LINE BK ส่งแคมเปญ ‘ที่พึ่งทางไลน์’หนุนปั้นแบรนด์-เจาะฐานลูกค้าทั่วประเทศ
ไลน์บีเค เดินหน้ารุกตลาดสินเชื่อดิจิทัล หวังเจาะลูกค้าครอบคลุมทั่วประเทศ ล่าสุดเปิดแคมเปญการตลาด เจาะลูกค้าผ่านเพลง ‘ที่พึ่งทางไลน์’หวังติดหู เอื้อคนเข้าถึงรู้สึก LINE BK เพิ่ม ดันยอดปล่อยกู้คงค้างสิ้นปีแตะ 2หมื่นล้าน
นายธนา โพธิกำจร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กสิกร ไลน์ จำกัด หรือ LINE BK ในฐานะผู้ให้บริการ Social Banking รายแรกในประเทศไทย กล่าวว่า สำหรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจปีนี้ของ LINE BK ตั้งเป้าในการเข้าไปเจาะกลุ่มลูกค้าให้ครอบคลุมทั่วประเทศมากขึ้น
ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯและต่างจังหวัด เพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงบริการทางการเงิน โดยเฉพาะการเข้าไปช่วยเหลือกลุ่มผู้ไม่มีรายได้ประจำ หรือประกอบอาชีพอิสระเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะคนที่ไม่เคยอยู่ในระบบการเงิน โดยล่าสุด ได้มีการเปิดตัวแคมเปญการตลาดผ่านเพลง “ที่พึ่งทางไลน์” ซึ่งได้รับการตอบรับที่ล้นหลาม
ดังนั้นเชื่อว่า จะเป็นจุดเริ่มต้นที่จะทำให้ คนรู้จักและเข้าถึง LINE BK มากขึ้น ซึ่งจะหนุนให้เห็นการขอสินเชื่อผ่าน LINE BK มากขึ้นในระยะข้างหน้า ทั้งนี้หากดูยอดการสมัครขอสินเชื่อในปัจจุบันอยู่ที่เฉลี่ย 20,000 คำขอต่อวันซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้ายอดสินเชื่อคงค้างเพิ่มขึ้นปีนี้เป็น 2 หมื่นล้านบาท จากปัจจุบันที่มียอดสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ระดับ 1.6 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็นยอดการปล่อยสินเชื่อรวมกว่า 3.3 หมื่นล้านบาท จากปัจจุบันที่มีลูกค้าสินเชื่อทั้งหมด 5.4 แสนบัญชี
อย่างไรก็ตาม ในส่วนการอนุมัติสินเชื่อ ยอมรับว่า ที่ผ่านมาจากผลกระทบโควิด-19 ทำให้สถาบันการเงินรวมถึง LINE BK มีการรัดกุมในการให้สินเชื่อมากขึ้น
โดยหากดูยอดการอนุมัติสินเชื่อของ LINE BK อยู่ที่ระดับต่ำกว่า 10% ดังนั้นเชื่อว่าหากเศรษฐกิจฟื้นตัว
รวมถึง การที่บริษัทมีข้อมูลทางการเงินของลูกค้ามากขึ้น จะมีส่วนช่วยให้อัตราการอนุมัติของบริษัทเพิ่มขึ้นแตะระดับ 20% ได้ ในปีนี้
“เราตั้งเป้าที่จะเจาะฐานลูกค้าใหม่ๆเพิ่มขึ้น โดยเฉาพะลูกค้าที่ไม่เคยเข้าสู่ระบบสินเชื่อ ดังนั้นจะทำอย่างไรให้เราสามารถเข้าถึงคนเหล่านั้นได้มากขึ้น เพลงที่พึ่งทางไลน์ จะทำให้คนรู้จักและนึกถึงเรามากขึ้น รวมถึงการใช้ AI เข้ามาช่วยให้มองเห็นลูกค้าที่มีศักยภาพได้มากขึ้น เพื่อหนุนให้การอนุมัติสินเชื่อเราไปแตะ20%ได้ ”
ทั้งนี้ ซึ่งการเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น ยังมาจาก การจับมือกับพันธมิตร เพื่อสร้างฐานข้อมูลใหม่ๆ ในการใช้เพื่อพิจารณาสินเชื่อเพิ่มเติม เช่นล่าสุด ที่อยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรทางธุรกิจ เช่น ดีแทค เพื่อทำโมเดลในการเข้าไปปล่อยสินเชื่อลูกค้าดีแทค โดยได้เริ่มทดลองปล่อยสินเชื่อแล้ววันนี้อยู่ที่ราว 1หมื่นบัญชี
นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างการขยายความเป็นพันธมิตรเพิ่มเติม ทั้งพันธมิตรเดิม คือกสิกรไทย และพันธมิตรใหม่ๆในหลาย Ecosystem เพิ่มขึ้น ซึ่งคาดว่าจะเห็นความชัดเจนจากการจับมือพันธมิตรใหม่ๆได้ภายในปีนี้
สำหรับภาพรวมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือเอ็นพีแอล ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 4% โดยจะพยายามคอนโทรลให้หนี้เสียอยู่ระดับนี้ต่อเนื่อง
“หนี้เสียก็เป็นเรื่องที่เราต้องคอนโทรล แต่อีกด้านหากเราต้องการวอลุ่ม มากกว่านี้ การที่ไปรัดกุมมากเกินไป ก็อาจทำให้การอนุมัติต่ำได้ ดังนั้นหากเราอยากเติบโตก็ต้องหาโอกาสในการเปิดรับลูกค้ามากขึ้น ภายใต้การดูแลเอ็นพีแอลที่ยังมีมาจิ้นที่ยังสามารถรับได้”
อย่างไรก็ตาม หากดูสัดส่วนลูกค้าที่ใช้บริการ สินเชื่อผ่าน LINE BK ในปัจจุบันพบว่า 1 ใน 4 หรือ 25% เป็นลูกค้าที่ไม่เคยเข้าระบบสินเชื่อมาก่อน ขณะที่ 41% เป็นกลุ่มลูกค้าที่ไม่มีรายได้ประจำ และ27% เป็นผู้กู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 1.2หมื่นล้านบาท ซึ่งจะแตกต่างจากกลุ่มลูกค้าของธนาคารพาณิชย์ที่เน้นลูกค้ามีรายได้ประจำเป็นหลัก และลูกค้าเรากระจายอยู่ต่างจังหวัด80%
ส่วนยอดการใช้งานผ่าน LINE BK ล่าสุด มีผู้ใช้งานแล้วที่ 4 ล้านราย เป็นการเปิดบัญชีออมทรัพย์ 4.8 ล้านบัญชี บัตรเดบิตจำนวน 2.2 ล้านราย และมีปริมาณการโอนเงินอยู่ที่ 1.24 แสนบัญชี