มูลค่าตลาด 'แคมป์ปิ้ง' ทั่วโลกพุ่ง 11.2% อยากจับธุรกิจนี้ต้องเริ่มอย่างไร?

มูลค่าตลาด 'แคมป์ปิ้ง' ทั่วโลกพุ่ง 11.2% อยากจับธุรกิจนี้ต้องเริ่มอย่างไร?

เมื่อ "แคมป์ปิ้ง" กลายเป็นเทรนด์ท่องเที่ยวมาแรงในยุคโควิด ด้วยมูลค่าการตลาดที่พุ่งสูงขึ้นไม่หยุดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวต่างลงเล่นในสนามนี้มากขึ้น หากคุณเป็นอีกคนที่สนใจธุรกิจนี้ ต้องเริ่มต้นยังไง? เรามีคำตอบมาให้

เมื่อสถานการณ์โควิด-19 ที่ลากยาวมาร่วม 3 ปี กระตุ้นให้ผู้คนโหยหาการเดินทางและอยากสัมผัสธรรมชาติมากขึ้น ส่งผลให้กระแสท่องเที่ยว "แคมป์ปิ้ง" กลายเป็นเทรนด์เที่ยวยุคโควิดที่มาแรงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

โดยสามารถตอบโจทย์ทั้งในแง่ราคาที่ไม่แพงเกินไป ได้สัมผัสธรรมชาติ สูดอากาศบริสุทธิ์ มี "ลานกางเต็นท์" ให้เลือกหลายแห่งใกล้กรุง แถมสามารถเว้นระยะห่างตามมาตรการป้องกันโควิดได้อย่างเหมาะสมด้วย

ปรากฏการณ์ "แคมป์ปิ้ง"ฟีเวอร์ในยุคนี้ ไม่ได้บูมเฉพาะในไทยเท่านั้น แต่ทิศทางของกระแสท่องเที่ยวกางเต็นท์ทั่วโลกก็กำลังมาแรงเช่นกัน ยิ่งทำให้ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวต่างก็สนใจธุรกิจแคมป์ปิ้งหรือให้บริการ "ลานกางเต็นท์" มากขึ้น

หากคุณเป็นหนึ่งในมือใหม่ที่อยากหันมาจับธุรกิจนี้ ต้องรู้ว่าจะเตรียมพร้อมอย่างไร? และควรมีบริการอะไรให้ลูกค้าบ้าง? กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ รวบรวมข้อมูลเบื้องต้นมาให้ทราบดังนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

 

 

  • มูลค่าตลาด "แคมป์ปิ้ง" ปี 2565 คาดเพิ่มขึ้นอีก 11.2%

ก่อนอื่นมาดูว่าธุรกิจแคมป์ปิ้งเติบโตขึ้นจริงไหม และเติบโตมากแค่ไหน? เรื่องนี้มีคำตอบจาก The Business Research Company ที่รายงานว่า มูลค่าตลาดการท่องเที่ยวสไตล์แคมป์ปิ้งทั่วโลก คาดว่าจะเติบโตจาก 6.2 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2564 เพิ่มเป็น 6.89 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2565 ที่อัตราการเติบโตต่อปี  11.2%  และคาดว่าจะโตถึง 1 แสนล้านดอลลาร์ ในปี 2569 หรือเติบโตขึ้นอีก 9.9%

การเติบโตของตลาดแคมป์ปิ้งส่วนใหญ่ เกิดจากผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวมีการปรับตัว และเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการ เพื่อให้ธุรกิจฟื้นตัวจากผลกระทบของโควิด-19

ก่อนหน้านี้ต้องยอมรับว่าธุรกิจท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างหนักจากมาตรการการเว้นระยะห่างทางสังคม ทำให้แหล่งท่องเที่ยว-ที่พักในจุดท่องเที่ยวหลายแห่งต้องปิดกิจการไปก็มี

 

  • Gen Y เป็นกลุ่มหลักที่ขับเคลื่อนตลาด "แคมป์ปิ้ง"

รายงานชิ้นดังกล่าวยังระบุอีกว่า ประชากรกลุ่มมิลเลนเนียล หรือกลุ่ม Gen Y เป็นประชากรหลักที่ขับเคลื่อนธุรกิจลานกางเต็นท์ให้เติบโต

โดยประชากรกลุ่มนี้ คือ คนหนุ่มสาวที่เกิดระหว่างปี ค.ศ.1980 - 2004 ตามรายงานของ World Youth Student and Educational Travel Convention ที่รายงานในปี 2020 และยังมีผลสำรวจพบว่าคนรุ่นมิลเลนเนียลทั่วโลก มีการเดินทางท่องเที่ยวมากถึง 320 ล้านครั้งต่อปี

