แอสเซทไวส์ลุย‘ซินเนอร์ยี’ดันยอดนิวไฮหมื่นล้านปีนี้

แอสเซทไวส์ลุย‘ซินเนอร์ยี’ดันยอดนิวไฮหมื่นล้านปีนี้

“แอสเซทไวส์” ผนึกพันธมิตรไทย-เทศ “ซินเนอร์ยี” สร้างโอกาส ลดเลี่ยงธุรกิจ เพิ่มรายได้ประจำ “คอมมูนิตี้มอลล์-สุขภาพและความงาม” รุกคอนโดโลว์ไรส์ หวังสิ้นปียอดขายทะลุหมื่นล้าน

นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2565 มีแนวโน้มฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจที่น่าจะคึกคักขึ้น เป็นจังหวะที่ดีในการขยายธุรกิจใหม่ที่"ไม่ใช่"อสังหาฯ เพื่อขาย(non-real estate)เพื่อสร้างรายได้ประจำ (recurring income) เพิ่มขึ้น 

ทั้งนี้ การพัฒนาธุรกิจในปัจจุบันต้องอาศัยพันธมิตรช่วยเกื้อหนุนซึ่งกันและกัน โดย แอสเซทไวส์ วาง 3 แนวทางรุกตลาด ได้แก่ 1.ร่วมทุน (Joint Venture) เช่น การจับมือกับกลุ่มทาคาระ เลเบ็น จากญี่ปุน พัฒนาโครงการ แอทโซ บางนา มูลค่า 2,200 ล้านบาท  2.ควบรวมกิจการ (Merger and Acquisition ) เช่น การซื้อคอนโด “แม็กซี่ ไพรซ์” ย่านรัชดา สุทธิสาร และ 3.ความร่วมมือ (collaboration) เช่น การเปิดตัวเหรียญ Popcoin กับอาร์เอส  

“ในอนาคตจะจับมือกับพันธมิตรธุรกิจมากขึ้น ทั้งไทยและต่างชาติ เพื่อสร้างโอกาสธุรกิจใหม่และลดความเลี่ยง”
 

ปี 2565 บริษัทมีแผนลงทุน 400-500 ล้านบาทก่อสร้างคอมมูนิตี้มอลล์ “มิงเกิ้ล มอลล์” (Mingle Mall) แห่งที่ 3 ย่านมีนบุรี คาดเริ่มรับรู้รายได้ปี 2566 ซึ่งภายใน 2-3 ปี คอมมูนิตี้มอลล์ จะสร้างรายได้ประจำปีละ 30-50 ล้านบาท หรือราว 5% ของรายได้รวมจาก 1-2% ในปัจจุบัน และเตรียมงบอีก 200 ล้านบาท ลงทุนธุรกิจสุขภาพและความงามผ่านบริษัท ดับบลิวเอชบี จำกัด ที่เติบโตต่อเนื่องในช่วงวิกฤติ คาด 3 ปีจากนี้ธุรกิจกลุ่มนี้จะสร้างรายได้ประจำ 5-10%

ทั้งนี้ บริษัทร่วมกับพันธมิตร อาทิ Doctor A to Z ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มเทคโนโลยีบริการด้านสุขภาพออนไลน์ ยกระดับการดูแลสุขภาพของลูกบ้านครบวงจรพร้อมเชื่อมต่อแพลตฟอร์มเทคโนโลยีบริการสุขภาพออนไลน์ 24 ชั่วโมง และร่วมกับ บริษัท บางกอก เฮลท์แคร์เซอร์วิส จำกัด หรือ BHS ผู้ดำเนินธุรกิจดูแลผู้สูงอายุและเวชศาสตร์ฟื้นฟู เปิดศูนย์ REHAB บริการประเมิน รักษา และ ฟื้นฟูสมรรถภาพจากผู้เชี่ยวชาญ
 

ส่วนโครงการอสังหาฯ เพื่อขายปีนี้เปิดตัว 7 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 12,400 ล้านบาท เป็นคอนโลวไรส์ 5 โครงการ มูลค่า 7,550 ล้านบาท ได้แก่ 1.แอทโมซ คาแนล รังสิต มูลค่า1,650 ล้านบาท 2.แอทโมซ โอเอซิส อ่อนนุช 2,200 ล้านบาท 3.แอทโมซ โฟลว์มีนบุรี 1,350 ล้านบาท 4.แอทโมซ พอร์เทรต ศรีสมาน  1,150 ล้านบาท และ 5.เคฟ ซีด เกษตร 1,200 ล้านบาท และอีก 2 โครงการแนวราบ มูลค่ารวม 4,850 ล้านบาท ได้แก่ เอสต้า รังสิต คลอง 2 มูลค่า 680 ล้านบาท และ ดิ ออเนอร์ โยธินพัฒนา 4,170 ล้านบาท

โดยตั้งเป้ายอดขาย (Presale) ปีนี้ 10,000 ล้านบาท จากปีก่อนมียอดขาย 8,839 ล้านบาท ถือว่าทำสถิติสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) ส่วนรายได้อยู่ที่ 6,000 ล้านบาท

ปัจจุบันมียอดขายรอโอน (Backlog) มูลค่ากว่า 7,338 ล้านบาท ทยอยรับรู้ในปี 2565 กว่า 4,000 ล้านบาท และจะใช้งบ 2,000 ล้านบาทสำหรับซื้อที่ดินใหม่รองรับการพัฒนาโครงการในปีถัดไป ปี 2564 แอสเซทไวส์ พัฒนารวม 38 โครงการ มูลค่ากว่า 38,000 ล้านบาท สร้างเสร็จและส่งมอบแล้ว 29 โครงการ เปิดขายและอยู่ระหว่างพัฒนา 9 โครงการ