EE ขึ้นแท่นผู้นำต้นน้ำกัญชง ลุยกลาง-ปลายน้ำ โกยรายได้ โบรกอัพเป้า 3 บาท
EE เล่นใหญ่ ประกาศขึ้นแท่นผู้นำต้นน้ำกัญชง
เร่งดันธุรกิจกลางและปลายน้ำออกสู่ตลาด พร้อมจับมือพันธมิตรโกยรายได้ทุกช่องทาง ขณะที่บล.เคจีไอ อัพเป้าราคา 3 บาท
บริษัท อีเทอเนิล เอนเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ EE เป็นผู้มีความเชี่ยวชาญด้านการเกษตรกรรมมาเป็นเวลาช้านาน ผันตัวเข้าลงทุนในพืชเศรษฐกิจสุดฮอต กัญชง-กัญชา โดย นายวรศักดิ์ เกรียงโกมล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เผยถึงแผนธุรกิจของบริษัทฯว่า ในปี 2565 นี้ EE ตั้งมั่นเป็นผู้ดำเนินธุรกิจกัญชง-กัญชาแบบครบวงจรที่มีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่องในทุกช่องทาง
โดยตั้งแต่ปลายปี 2564 เราได้เข้าลงทุนในผู้ประกอบการต้นน้ำของกัญชงดาวรุ่งคือ บริษัท แคนนาบิซ เวย์ จำกัด หรือ CW ซึ่งได้ "นางฟ้ากัญชา" คุณอุนารินทร์ กิจไพบูลทวี ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเชิงลึกด้านการเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจมาร่วมงาน ทำให้บริษัทเข้าใจถึงความต้องการของผู้บริโภค เข้าถึงกลุ่มลูกค้าในระดับกลางน้ำและปลายน้ำได้อย่างรวดเร็วแม้จะเพิ่งเริ่มรุกเข้าสู่วงการกัญชง
EE พัฒนาธุรกิจอย่างเข้มข้นขึ้นในระยะเวลาอันรวดเร็ว ตามแผนงาน Original ที่มุ่งมั่นเข้าลงทุนในธุรกิจกัญชง เริ่มจากการลงทุนใน แคนนาบิซ เวย์ ของนางฟ้ากัญชา และเดินเครื่องต่อสู่โปรเจกต์ "CW2" (อยู่ใน pipeline) ศึกษาการเข้าลงทุนในกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจกัญชง-กัญชารายอื่นๆ ที่มีความพร้อม มีศักยภาพทางด้านผลิตผล บุคลากร
และที่สำคัญมีออเดอร์พร้อม ซึ่งหมายความว่าจะเป็นโปรเจกต์ที่มีรายได้เข้ามาอย่างแน่นอน หากการศึกษามั่นใจว่าเป็นผลดีต่อบริษัท 100% จะนำเสนอต่อผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติการเข้าลงทุน ขยายกิ่งก้านใบต้นกัญชงเพื่อดัน EE เป็นเบอร์ต้นของวงการ
ด้านการดำเนินธุรกิจกลางน้ำและปลายน้ำ บริษัทกำลังศึกษาเจรจากับพันธมิตรหลายราย ทั้งที่เป็นผู้ประกอบการทั่วไปและบริษัทจดทะเบียน คาดว่าจะเห็นความคืบหน้าได้ภายในไตรมาสที่ 2-3 ปี 2565 นี้ โดย EE พร้อมทำให้เห็นว่าธุรกิจกัญชง-กัญชาที่บริษัทโดดเข้ามาดำเนินการอย่างเต็มตัว สามารถสร้างรายได้มหาศาลได้เฉกเช่นพืชเศรษฐกิจประเภทอื่นๆ และโตขึ้นอย่างมั่นคงในแต่ละปี จากแนวโน้มความต้องการของตลาดที่เปิดกว้างขึ้น
