วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (28 ม.ค. 65)
ราคาน้ำมันดิบปรับ หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในมี.ค. สกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ
- ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนท์ปรับตัวลดลง หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในมี.ค.65 และยืนยันแผนการที่จะยกเลิกการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในเดือนนั้นด้วย เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ ซึ่งสนับสนุนให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งตัวขึ้น โดยดัชนีค่าเงินดอลลาร์ปรับเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ ก.ค. 64 ส่งผลให้ความน่าสนใจในการลงทุนในตลาดน้ำมันลดลง
-/+ สถานการณ์ความขัดแย้งเกี่ยวกับยูเครนยังคงตึงเครียด อย่างไรก็ตามแม้ว่าข้อเรียกร้องด้านความมั่นคงของรัสเซียจะไม่ได้รับการตอบสนองจากทางสหรัฐฯ แต่ทางรัสเซียยังพร้อมเปิดประตูสำหรับการเจรจาในอนาคตข้างหน้า
+ นักลงทุนจับตาการประชุมของกลุ่มโอเปคและพันธมิตร (OPEC+) ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 2 ก.พ. 65 ซึ่งคาดว่าทางกลุ่ม OPEC+ จะกำหนดนโยบายการผลิตสำหรับเดือน มี.ค. โดยยึดข้อตกลงเดิมในการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันที่ 400,000 บาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ตามในปัจจุบันผู้ผลิตบางรายของกลุ่มยังไม่สามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้ตามเป้าหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ผลิตในแอฟริกาตะวันตกที่ประสบปัญหาด้านการลงทุน
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากอุปทานที่ตึงตัวในภูมิภาค หลังโรงกลั่นในเวียดนามลดกำลังการผลิตลงกว่า 30% เนื่องจากปัญหาทางด้านการเงิน อีกทั้งการส่งออกจากจีนที่ลดลงในช่วงเทศกาลตรุษจีน
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังความต้องการใช้น้ำมันดีเซลในภูมิภาคยังคงอยู่ในระดับสูง อีกทั้งยังได้รับแรงหนุนจากน้ำมันดีเซลคงคลังญี่ปุ่น ที่ปรับลดลงกว่า 12% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา