วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (8 ก.พ. 65)
ราคาน้ำมันดิบปรับลดจากระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี หลังการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านมีความคืบหน้ามากขึ้น
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง หลังการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างอิหร่านและชาติมหาอำนาจมีความคืบหน้ามากขึ้น โดยก่อนการหารือที่จะจัดขึ้นวันที่ 8 ก.พ. รัฐบาลสหรัฐฯ ได้คืนสถานะละเว้นคว่ำบาตรแก่อิหร่าน เปิดทางสำหรับโครงการความร่วมมือด้านนิวเคลียร์นานาชาติ โดยตลาดเชื่อว่าอิหร่านจะผลิตและส่งออกน้ำมันดิบมากขึ้น หากสามารถกลับเข้าสู่ข้อตกลงนิวเคลียร์อีกครั้งและ มีการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่อการส่งออกน้ำมันดิบจากอิหร่าน
+ ตลาดยังคงจับตาต่อสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน หลังรัสเซียอาจโต้ตอบชาติตะวันตกโดยการคว่ำบาตรทางพลังงานถ้าหากรัสเซียถูกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ล่าสุดสหรัฐฯ มีการขอความร่วมมือต่อญี่ปุ่นให้พิจารณา เปลี่ยนเส้นทางการส่งก๊าซธรรมชาติ (LNG) ไปยังยุโรป หากการส่งก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียหยุดชะงัก
+ นอกจากนี้ ตลาดยังคงได้รับแรงหนุนอุปทานน้ำมันดิบจากกลุ่มผู้ส่งออกน้ำมันและชาติพันธมิตร หรือโอเปคพลัสที่สามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้อย่างจำกัด โกลด์แมน แซคส์ และมอร์แกน สแตนลีย์ คาดว่า ราคาน้ำมันจะพุ่งแตะ 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรลในปีนี้ จากอุปทานน้ำมันดิบที่ตึงตัวและอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากปริมาณการส่งออกน้ำมันเบนซินจากไต้หวันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ราคายังได้รับแรงหนุนจากดัชนีการใช้รถใช้ถนนในภูมิภาคเอเชียที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์น้ำมันดีเซลในภูมิภาคเอเชียใต้ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น จากความต้องการใช้ภาคเกษตรกรรมที่ปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันในอินเดียที่พ้นจุดสูงสุดของการแพร่ระบาด