อีกทั้งเรายังมีเวลาเพียงพอต่อการพัฒนาขึ้นเป็นผู้นำในตลาดกัญชงของไทย จากกฎกระทรวงที่กำหนดมิให้นำเข้ากัญชงภายในระยะเวลาห้าปี ฉะนั้นบริษัทมีความมั่นใจมากต่อการแข่งขันที่เกิดขึ้นภายในประเทศ ในขณะเดียวกันเรายังเตรียมความพร้อมสำหรับการส่งออกได้อีกด้วย
ปัจจุบันโปรเจกต์แรกของบริษัท “CW” มีฟาร์มเพาะปลูกแบบโรงเรือน Green House สำหรับปลูกกัญชงขนาด 9,000 ตร.ม. ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 36 ไร่ ตั้งอยู่ ณ อำเภอวิหารแดง จังหวัดสระบุรี ในอนาคตพื้นที่โครงการจะพัฒนาเป็นศูนย์เรียนรู้ “CBD Agro-Tech Center” กำลังเพาะปลูกต้นกัญชงคุณภาพเต็มพื้นที่เพื่อส่งจำหน่ายช่อดอกสู่กลุ่มลูกค้า และอยู่ระหว่างพื้นที่โดยรอบเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรกรรม ดึงดูดนักท่องเที่ยวและสร้างรายได้ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงได้อีกด้วย
ทั้งนี้บริษัทจะจัดการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2565 ในวันที่ 28 มกราคม 2565 เวลา 14.00 น. ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-Meeting) โดยมีสาระสำคัญเกี่ยวกับแผนการดำเนินธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างน่าพอใจ รวมถึงการพิจารณาอนุมัติการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท ครั้งที่ 1 (EE-W1) ซึ่งจะจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น
ด้านบล.เคจีไอ(ประเทศไทย) จำกัด แนะนำ EE เป็นหุ้นเด่นในบทวิเคราะห์เช้าวันนี้ (26 ม.ค.) โดยประเมินแนวรับ 2.10 บาท และแนวต้าน 2.20-2.40 บาท ประเมินกำไรจากการดำเนินงาน(ไม่รวมกำไรจากการขายหุ้นโรงไฟฟ้า) ปี 2565 จะเติบโต 212% YOY เป็น 209 ล้านบาท จากการเข้าสู่ธุรกิจปลูกพืชกัญชง โดยคาดจะเริ่มการเก็บเกี่ยวครั้งแรกในเดือนเม.ย.2565
นอกจากนี้ EE มีอัพไซด์ จากเงินสดในมือ +/- 600 ล้านบาท(เงินจากขายโรงไฟฟ้า) รอการสรุปดีลซื้อธุรกิจปลูกพืชกัญชงอีกแห่งใน 1H65 นี้ และ ประเมินมีโอกาสลงทุนเพิ่มเติมอีก เนื่องจากเป็นบริษัทที่ไม่มีหนี้สินระยะยาว DE ต่ำเพียง 0.08 เท่า Ford PE ปีนี้ 28 เท่า ขณะที่ Forword PE ธุรกิจกัญชง-กัญชาในต่างประเทศสูง เฉลี่ย +/- 49 เท่า
เราประเมินราคาพื้นฐานเหมาะสม EE โดยอิงเป้าหมาย Forword PE 40 เท่า ซึ่งเรากำหนดบนสมมุติฐานเป้าหมาย Forword PE ที่พรีเมี่ยม เนื่องจาก discount จาก Forword PE ของหุ้นที่ทำธุรกิจกัญชง-กัญชาในต่างประเทศ ที่มี Forword PE เฉลี่ย 49 เท่า และโอกาสในการเข้าลงทุนเพิ่มเติมอีก จากเงินสดในมือกว่า 600 ล้านบาท รวมทั้งเป็นบริษัทที่ไม่มีหนี้สินระยะยาว ให้ราคาเป้าพื้นฐานที่ 3.0 บาท