นอกจากนี้ คาดว่าคนรุ่นมิลเลนเนียลจะมีจำนวนมากกว่าเบบี้บูมเมอร์เกือบ 22 ล้านคนภายในปี 2573 และส่วนใหญ่ก็มีความสนใจการท่องเที่ยวแนวแคมป์ปิ้ง กิจกรรมผจญภัย และการสำรวจธรรมชาติมากกว่าคนรุ่นอื่นๆ 

 

 

  • ส่องธุรกิจ "แคมป์ปิ้ง" ในไทยพบเติบโตสูงเช่นกัน

อย่างที่ในรายงานบอกไปข้างต้นว่า การเติบโตของตลาดแคมป์ปิ้งทั่วโลก เกิดจาก ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวมีการปรับตัวและเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการ เพื่อให้อยู่รอดในยุคโควิด-19 

สำหรับประเทศไทยเองก็พบแนวโน้มไปในทิศทางเดียวกัน ชี้ชัดจากข้อมูลสถิติ Google Trends ที่พบว่าในระยะ 4-5 ปีที่ผ่านมา คนไทยนิยมท่องเที่ยวแคมป์ปิ้งและ"ลานกางเต็นท์" มากขึ้นทุกปี และธุรกิจที่มารองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ก็มีอัตราการเติบโตที่สูงเช่นกัน

มูลค่าตลาด \'แคมป์ปิ้ง\' ทั่วโลกพุ่ง 11.2% อยากจับธุรกิจนี้ต้องเริ่มอย่างไร?

อีกทั้งมีข้อมูลจาก บริษัท เทรคกิ้งไทย จำกัด สำรวจพบว่า ปัจจุบันธุรกิจลานกางเต็นท์เอกชนในประเทศไทยมีอยู่หลายร้อยแห่งกระจายในทุกภาค และจำนวนลานกางเต็นท์เอกชนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แค่รอบๆ กรุงเทพฯ ในรัศมี 150 กม. มีลานกางเต็นท์มากกว่า 500 แห่ง อาทิ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี, อ.แก่งคอย จ.สระบุรี, อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ฯลฯ 

รวมถึงการท่องเที่ยวในรูปแบบ "รถแคมป์ปิ้ง" (รถบ้าน/รถEV) ก็ได้รับความนิยมไม่น้อยไปกว่ากัน โดยเฉพาะทำเลจุดท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างริมทะเลและภูเขา เช่น จ.อุบลฯ, จ.ประจวบฯ, สระบุรี, นครราชสีมา และเชียงใหม่ เป็นต้น

 

  • อยากจับธุรกิจ "แคมป์ปิ้ง" ต้องเริ่มต้นอย่างไร?

หากคุณเป็นหนึ่งคนที่สนใจและอยากเริ่มทำธุรกิจนี้ ก่อนอื่นต้องตัดสินใจก่อนว่าคุณจะเลือกทำธุรกิจในรูปแบบ "แกลมปิ้ง" หรือแบบ "แคมป์ปิ้ง(ลานกางเต็นท์)" ซึ่งทั้งสองอย่างนี้มีความแตกต่างกันเล็กน้อย 

งานวิจัยเรื่อง "แผนธุรกิจ Home Camping ในรูปแบบแกลมปิ้งและแคมป์ปิ้ง (Glamping & Camping Business)" จากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ อธิบายเอาไว้ว่า แกลมปิ้ง เป็นการผสมคำกันระหว่างคำว่า "ความหรูหรา" (Glamourous) และคำว่า "การตั้งแคมป์" (Camp) มารวมกัน จึงเกิดเป็นคำจำกัดความใหม่ของธุรกิจให้บริการในรูปแบบ "การตั้งแคมป์ โดยมีห้องพัก/บ้านพักบริการ และมีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายครบครันเหมือนโรงแรม แต่ยังคงได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ"

ส่วนคำว่า "แคมป์ปิ้ง" เป็นการบริการพื้นที่เช่าลานกางเต็นท์ สำหรับนักท่องเที่ยวที่เตรียมอุปกรณ์มาเอง มีทำเลที่ตั้งใกล้ชิดธรรมชาติ เช่น น้ำตก ทะเล ภูเขา ฯลฯ และมีจุดบริการสิ่งอำนวยความสะดวกให้ตามเหมาะสม

หากเลือกรูปแบบธุรกิจการให้บริการนักท่องเที่ยว (Glamping หรือ Camping) ที่ชัดเจนได้แล้ว จากนั้นก็ให้เริ่มสำรวจและเตรียมพร้อมทั้งในด้านข้อมูล วิเคราะห์สถานที่ ดูกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และวางแผนโมเดลธุรกิจ เป็นลำดับต่อมา ดังนี้

