ศรีนานาพรฯ ปลุกโมเมนต์บริโภคสแน็ค เสิร์ฟน่องไก่โลตัส ผสมเมล็ดกัญชง
โควิดอาจทำให้กระแส "กัญชา-กัญชง" ซาไปบ้างบางเวลา แต่สำหรับผู้ประกอบการที่โฟกัสลุยตลาดดังกล่าว ไม่พลาดโอกาสทอง "นำหน้า" คู่แข่ง ออกสินค้าใหม่เสิร์ฟผู้บริโภค ศรีนานาพรฯ เสริมทัพขนมขบเคี้ยวผสมเมล็ดกัญชา เพิ่ม Snacking Monents ดันยอดขายโต
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานตลาดขนมขบเคี้ยวหรือสแน็คในประเทศไทย มีมูลค่าประมาณ 37,500 ล้านบาท และปี 2564 ตลาดหดตัวราว 4% เนื่องจากผลกระทบจากโรคโควิด-19 ระบาด หากเทียบปี 2563 ตลาดยังขยายตัวได้ราว 2.6%
ตลาดสแน็คเป็นหนึ่งในสมรภูมิที่มีการแข่งขันเดือดปรอทแตก! จากผู้เล่นหลากหลายแบรนด์ ทั้งแบรนด์ระดับโกล(Global Brand) แบรนด์ไทย(Local Brand) และยังมีแบรนด์ต่างประเทศอื่นๆเข้ามาแบ่งเค้ก
ทั้งนี้ หากแบ่งหมวดหมู่สแน็คใหญ่สุด ยังคงเป็นมันฝรั่งทอดกรอบ และยังมีหมวดอื่นๆทั้งขนมขึ้นรูป ป๊อปคอร์น ถั่ว รวมถึงสาหร่ายฯ ซึ่งที่ผ่านมา “รสชาติใหม่” เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการ แบรนด์สินค้าต่างๆใช้เป็นกลยุทธ์หลักในการทำตลาด เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค สร้างความตื่นเต้นให้กลุ่มเป้าหมายเกิดการลองสินค้าใหม่ๆ
ทว่า กระแสที่มาแรงในไทยเวลานี้ คือการนำพืช “กัญชา-กัญชง” มาเป็นส่วนผสมกับสินค้าต่างๆ เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย และบางแบรนด์มั่นหมายจะเป็น “รายแรก” หรือ First mover ในการนำเทรนด์ อย่าง “ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง” หนึ่งในผู้เล่นตลาดเครื่องดื่ม เยลลี่ รวมถึงสแน็คฯชั้นนำในภูมิภาคอาเซียน มีแบรนด์ดังในพอร์ตโฟลิโอ เช่น เจเล่, เมจิก ฟาร์ม, เบนโตะ และโลตัส
ปีที่ผ่านมาบริษัทรุกคืบเปิดตัวสินค้าขนมรูปน่องไก่ โลตัส “ผสมใบกัญชา รสบาร์บีคิว” เข้าทำตลาด เปิดศักราชใหม่เดินหน้าออกสินค้าใหม่เกาะกระแสกัญชาต่อ ด้วยการเสริมทัพ “ขนมรูปน่องไก่ ผสมเมล็ดกัญชา รสสาหร่าย” จำหน่ายในรูปแบบเอ็กซ์คลูสีฟผ่านเซเว่นอีเลฟเว่น
วิโรจน์ วชิรเดชกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจในประเทศ บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SNNP ฉายภาพว่า หลังจากที่บริษัทฯ เปิดประสบการณ์ใหม่ด้วยการออกสินค้าใหม่ขนมรูปน่องไก่โลตัส ผสมใบกัญชา รสบาร์บีคิว ช่วงปลายเดือนธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา ได้กระแสตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี เพราะเพิ่มทางเลือกใหม่และรสชาติที่แตกต่างตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค
ล่าสุด บริษัทพัฒนาสูตรและเปิดตัวสินค้าใหม่ต่อเนื่องกับ “ขนมรูปน่องไก่โลตัส ผสมเมล็ดกัญชง รสสาหร่าย” ซึ่งถือเป็นขนมขบเคี้ยวที่มีส่วนผสมเมล็ดกัญชงรายแรกในประเทศไทย
“เป็นครั้งแรกที่มีการนำเมล็ดกัญชงมาผสมในขนมขบเคี้ยว เพื่อสร้างรสชาติที่หลากหลายเป็นทางเลือกแก่ผู้บริโภค โดยก่อนหน้านี้เราประสบความสำเร็จในการนำกัญชามาเป็นส่วนผสมของขนม เพื่อเจาะตลาดผู้บริโภคที่ชื่นชอบความอร่อยที่ไม่จำเจ และการออกสินค้าใหม่ครั้งนี้มั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับจากกลุ่มผู้บริโภค และเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างรายได้ให้กับบริษัทฯ ได้เป็นอย่างดี”
ปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป มองหาอาหารและเครื่องดื่มในช่วงเวลาต่างๆ ที่นอกเหนือจากเวลาอาหารปกติ กลายเป็นปัจจัยกระตุ้นความต้องการเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยวที่สามารถทดแทนมื้ออาหารและทานแล้วอยู่ท้องมากขึ้น ดังนั้น กลยุทธ์สินค้าใหม่ไม่เพียงเกาะกระแสความร้อนแรงของกัญชากัญชง แต่ยังตอบสนองต่อความต้องการและรสนิยมของผู้บริโภคที่แตกต่างกันไป รวมถึงเพิ่มโอกาสในการบริโภคขนมขบเคี้ยวมากขึ้นหรือ Snacking Moments ยิ่งในช่วงที่ผู้คนทำงานที่บ้าน อยู่บ้าน จากผลกระทบของโรโควิด-19 ระบาด จึงเป็นจังหวะที่จะเสิร์ฟสินค้า กระตุ้นการเติบโตของยอดขายบริษัทด้วย