การเคหะฯเล็งตั้งบริษัท - ออกหุ้นกู้ ระดมทุนโครงการเคหะสุขประชาฯ

นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวภายหลังการรับมอบรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่นปี 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล วานนี้ (31 ม.ค.) ว่าจากนโยบายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ที่ต้องการให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อย และกลุ่มเปราะบางมีที่อยู่อาศัยและมีความรู้ทักษะอาชีพ ที่รัฐบาลมีแผนงานโครงการบ้านเคหะสุขประชาชน บ้านเช่าพร้อมอาชีพ โดยมีกรอบระยะเวลาการดำเนินงาน 5 ปีจำนวน 100,000 ยูนิตทั่วประเทศใช้วงเงินลงทุนประมาณ 6 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ในปี 2565 จะเริ่มดำเนินโครงการในระยะที่ 1 เพื่อก่อสร้างที่พักตามโครงการจำนวน 3 หมื่นยูนิตทั่วประเทศ ใช้วงเงินลงทุนประมาณ 1.8 หมื่นล้านบาท โดยในส่วนของการระดมทุนการเคหะฯอยู่ระหว่างเจรจากับนักลงทุนสถาบันเพื่อออกหุ้นกู้โดยใช้หลักการการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ (Securitization) โดยนำเอาสินทรัพย์ที่มีอยู่มาเป็นสินทรัพย์เพื่อระดมทุนจากนักลงทุนสถานบัน ซึ่งจะมีความชัดเจนสามารถไประดมทุนจากนักลงทุนสถาบันได้ในเดือน พ.ค.นี้

 

รวมทั้งจะนำเอาโครงการบ้านเอื้ออาธรที่ยังจำหน่ายไม่หมดในบางพื้นที่มาปรับปรุงและขายออกไปโดยได้หารือกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เพื่อให้มีการปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ที่สนใจในโครงการต่อไป

ในส่วนการระดมทุนจากประชาชนจะเป็นขั้นตอนต่อไปที่การเคหะฯมีการตั้งบริษัทลูกขึ้นเพื่อดำเนินการโครงการเคหะสุขประชาชนบ้านเช่าพร้อมอาชีพ แล่วจะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และกระจายหุ้นให้กับประชาชนเป็นการทั่วไปเพื่อให้ได้มีโอกาสเข้ามามีส่วนร่วมในโครงการดังกล่าว

สำหรับโครงการบ้านเคหะสุขประชาฯที่จะมีการก่อสร้างบ้านทั่วประเทศนอกจากที่อยู่อาศัยที่จะให้กลุ่มผู้มีรายได้น้อยเช่าซื้อได้ในราคาถูกยังมีการฝึกอาชีพ และสร้างอาชีพในพื้นที่โครงการ 6 กลุ่มอาชีพ

ได้แก่ 1)เกษตรอินทรีย์ เช่น ปลูกพืชระยะสั้น ปลูกพืชล้มลุก ปลูกผลไม้ยืนต้น ฯลฯ

2)ปศุสัตว์ เช่น เลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ เลี้ยงปลา ฯลฯ

3)อาชีพบริการ เช่น ดูแลผู้สูงอายุ (Elderly Day Care) สร้างงานในชุมชน กลุ่มแม่บ้าน ฯลฯ

4)ตลาด เช่น แผงตลาด

5)อุตสาหกรรมขนาดเล็ก เช่น กระดาษสาน ดอกไม้จันทน์ เย็บผ้า ฯลฯ

และ 6)ศูนย์การค้า ปลีก-ส่ง เช่น Mini Mall คลังกระจายสินค้า