ปตท. คว้า 7 รางวัล รัฐวิสาหกิจยอดเยี่ยมและดีเด่น ปี 2564
ปตท. สามารถคว้ารางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น หรือ SOE Award ถึง 7 รางวัล จัดขึ้นโดย สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.)
หากเอ่ยถึงชื่อ ปตท. สิ่งแรกที่หลายๆ คนนึกถึงคงหนีไม่พ้นบทบาทสำคัญในการเป็นองค์กรรัฐวิสาหกิจด้านพลังงานของประเทศ ที่อยู่คู่คนไทยมามากกว่า 40 ปี
ภายใต้ความท้าทายของการดำเนินงานในทศวรรษที่ 5 ปตท. ยังคงเดินหน้าตามพันธกิจหลักในการดำเนินธุรกิจด้านพลังงานและปิโตรเคมีอย่างครบวงจร ควบคู่กับการดูแลผู้มีส่วนได้เสียอย่างสมดุล แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้หยุดตัวเองให้อยู่ในฐานะเป็นบริษัทพลังงานแห่งชาติเพียงอย่างเดียว โดยในปี 2564 ที่ผ่านมา ปตท. ได้ปรับเปลี่ยนวิสัยทัศน์ใหม่ Powering Life with Future Energy and Beyond มุ่งเป้าสู่การขับเคลื่อนทุกชีวิตด้วยพลังแห่งอนาคต ซึ่งนับว่าสอดคล้องกับสภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนไป
จากการดำเนินงานที่มุ่งมั่นทุ่มเทของ ปตท. ตลอดปี 2564 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ ปตท. ได้รับการยอมรับในผลงานที่โดดเด่นและสามารถคว้ารางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น หรือ SOE Award มาได้ถึง 7 รางวัล นับเป็นรางวัลอันมีเกียรติ ซึ่งจัดขึ้นโดย สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เพื่อเป็นการยกย่องให้แก่องค์กรของรัฐที่มีความโดดเด่นในด้านต่างๆ และร่วมขับเคลื่อนพัฒนาเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน
โดยรางวัลที่ ปตท. ได้รับในครั้งนี้ เรียกได้ว่าสะท้อนให้เห็นถึงความมีประสิทธิภาพสูงในหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็น รางวัลรัฐวิสาหกิจยอดเยี่ยม ที่มอบให้แก่รัฐวิสาหกิจที่มีผลการดำเนินงานโดดเด่นในทุกด้าน เป็นแรงขับเคลื่อนมุ่งยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศ รางวัลคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจดีเด่น (ประเภทเกียรติยศ) มอบให้คณะกรรมการรัฐวิสาหกิจซึ่งปฏิบัติหน้าที่กำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ สอดคล้องกับหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี รางวัลการบริหารจัดการดีเด่น โดย ปตท. มีการบริหารจัดการความยั่งยืนตามทิศทางกลยุทธ์ของกลุ่ม ปตท. (PTT by PTT) ได้แก่ Partnership & Platform, Technology for All และ Transparency & Sustainability ที่มุ่งเน้นการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนของทุกภาคส่วน รวมถึงรางวัลการเปิดเผยข้อมูลและความโปร่งใสดีเด่น พิจารณาจากการบริหารจัดการที่โปร่งใสเป็นธรรม มาตรฐานการกำกับดูแลกิจการที่ดีในระดับสากล
นอกจากการพิจารณาจากภาพรวมของผลการดำเนินงานแล้ว กลุ่ม ปตท. ยังได้รับรางวัลเพิ่มเติม จาก 3 โครงการ ซึ่งเป็นผลงานภายใต้วิสัยทัศน์ใหม่ ที่จะช่วยสร้างการเติบโต ควบคู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คน วัฒนธรรม วิถีชีวิต สังคมและสิ่งแวดล้อม ได้แก่ รางวัลการดำเนินงานเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมดีเด่น จาก “โครงการศูนย์เรียนรู้ป่าวังจันทร์” ศูนย์เรียนรู้ด้านการจัดการป่าครบวงจร บนพื้นที่จำนวน 351.35 ไร่ ในพื้นที่วังจันทร์วัลเล่ย์ จ.ระยอง ซึ่งได้รวบรวมองค์ความรู้ การพัฒนางานวิจัยด้านการบริหารจัดการน้ำ การปลูก การจัดการและฟื้นฟูป่าไม้ เพื่อเป็นพื้นที่ต้นแบบด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ให้แก่หน่วยงานและผู้สนใจทั่วไป รางวัลความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมดีเด่น ด้านความคิดสร้างสรรค์
จาก “โครงการนวัตกรรมเครื่องต้นแบบบำบัด PM 2.5 และเชื้อโรคในอากาศ” ที่ได้ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีแบบ Hybrid System เพื่อบำบัดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 และเชื้อโรคที่ปนเปื้อนอยู่ในอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัยและไม่สร้างมลพิษ ซึ่งเป็นหนึ่งผลงานที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดีขึ้น
และรางวัลความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมดีเด่น ด้านนวัตกรรม จาก “โครงการ PTT EV Charger and Charging Platform” นวัตกรรมจากธุรกิจ New S-Curve ของ ปตท. โดยพัฒนา EV Charger ให้ใช้ได้กับรถยนต์ไฟฟ้าทุกคัน มีระบบการสื่อสารเชื่อมต่อและยืดหยุ่นต่อการใช้งานกับ Charging Platform ต่างๆ รวมทั้งมีต้นทุนไม่สูง สอดคล้องกับเป้าหมายด้านพลังงานสะอาดของประเทศไทย ซึ่งสามารถผลักดันสู่เชิงพาณิชย์ได้ในอนาคต
จาก 7 รางวัลทั้งหมดที่กล่าวมา ถือเป็นความสำเร็จจากความทุ่มเทและมุ่งมั่นของ ปตท. เพื่อสร้างผลงานที่มีคุณค่าต่อสังคมและประเทศ ผ่านการขับเคลื่อนธุรกิจและองค์กรให้เติบโต และแข็งแกร่ง พร้อมรับความเปลี่ยนแปลงของโลกอนาคตอย่างยั่งยืน