสุทธิ์ 27,690 ตัน น้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ 23,052 ตัน น้ำมันเนื้อในเมล็ดปาล์มดิบ 14,495 ตัน น้ำมันเนื้อในเมล็ดปาล์มบริสุทธิ์ 6,385 ตัน สเตียนรีน 8,375 ตัน และไบโอดีเซล (บี 100 ) 46,305 ตัน

ทั้งนี้ มีข้อน่าสังเกตว่า ปริมาณสต็อกน้ำมันปาล์มดิบปัจจุบันลดลงเมื่อเทียบกับตัวเลขสต็อกในเดือน พ.ย. 64 ที่มีจำนวน 226,447 ตัน และเดือนต.ค. ที่ยังอยู่ในระดับ 245,165 ตัน โดยปริมาณสต็อกน้ำมันปาล์มดิบถือว่า “ต่ำ” หรือต่ำกว่า Safety Stock ที่กำหนดไว้ให้อยู่ในระดับ 250,000 -300,000 ตัน

ขณะที่ราคาเฉลี่ยผลปาล์มทะลาย 3 แหล่งผลิตสำคัญ คือ สุราษฎร์ธานี-กระบี่-ชุมพร ล่าสุดวันที่ 21ม.ค..ที่โรงสกัดน้ำมันปาล์มรับซื้ออยู่ที่ระหว่าง 10-11 บาทต่อกก. ขณะที่น้ำมันปาล์มดิบอยู่ระหว่าง 55-56 บาทต่อกก. ส่งผลให้น้ำมันปาล์มบริสุทธิ์บรรจุขวด 1 ลิตร กับน้ำมันปาล์มบรรจุปี๊บมีการปรับราคาสูงขึ้น

ส่วนราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวด 1 ลิตร ตั้งแต่วันที่ 6 ม.ค. -17 ม.ค. 65 พบว่า ราคาอยู่ระหว่าง 54-55 บาทต่อขวด แต่วันที่ 18 ม.ค.จนถึงปัจจุบัน ราคาก็ขยับเพิ่มขึ้นเป็น 55-60 บาท เมื่อสำรวจราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวด 1 ลิตร ย้อนหลัง 5 ปีพบว่า ปี 2560 -2565 ราคาขยับเพิ่มขึ้น จาก 29-42 บาทต่อขวด มาเป็น 52-60 บาทต่อขวด

ก่อนหน้านี้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า กระทรวงพาณิชย์จะเชิญทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งเกษตรกร ผู้ผลิต ผู้บริโภค มาหรือเพื่อหาทางออกร่วมกัน ทั้งนี้ยอมรับว่า ปัญหาน้ำมันปาล์มเป็นการบ้านที่ยาก เพราะราคาดีเกษตรกรก็พอใจ แต่ก็กระทบกับผู้ผลิต กระทบผู้บริโภค ดังนั้นจะต้องหาจุดสมดุลทั้ง 3 ฝ่าย แต่ก็ยังไม่มีกำหนดว่าจะมีการประชุมเมื่อไร