PTC เคาะราคาเสนอขายหุ้น IPO 3.50 บาทต่อหุ้น คาดเข้าเทรด mai ก.พ.นี้
"พรีเมียร์ แทงค์ คอร์ปอเรชั่น" กำหนดราคาขายหุ้น IPO ที่ 3.50 บาทต่อหุ้น เตรียมเปิดให้นักลงทุนรายย่อยจองซื้อวันที่ 4 – 8 ก.พ.นี้ คาดเข้าเทรด mai ในเดือนก.พ.นี้ พร้อมวาง 5 กลยุทธ์หลักเพื่อสร้างความเป็นเลิศในทุกด้าน และศึกษาการลงทุนธุรกิจใหม่เพื่อสร้างรายได้ประจำ
บริษัท พรีเมียร์ แทงค์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PTC ได้แต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด เป็นผู้จัดการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน พร้อมแต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์อีก 3 ราย เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายหุ้น IPO ของ PTC ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
นางจารีรัตน์ บุลสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด ในฐานะผู้จัดการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน กล่าวว่า บมจ.พรีเมียร์ แทงค์ คอร์ปอเรชั่น ได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ที่ 3.50 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นราคาที่เหมาะสมสะท้อนพื้นฐานและศักยภาพ การเป็นผู้นำอันดับ 1 ในธุรกิจคลังน้ำมันพื้นที่ภาคอีสานตอนบน-ล่าง ซึ่งจากการสั่งสมประสบการณ์ในการประกอบธุรกิจขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงทางบกและสถานีบริการน้ำมันมากว่า 20 ปี ทำให้มีความเข้าใจในธุรกิจได้เป็นอย่างดี ส่งผลต่อการพัฒนาระบบห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ของอุตสาหกรรมพลังงานให้มีประสิทธิภาพ โดยจะเปิดจองซื้อหุ้น IPO ในวันที่ 4 – 8 กุมภาพันธ์ 2565 และคาดว่าจะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนและซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ภายใต้ชื่อย่อหลักทรัพย์ "PTC"
"มั่นใจว่าการเสนอขายหุ้น IPO ของ PTC ครั้งนี้ จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนรายย่อย โดยการกำหนดราคาหุ้น ที่ราคา 3.50 บาทต่อหุ้น ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง จากศักยภาพการเติบโตและเป้าหมายการดำเนินงาน ทำให้ PTC มีความสามารถเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาวอย่างแน่นอน"
นายวรชาติ ทวยเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ของ บมจ. พรีเมียร์ แทงค์ คอร์ปอเรชั่น นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่ช่วยเสริมศักยภาพการดำเนินงานและฐานะการเงินเพื่อรองรับแผนขยายการลงทุนต่างๆ ซึ่ง PTC เป็นบริษัทคลังน้ำมันที่ทันสมัยที่สุดในปัจจุบัน และมีบทบาทสำคัญในการกระจายน้ำมันเชื้อเพลิงให้กับสถานีบริการน้ำมันครอบคลุมทั่วทั้งภาคอีสาน ด้วยที่ตั้งของคลังน้ำมันอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพสูง เป็นจุดยุทธศาสตร์ในการเชื่อมต่อระบบขนส่งน้ำมัน และเป็นจุดศูนย์กลางการกระจายน้ำมัน ส่งผลให้ผลการดำเนินงานที่ผ่านมา สามารถทำรายได้เติบโตสม่ำเสมอตามปริมาณการจ่ายน้ำมันที่มากขึ้น ขณะที่อัตรากำไรสุทธิ และอัตรากำไรขั้นต้นยังอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องในระยะยาว
ปัจจุบัน บมจ.พรีเมียร์ แทงค์ คอร์ปอเรชั่น มีทุนจดทะเบียน 205 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท โดยมีทุนเรียกชำระแล้ว 150 ล้านบาท คิดเป็นหุ้นสามัญจำนวน 300 ล้านหุ้น และจะเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 110 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 26.83 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท โดยภายหลังการออกและเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ บริษัทฯ จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ในการชำระเงินกู้แก่สถาบันการเงิน และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
