ร้านค้า "คนละครึ่ง" ต้อง "ยื่นภาษี" อย่างไร มีรายได้เท่าไรถึง "เสียภาษี" ?
สรุปการ "ยื่นภาษี" สำหรับพ่อค้า แม่ค้า ร้านค้า "คนละครึ่ง" รับเงินด้วยแอพฯ "ถุงเงิน" พร้อมหลักเกณฑ์มี "รายได้" เท่าไรถึงต้อง "เสียภาษี" ?
เข้าร่วมโครงการ "คนละครึ่ง" หรือรับเงินผ่านแอพฯ "ถุงเงิน" ในมาตรการต่างๆ ของรัฐต้อง "เสียภาษี" หรือไม่ ?
คำถามที่ "พ่อค้า แม่ค้า" ที่เข้าร่วมมาตรการของรัฐกังวลหลังมีข่าวรายงานว่ามีร้านค้าได้รับจดหมายจาก "กรมสรรพากร" เกี่ยวกับการเรียกเก็บภาษีหลังจากที่เข้าร่วมโครงการของรัฐ ซึ่งข้อมูลเบื้องต้นที่ "สรรพากร" ออกมาชี้แจงคือ เป็นหนังสือเตือนสำหรับร้านค้าที่มีรายได้ถึงเกณฑ์เสียภาษีเท่านั้น
ดังนั้น คำตอบของคำถามข้างต้นคือ "ร้านค้าที่มีรายได้ถึงตามเกณฑ์ที่กำหนดจะต้องยื่นภาษี ส่วนจะต้องเสียภาษี (จ่ายภาษี) หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับเงินได้สุทธิ หรือรายได้สุทธิที่แต่ละร้านได้รับ" โดยเป็นไปตามเกณฑ์ต่อไปนี้
เบื้องต้นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า "ยื่นภาษี" ≠ "เสียภาษี" หมายความว่า หากมีรายได้ถึงเกณฑ์ยื่นภาษีก็มีหน้าที่ยื่นเอกสารแสดงรายได้ต่อกรมสรรพากรตามกำหนด ส่วนจะต้องเสียภาษีหรือจ่ายภาษีหรือไม่นั้น ต้องดูที่ "เงินได้สุทธิ" จากการคำนวณภาษี (รายได้ - ค่าใช้จ่าย - ค่าลดหย่อน = เงินได้สุทธิ)
ถ้าเงินได้สุทธิถึงเกณฑ์ที่กำหนด จึงจะต้อง "เสียภาษี" โดยเป็นไปตามอัตราขั้นบันไดที่กำหนด ไม่ได้เสียภาษีเท่ากันทุกคน
- มีรายได้เท่าไรถึงต้อง "ยื่นภาษี" ?
สำหรับพ่อค้า แม่ค้า ที่ค้าขายและมีรายได้ในนามบุคคลธรรมดา (ไม่ต้องจดเป็นนิติบุคคล) จะต้องมีภาระภาษีส่วนที่เป็น "รายได้จากการขาย คือ ยอดขายปกติ" และ "ยอดขายคนละครึ่ง ซึ่งหมายถึง ยอดขายทั้งส่วนที่ได้รับจากลูกค้าและส่วนที่ได้รับจากรัฐ" รายได้ที่กล่าวไปทั้งหมดถือว่าเป็น "เงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (8)" แห่งประมวลรัษฎากรที่จะต้องนำมารวมเพื่อคำนวณภาษี
โดยคนที่ต้อง "ยื่นภาษี" คือคนโสด มีรายได้เกิน 60,000 บาทต่อปี และคนมีคู่สมรส (ตามกฎหมาย) ไม่ว่าจะมีรายได้ฝ่ายเดียวหรือทั้งสองฝ่ายรวมกันเกิน 120,000 บาท
โดยสามารถหักค่าใช้จ่ายตามความเป็นจริง (ต้องมีเอกสารหลักฐานค่าใช้จ่าย) หรือหักเป็นการเหมาในอัตรา 60% และหักค่าลดหย่อนได้ตามที่กฎหมายกำหนด
เมื่อหักค่าใช้จ่าย และค่าลดหย่อนเรียบร้อยแล้วสามารถประเมินได้ว่า "ต้องเสียภาษี" เท่าไร จาก "เงินได้สุทธิ" ตามตารางต่อไปนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ร้านค้าคนละครึ่ง ต้องยื่นภาษีอย่างไร ?
หากมีรายได้ถึงเกณฑ์ตามที่กล่าวไปข้างต้น ร้านค้าจะต้องนำรายได้เหล่านั้นมา "ยื่นภาษี" โดยจะต้องยื่นภาษี 2 ครั้ง ตามระยะเวลาที่กำหนด ดังนี้
ครั้งแรก คือ การยื่นภาษีครึ่งปีหรือกลางปี ที่เรียกว่า ภ.ง.ด. 94 โดยจะต้องยื่นภายในเดือนกันยายน
ครั้งที่ 2 คือ การยื่นภาษีช่วงปลายปี ที่เรียกว่า ภ.ง.ด.90 ที่จะต้องยื่นภายในเดือนมีนาคมปีถัดไป
นอกจากนี้ กรณีที่พ่อค้า แม่ค้า ที่ขายดีมีรายรับเกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี จะต้องยื่น "ภาษีมูลค่าเพิ่ม" หรือ "VAT" ด้วย โดยจัดทำรายงานภาษีขาย รายงานภาษีซื้อ เพื่อยื่นแบบที่เรียกว่า ภ.พ.30 นำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มทุกเดือน และชำระเงินภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไปด้วย
- ตัวอย่างการคำนวณภาษีเงินได้
อ่านรายละเอียด คู่มือภาษีผู้มีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับผู้ประกอบการ SME ที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง จากกรมสรรพากร คลิกที่นี่
--------------------------------------------------------
อ้างอิง: rd.go.th, กรมสรรพากร
พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์ ศิลาวงษ์