พาณิชย์ห้ามขึ้น ’สินค้า’ อ้างดีเซลแพง
พาณิชย์ เบรกสินค้าขึ้นราคาอ้างราคาดีเซลแพง ยันผลวิเคราะห์ดีเซลขึ้น 30 บาท/ลิตร พบต้นทุนผลิตอาหารและเครื่องดื่มขยับสูงสุดไม่ถึง 2% พร้อมเรียกผู้ผลิตรายกลุ่มถกตรึงราคา
อธิบดีกรมการค้าภายใน วัฒนศักย์ เสือเอี่ยม ระบุ กรมฯได้วิเคราะห์ผลกระทบต้นทุนน้ำมันดีเซลต่อต้นทุนการผลิตสินค้าจาก 25 บาทต่อลิตร เพิ่มเป็น 30 บาทต่อลิตร พบว่ามีผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตสินค้าไม่มาก จึงไม่ใช่เหตุผลที่ผู้ผลิตจะใช้ในการปรับขึ้นราคา และได้ขอความร่วมมือให้ตรึงราคาสินค้าไปก่อน
สำหรับผลการวิเคราะห์ เช่น สินค้าหมวดอาหารและเครื่องดื่ม มีต้นทุนเพิ่มขึ้น 1.45% ของใช้ประจำวัน เพิ่ม 1.1% วัสดุก่อสร้าง เพิ่ม 1.2% กระดาษและผลิตภัณฑ์ เพิ่ม 5% ปัจจัยการเกษตร เช่น ปุ๋ยเคมี ยาปราบศัตรูพืช เพิ่ม 0.5% เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการดูแลราคาสินค้าไม่ให้ส่งผลกระทบกับผู้บริโภค กรมฯได้เชิญสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาคมการค้า ผู้ผลิตสินค้า ผู้ประกอบการ มาหารือเป็นรายกลุ่มสินค้าแล้ว เพื่อประเมินสถานการณ์สินค้าแต่ละรายการแล้ว และได้แจ้งขอความร่วมมือในการตรึงราคาสินค้า เพราะกระทรวงพาณิชย์ไม่มีนโยบายให้ปรับขึ้นราคาในช่วงนี้ ยกเว้นผู้ผลิต ไม่สามารถแบกรับภาระต้นทุนได้จริง ก็จะพิจารณาเป็นราย ๆ ไป โดยมีหลัก คือ ผู้บริโภคต้องไม่เดือดร้อนจนเกินไป และผู้ผลิตต้องอยู่ได้
ส่วนการปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม กรมฯ ได้ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด เบื้องต้นประเมินว่า หากมีการปรับขึ้นจริง ก็ส่งผลกระทบต่อต้นทุนในการทำอาหารปรุงสำเร็จไม่มาก ต้นทุนเพิ่มขึ้นต่อจาน/ชาม แค่หลักสตางค์ แต่ตอนนี้ ยังไม่มีการปรับขึ้น ก็ขอแจ้งเตือนไปยังผู้ค้า อย่าใช้เป็นเหตุผลในการปรับขึ้นราคา
นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะประสานงานไปยังซัปพลายเออร์ เพื่อให้จัดส่งสินค้าอุปโภคบริโภคต้นทุนถูก เช่น ของใช้ส่วนบุคคล สบู่ แชมพู ยาสระผม ผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน เป็นต้น ให้กับร้านค้าธงฟ้าที่มีอยู่ 1.3 แสนราย เพื่อนำไปจำหน่ายต่อให้กับผู้บริโภค และช่วยลดภาระค่าครองชีพ รวมทั้งกำลังพิจารณาจัดจำหน่ายสินค้าราคาถูก เพื่อแทรกแซงตลาดตามความจำเป็น หากพบว่าสินค้ากลุ่มใดมีราคาปรับตัวสูงขึ้น หลังจากที่ได้รับงบประมาณกลางจากรัฐบาลในการจัดทำโครงการลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน