Satang Pro จ่อขอไลเซ่นส์สินทรัพย์ดิจิทัล ต่อยอดธุรกิจครบวงจร
Satang Pro เผยแผนธุรกิจปี 65 เล็งขอไลเซ่นส์ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลเพิ่ม “โบรกเกอร์-ICO Portal-ที่ปรึกษา” หวังต่อยอดธุรกิจครบวงจร เผยมีผู้สนใจออกโทเคนกว่า 10 ราย
นายสรัล ศิริพันธ์โนน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตางค์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้ให้บริการศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล Satang Pro เปิดเผยว่า สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2565 บริษัทวางเป้าหมายประชาสัมพันธ์ศูนย์ซื้อขายฯ ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น โดยยังมุ่งเน้นการเป็นแพลตฟอร์มให้ความรู้นักลงทุน สอดคล้องกับแผนระยะยาวของบริษัทที่จะขอใบอนุญาต (ไลเซ่นส์) ที่ปรึกษาสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Advisory Service)
ทั้งนี้ Satang Pro มองสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นสินทรัพย์หนึ่งที่สามารถลงทุนในระยะยาวได้ อย่างไรก็ดี ปัจจุบันผู้ลงทุนอาจยังมีความรู้หรือความเข้าใจก่อนเข้ามาลงทุนมากนัก จึงอยากสนับสนุนผู้ลงทุนในมิติดังกล่าวให้มากขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนขอไลเซ่นส์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลเพิ่มเติม เพื่อเติมเต็มบริการให้ครบวงจร โดยอยู่ระหว่างการขอไลเซ่นส์นายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Broker) และผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล (ICO Portal) จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จากปัจจุบันบริษัทมีใบอนุญาตประกอบธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Exchange) เท่านั้น
ในส่วนของ ICO Portal ปัจจุบันมีลูกค้าเข้ามาขอคำปรึกษาและแสดงความสนใจที่จะออกและเสนอขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน (Investment Token) รวมถึงโทเคนดิจิทัลเพื่อการใช้ประโยชน์ (Utility Token) แล้วมากกว่า 10 ราย ซึ่งกระจายอยู่ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ละคร และแอนิเมชั่นภายหลัง Satang Pro เป็นที่รู้จักจากการเป็นที่ปรึกษาฯ ออกโทเคนดิจิทัล JFIN Coin ให้แก่กลุ่มเจมาร์ท ซึ่งเป็นการเสนอขายก่อนที่ประเทศไทยจะมีการกำหนดกฎหมายสินทรัพย์ดิจิทัล
นายสรัล กล่าวว่า Satang Pro ยังมีแผนขยายการลงทุนไปยังธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งแพลตฟอร์มการเงินแบบไม่รวมศูนย์ (DeFi) สัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) ธุรกิจ NFT (Non-Fungible Token) รวมถึงการออกผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นสื่อกลางการชำระค่าสินค้าและบริการ (Means of Payment : MOP)
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ MOP จะต้องติดตามผลการรับฟังความเห็น (เฮียริ่ง) ของสำนักงาน ก.ล.ต.ต่อประเด็นดังกล่าวก่อนเดินหน้าลงทุน โดยจากรายงานข่าวชี้ว่า ก.ล.ต.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีแผนออกหลักเกณฑ์อนุญาตให้ใช้ Stable Coin หรือเหรียญดิจิทัลที่สามารถคงมูลค่าเพื่อใช้เป็นสื่อกลางการชำระเงินได้ ซึ่งต้องรอนิยามที่ชัดเจนจากทางการต่อไป
สำหรับภาพรวมธุรกิจในปี 2564 Satang Pro มีมูลค่าการซื้อขาย (วอลุ่ม) เฉลี่ยต่อวันราว 100-200 ล้านบาทต่อวัน โดยช่วงพีคมีวอลุ่มหนาแน่นถึง 300-400 ล้านบาท สำหรับจำนวนบัญชีลูกค้าอยู่ที่ประมาณ 3-4 หมื่นบัญชี โดยเป็นบัญชีที่ยืนยันตัวตนผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์แล้ว (e-KYC) และมีการซื้อขายอย่างเป็นประจำ (Active User) ราว 2 หมื่นบัญชี