'หุ้นไฟแนนซ์' ราคาพุ่ง เก็งงบไตรมาส 4/64 สดใส โบรกคาดปี 65 โตอีก 25%

ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นกลุ่มเงินทุนและหลักทรัพย์ (ไฟแนนซ์) วานนี้ (2 ก.พ.) ปรับขึ้นร้อนแรง นำโดย บมจ.ศักดิ์สยามลิสซิ่ง (SAK) เพิ่มขึ้น 9.19% บมจ.เน็คซ์ แคปปิตอล (NCAP) 6.54% บมจ.เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล (HENG) 5.65% บมจ.ชโย กรุ๊ป (CHAYO) 5.43% และ บมจ.บัตรกรุงไทย (KTC) 4.53%

นายกรกช เสวตร์ครุตมัต ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย เปิดเผยว่า การปรับขึ้นของกลุ่มไฟแนนซ์วานนี้ มาจากหลายปัจจัยบวกที่สนับสนุน ได้แก่ การย้ายกลุ่มลงทุน (Sector Rotation) ซึ่งหมุนเวียนในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการเปิดประเทศ จากเดิมที่เข้าลงทุนในกลุ่มธนาคาร ย้ายมากลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และย้ายมากลุ่มไฟแนนซ์ในที่สุด

นอกจากนี้ ยังได้แรงหนุนจากการผ่อนคลายความกังวลอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยิลด์) ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงสัปดาห์ก่อน ซึ่งส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุนของกลุ่ม เพราะกระทบต้นทุนการออกพันธบัตรมาปล่อยสินเชื่อ และสุดท้ายคือแรงหนุนจากกระแสเก็งกำไรงบไตรมาส 4 ปี 2564 ซึ่งหุ้นขนาดเล็กทำได้ดีกว่าหุ้นขนาดใหญ่ ส่งผลให้ราคาปรับขึ้นร้อนแรง 5-9%

สำหรับการลงทุน แม้ว่าระยะสั้นราคาหุ้นไฟแนนซ์ขนาดเล็กจะเคลื่อนไหวโดดเด่น แต่ระยะกลางถึงยาวให้น้ำหนักการลงทุนในหุ้นไฟแนนซ์ขนาดใหญ่มากกว่า เพราะราคาหุ้นยังปรับขึ้นได้ช้ากว่ากลุ่ม (แลกการ์ด) อีกทั้งมูลค่า (Valuation) อยู่ในระดับที่ค่อนข้างถูก สะท้อนจากอัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E) ที่ต่ำกว่า 20 เท่า

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยหนุนจากคาดการณ์กำไรปี 2565 จะเติบโตดีจากปีก่อนราว 25% จากการแข่งขันด้านอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง และโควิด-19 ที่คลี่คลาย ส่งผลบวกต่อการปล่อยสินเชื่อ โดยแนะนำ บมจ.เมืองไทย แคปปิตอล (MTC) บมจ.เงินติดล้อ (TIDLOR) และ บมจ.อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) (AEONTS)

นางสาวกิตติมา สัตยพันธ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ สายงานวิจัย บล.ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ฝ่ายวิจัยคาดการณ์กำไรกลุ่มไฟแนนซ์ไตรมาส 4 ปี 2564 อยู่ที่ 5,899 ล้านบาท เติบโต 4% จากไตรมาสก่อน แต่ลดลง 5% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตาม แนวโน้มปี 2565 คาดว่ากำไรกลุ่มจะฟื้นตัวได้ดีราว 15% จากแรงหนุนการเติบโตของสินเชื่อที่เร่งตัวขึ้นและการตั้งสำรองที่ลดลง