1. วิเคราะห์พื้นที่/สถานที่ที่จะให้บริการ

เนื่องจากลูกค้าเป้าหมายที่นิยมท่องเที่ยวแบบแคมป์ปิ้ง มักจะเป็นกลุ่มคนในเมืองใหญ่ เช่น กรุงเทพฯ หรือหัวเมืองใหญ่อื่นๆ ดังนั้นพื้นที่ที่เหมาะสม จึงควรอยู่ในรัศมี 150 กิโลเมตรจากเมืองใหญ่ และควรเป็นพื้นที่ที่ใกล้ชิดธรรมชาติ โดยต้องศึกษาเรื่องข้อกฎหมายและความเสี่ยงควบคู่กันไปด้วย

2. ลองเที่ยวด้วยตัวเอง/พูดคุยกับขาเที่ยวสายแคมป์ปิ้ง

จุดเริ่มต้นของธุรกิจนี้ ผู้ประกอบการควรออกไปเที่ยวแคมป์ปิ้งด้วยตัวเอง เพื่อเก็บข้อมูลจากประสบการณ์จริง และได้พูดคุยกับขาเที่ยวสายแคมป์ปิ้งตัวจริงที่ในอนาคตเขาอาจกลายเป็นลูกค้าของคุณ

3. ศึกษา “มาตรฐานลานกางเต็นท์” ของกรมการท่องเที่ยว

กรมการท่องเที่ยว เป็นหน่วยงานการพัฒนาและบริการกิจกรรมการท่องเที่ยว สำหรับผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวและชุมชน ซึ่งมาตรฐานสำหรับลานกางเต็นท์ของกรมการท่องเที่ยว มีหลักเกณฑ์การพิจารณา 5 เรื่องหลักๆ คือ ลักษณะของพื้นที่, สิ่งอำนวยความสะดวก, การบริหารและการจัดการ, กิจกรรมและการเรียนรู้, การมีส่วนร่วมของชุมชน

โดยผู้ประกอบการลานกางเต็นท์เอกชนสามารถขอตรวจประเมินมาตรฐานจากกรมการท่องเที่ยวได้ “ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย” ดูรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่

4. เขียนโมเดลธุรกิจ

หากคิดจะทำธุรกิจอย่างจริงจัง ต้องทำให้ภาพของธุรกิจชัดเจนมากขึ้นด้วยการเเขียนโมเดลธุรกิจ วิเคราะห์ วางแผนให้ดีก่อนจะเริ่มทำธุรกิจ แกนหลักที่ควรมีในแผนธุรกิจ ได้แก่ ต้นทุน, ทรัพยากร, ลูกค้าเจาะกลุ่มไหน, สิ่งจำเป็นที่ต้องมี, จุดขายที่โดดเด่น, กิจกรรม, พันธมิตร, ที่มารายได้, เซอร์วิส เป็นต้น

5. สิ่งอำนวยความสะดวกที่ควรมีให้ลูกค้า

  • ห้องน้ำ-ห้องอาบน้ำ ต้องสะอาด สะดวก และเพียงพอต่อการใช้งาน
  • ระบบน้ำภายในลานกางเต็นท์
  • ระบบไฟ จุดต่อปลั๊กไฟ มีให้เพียงพอ
  • ระบบสื่อสาร เสาขยายคลื่น และระบบอินเทอร์เน็ต
  • มีพื้นที่จอดรถเพียงพอ

นอกจากนี้ ผู้ประกอบการควรสร้างความสัมพันธ์อันดีกับชุมชนใกล้เคียงและใส่ใจสิ่งแวดล้อมควบคู่กันไปด้วย เพราะลูกค้ากลุ่มเป้าหมายมักเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์รักษ์โลก ดังนั้นจึงควรมีแผนการจัดการเรื่องขยะ ติดตั้งถังบำบัดน้ำเสีย เป็นต้น

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการเริ่มต้นธุรกิจแคมป์ปิ้งและลานกางเต็นท์เท่านั้น ยังมีรายละเอียดอีกมากที่ผู้ประกอบการต้องศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ก่อนจะตัดสินใจเริ่มทำธุรกิจนี้ เพื่อให้ธุรกิจที่คุณลงทุนลงแรงไปสามารถอยู่รอดในยุคโควิดให้ได้

-----------------------------------------

อ้างอิง : งานวิจัย ม.กรุงเทพ, the business research company, trekkingthai, mgronline, กรมการท่องเที่ยว