นายวีรวัฒน์ บูรพพัฒนพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีเมียร์ แทงค์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PTC ผู้ประก อบธุรกิจคลังน้ำมันสำหรับรับ เก็บ ผสมและจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง เปิดเผยว่า บริษัทฯ มุ่งมั่นสู่การเป็นหนึ่งบริษัทจดทะเบียนชั้นนำในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ที่พร้อมเดินหน้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเสริมความเชื่อมโยงด้านระบบการขนส่งพลังงาน ให้ทุกพื้นที่มีโอกาสเข้าถึงพลังงานอย่างเท่าเทียมกัน
บริษัทฯ มีความตั้งใจและมุ่งมั่นในการให้บริการเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมน้ำมันในประเทศไทย ผ่านกลยุทธ์เพื่อสร้างความเป็นเลิศในด้านต่าง ๆ ได้แก่
1. สร้างฐานการให้บริการในทำเลที่เป็นเลิศ (Asset & Location excellence) เลือกจุดที่ตั้งสำคัญในการสร้างคลังที่เหมาะสมที่จะเป็นจุดยุทธศาสตร์ในการเชื่อมต่อระบบขนส่งน้ำมัน และเป็นจุดศูนย์กลางการกระจายน้ำมันในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนืออย่างมีประสิทธิภาพ
2. สร้างการปฏิบัติงานที่เป็นเลิศ (Operational excellence)โดยการบริหารกระบวนการรับ เก็บ ผสม และจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงตามมาตรฐานสากลในด้านความปลอดภัย ภายในต้นทุนการบริการที่มีประสิทธิภาพ
3. สร้างระดับการให้บริการที่เป็นเลิศ (Service excellence) ยึดมั่นความพึงพอใจของลูกค้าเป็นหลักสำคัญ รับฟังความเห็นของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง และนำคำแนะนำไปปรับปรุงสร้างบริการ หรือกระบวนการใหม่ ๆ มุ่งเน้นการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
4. สร้างกระบวนการใช้เทคโนโลยีที่เป็นเลิศ (Technological excellence)ด้วยการนำเทคโนโลยี อุปกรณ์ดิจิทัล และโปรแกรมการจัดการทรัพยากรภายในคลังแบบอัตโนมัติและแอปพลิเคชันต่าง ๆ ที่เหมาะสมเข้ามาประยุกต์ใช้ในกระบวนการทำงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการและการจัดการต้นทุน
5. สร้างทีมงานที่เป็นเลิศ (People excellence) เน้นสร้างรากฐานทีมบริหารและทีมปฏิบัติการที่ประกอบไปด้วยบุคลากร ที่มีความรู้ ความสามารถ ความชำนาญ และประสบการณ์ในการทำงานต่าง ๆ โดยจะปลูกฝังบุคลากรให้ยึดถือค่านิยมขององค์กรและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบัน บริษัทฯ เป็นผู้ให้บริการที่มีบทบาทสำคัญในการกระจายน้ำมันเชื้อเพลิงให้กับสถานีบริการน้ำมันครอบคลุมทั่วทั้งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบด้วย 1) บริการรับ เก็บ และจ่ายผลิตภัณฑ์น้ำมันเชื้อเพลิงสำเร็จรูปประเภทเบนซินและดีเซล ให้บริการที่คลังน้ำมัน จ.ขอนแก่น ("คลังขอนแก่น") และคลังน้ำมัน จ.ศรีสะเกษ ("คลังศรีสะเกษ") และ 2) บริการผสมน้ำมันเชื้อเพลิงพื้นฐานตามสูตรเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์น้ำมันเชื้อเพลิงสำเร็จรูปตามที่ลูกค้าต้องการ ให้บริการที่คลังศรีสะเกษ
สำหรับ การเข้าระดมทุนครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันเพื่อรองรับโอกาสทางธุรกิจในอนาคต โดยบริษัทฯ วางเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจที่ชัดเจน คือ
1.) การเพิ่มประสิทธิภาพในการรับ-จ่ายน้ำมัน รองรับวิธีการขนส่งน้ำมันที่หลากหลาย โดยได้วางแผนสร้างจุดรับน้ำมันทางรถไฟที่คลังศรีสะเกษ เพื่อลดต้นทุนการขนส่งของลูกค้า จากปัจจุบันที่ให้บริการการรับน้ำมันทางรถบรรทุกเพียงทางเดียว พร้อมเพิ่มจำนวนสถานีบริการที่มารับน้ำมันจากคลังของบริษัทฯ
2.) มุ่งเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งมอบพลังงานเพื่อให้ทุกพื้นที่ มีโอกาสเข้าถึงพลังงานอย่างเท่าเทียมกัน
3.) เสริมธุรกิจใหม่ๆ เพื่อสร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนใหม่ในโครงการที่มีศักยภาพ อาทิ โครงการโรงไฟฟ้าชุมชน, โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน, โรงไฟฟ้าขยะ และโซลาร์ เพื่อกระจายฐานรายได้ และลดความเสี่ยงจากการพึ่งพิงธุรกิจใดธุรกิจหนึ่ง