IMH ตั้งเป้ารายได้ปี 65 นิวไฮทะลุ 1.2 พันล้าน จ่อปิดดีลซื้อรพ.ไตรมาสแรก
IMH คาดการณ์รายได้ปี 65 นิวไฮเกิน 1.2 พันล้าน พร้อมขยายธุรกิจโรงพยาบาลแห่งใหม่ คาดชัดเจนไตรมาส 1/65 ฟากนักวิเคราะห์แนะนำซื้อ อัพเป้ากำไร-รายได้ปีนี้ จากแรงหนุนนำ รพ.เข้าตลาดหุ้น
นายสิทธิวัตน์ กำกัดวงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทโรงพยาบาลอินเตอร์เมดิคัล แคร์ แอนด์ แล็บ จำกัด (มหาชน) หรือ IMH เปิดเผยว่า โรงพยาบาลประชาพัฒน์ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลทั่วไปขนาดใหญ่ ให้บริการรักษาโรคทั้งคนไข้สิทธิ์รัฐ และเงินสด ซึ่งปัจจุบันภายใต้สถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 โรงพยาบาลประชาพัฒน์ได้ให้บริการคนไข้โควิด-19 เป็นส่วนใหญ่
หากสถานการณ์โควิด-19 มีแนวโน้มดีขึ้น และรัฐบาลประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น ทางโรงพยาบาลประชาพัฒน์ได้เตรียมแผนรับรู้รายได้ โดยเน้นคนไข้เงินสดและประกันเอกชน ควบคู่คนไข้สิทธิรัฐ ซึ่งคาดว่ารายได้จากกลุ่มคนไข้เงินสดและประกันเอกชนจะมีสัดส่วน 70% ซึ่งมีมาร์จิ้นดีกว่า
โดยโรงพยาบาลประชาพัฒน์จะรองรับคนไข้พื้นที่ฝั่งธนบุรีเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งในช่วงวิกฤตโควิด-19 นั้น ประชาชนพื้นที่ฝั่งธนบุรีได้เข้ามารับบริการในโรงพยาบาลประชาพัฒน์เป็นจำนวนมาก และได้รับการตรวจรักษาดูแลเป็นอย่างดี จึงทำให้โรงพยาบาลประชาพัฒน์เป็นที่รู้จักของประชาชนในพื้นที่โซนดังกล่าวอย่างกว้างขวาง ส่งผลให้คาดว่าภายในปี 2565 จะมีคนไข้หมุนเวียนมาใช้บริการกว่า 250,000 คน
"กลุ่ม IMH คาดว่าในปี 2565 รายได้รวมจะทำนิวไฮเกินระดับ 1,200 ล้านบาท และส่วนของดีลขยายธุรกิจโรงพยาบาลแห่งใหม่นั้น เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเกิดขึ้นในช่วงไตรมาส 1 ปี 2565 ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจา"
ด้านนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ประเมินว่า ด้วยการแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้ฝ่ายวิจัยได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2565 ของ IMH จากเดิม 139% เป็น 458 ล้านบาท (เติบโต 5% จากช่วงเดียวกันปีก่อน) รวมถึงปรับสมมติฐานรายได้เพิ่มขึ้น 75% เนื่องจาก IMH มีรายได้จากการให้บริการโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ยังมีการเปิดศูนย์การแพทย์เฉพาะทางรักษาโรคผู้ป่วยหลังโควิด อาทิ โรคปอดติดเชื้อ และโรคทางเดินหายใจ ประกอบกับธุรกิจหลักด้านการให้บริการตรวจสุขภาพจะเติบโตเพิ่มสูงกว่าปกติ เนื่องจากคนไข้หันมาให้ความสำคัญด้านสุขภาพมากขึ้น และ IMH ได้รับผลบวกเต็มปีจากการรวมรายได้จากโรงพยาบาลประชาพัฒน์
อย่างไรก็ตาม จากการที่ IMH ได้รับอานิสงส์จากการตรวจและรักษาโควิด-19 รวมถึงผลจากการควบรวมกิจการ (M&A) ทั้งนี้ ยังไม่รวมโอกาสขาขึ้น (อัพไซด์) จากการขยายกิจการโรงพยาบาล และการนำโรงพยาบาลประชาพัฒน์เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยช่วงปลายปี 2565 ซึ่งจะส่งผลให้ผลประกอบการเพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ จึงแนะนำซื้อโดยให้ราคาเหมาะสมที่ 28 บาท