โฆษณาดิจิทัลปี 65 แข่งเดือด แพลตฟอร์มแห่ชิงงบลูกค้า
จับตาเฟซบุ๊ก เอฟเฟกต์ กระเทือนโฆษณาดิจิทัล ส่องแพลตฟอร์มแข่งชิงงบปี 65 เดือด หลังติ๊กต๊อกมาแรง แบ่งเค้กมากขึ้น "เรียล สมาร์ท"" แนะแบรนด์ใช้ดาต้า เคลื่อนธุรกิจ พร้อมหมั่นระวังหลังผ่านฟังเสียงผู้บริโภคโลกออนไลน์ ก่อนคำติ-ด่า ฉุดมูลค่าดิ่ง
นายอุกฤษฎ์ ตั้งสืบกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท เรียล สมาร์ท จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มการทำตลาดดิจิทัลปี 2565 จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ปัจจัยสำคัญเกิดจากกรณีเมตา(Meta) บริษัทแม่ของเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมที่เผชิญยอดผู้ใช้งานไม่มีการเติบโต รวมถึงประเด็นร้อนที่อาจถูกปิดตัวในยุโรป เนื่องจากฎหมาย General Data Protection Regulation (GDPR) ที่ใช้สำหรับดูแลข้อมูลส่วนตัวของบุคคลจะไม่สามารถส่งข้ามประเทศได้ จากปัจจุบันข้อมูลต่างๆถูกประมวลผลที่สหรัฐฯ
สถานการณ์ดังกล่าว ยังเชื่อมโยงถึงการทำตลาดดิจิทัลในประเทศไทย เนื่องจากพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล(PDPA)จะมีผลบังคับใช้กลางปีนี้ ทำให้แบรนด์สินค้าและบริการต่างๆตื่นตัวอย่างมาก เกี่ยวกับการจัดเก็บข้อมูลส่วนตัวของผู้บริโภคและนำไปใช้ทางการตลาด
ขณะเดียวกัน การทำตลาดดิจิทัลในปีนี้ แบรนด์จะใช้สูตรเดิมไม่ได้อีกต่อไป โดยเฉพาะการใช้งบประมาณเพื่อซื้อโฆษณาออนไลน์ เนื่องจากอัตราค่าโฆษณาพุ่งขึ้นสูงมาก แต่จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการใช้ข้อมูลหรือดาต้าไปใช้ให้เกิดประโยชน์และยิงโฆษณาถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ การแข่งขันของแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ดุเดือด โดยเฉพาะติ๊กต๊อก(TikTok)มาแรงอย่างมาก ผู้บริโภคมีการใช้มากขึ้น ทำให้ปีนี้จะเห็นแบรนด์โยกเม็ดเงินไปยังแพลตฟอร์มดังกล่าว จากเดิมจะกระจุกอยู่ที่เฟซบุ๊ก ยูทูปของกูเกิล เป็นต้น ขณะที่รายงานจากนีลเส็นระบุสื่ออินเทอร์เน็ตปีก่อนมีมูลค่า 23,315 ล้านบาท เติบโต 11%
“แนวโน้มโฆษณาดิจิทัลยังเติบโต แต่ตลาดจะเห็นการเปลี่ยนแปลงทั้งค่าโฆษณาที่แพงขึ้นมาก สิ้นไตรมาสแรกจะเห็นภาพชัดว่าขยับมากน้อยเพียงใด และจะเห็นแบรนด์ใช้งบโฆษณากระจายไปยังแพลตฟอร์มใหม่ๆมากขึ้น โดยเฉพาะติ๊กต๊อก ส่วนเฟซบุ๊กที่เคยซื้อโฆษณาได้ง่าย ปัจจุบันยากขึ้น”
ปัจจุบันไทยเผชิญการแพร่ระบาดของไวรัสโอมิครอน แต่ลูกค้าแบรนด์ต่างๆยังคงใช้จ่ายเงินโฆษณา ทำตลดดิจิทัลกันอย่างคึกคัก โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ช่วง 2 เดือนแรกใช้งบสูงมาก ซึ่งสินค้ากลุ่มเครื่องใช้และสินค้าของสดหรือโกรเซอรี่ ขายดีมาก เนื่องจากผู้บริโภคเปลี่ยนพฤติกรรมการชอปปิงจากออฟไลน์ไปสู่ออนไลน์มากขึ้น ส่วนกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังคงชะลอการใช้จ่ายต่อเนื่อง
ปี 2565 อีกเทรนด์มาแรงทั่วโลกคือแบรนด์ฟังเสียงผู้บริโภคโลกออนไลน์(Social Listening)มากขึ้น เพราะถือเป็นการระวังหลังกรณีเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์แบรนด์ในเชิงลบจนฉุดมูลค่าหลักทรัพย์ มูลค่าหุ้นให้ตกลงสร้างความเสียหายมหาศาลให้ธุรกิจ
ด้านแนวทางการดำเนินธุรกิจของเรียล สมาร์ท ได้เดินหน้าขยายบริการเชิงรุกแก่ลูกค้า เช่น การพัฒนาเครื่องมือการตลาด Real Trend (trend.realsmart.co.th) เพื่อให้แบรนด์ทราบกระแสที่เกิดขึ้นแบบทันทวงทีหรือเรียลไทม์ Real Listening เครื่องมือสำหรับฟังเสียงของผู้บริโภค เพื่อให้เข้าใจลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น นำผลตอบรับเชิงบวกไปพัฒนาสินค้าและบริการ วางกลยุทธ์การตลาดเพื่อตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายอย่างแม่นยำ นำคำจารณ์ไปปรับปรุงแก้ไขสินค้าและบริการให้ดีขึ้นฯ บริการดังกล่าวตอกย้ำการเป็นดิจิทัล ซูเปอร์ เอเยนซีเพื่อผลักดันให้มีลูกค้าใหม่และสร้างรายได้ปี 2565 เติบโต 30%