อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต กางแผนปี 65โกยเบี้ยรับรวม 3.47 หมื่นล้าน
อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต กางแผนปี 65 ตั้งเป้าการเติบของเบี้ย ประกันภัยรับรวมที่ 3.47 หมื่นล้านบาท และ เบี้ยประกันภัยรับปีแรก 6.5 พันล้านบาท และสร้างการเติบโตให้กับผลิตภัณฑ์สุขภาพ ได้ 30% ก้าวสู่การเป็นผู้นำบริษัทประกันชีวิตของไทยได้อย่างมั่นคงในทุกช่องทาง
นายโทมัส วิลสัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต กล่าวว่า ในปี2565 บริษัทตั้งเป้าการเติบของเบี้ยประกันภัยรับรวมที่ 3.47 หมื่นล้านบาท โดยเป็นเบี้ยปีแรกเติบโตที่ 5% อยู่ที่ 6.5 พันล้านบาท และมีสัดส่วนเบี้ยสุขภาพที่ 3.4 พันล้านบาทเติบโตขึ้น 30% และจะเป็นการเติบโตจากทุกช่องทางการจำหน่ายทั้งในส่วนของ ตัวแทน สาขาธนาคาร และช่องทางขายตรง
ส่วนในปี2564 ถือเป็นปีที่ท้าทายของบริษัทในการดำเนินธุรกิจ แต่บริษัทยังคงทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมและเติบโตเพิ่มขึ้นจากปี 2563 โดยมีช่องทางตัวแทนเป็นช่องทางที่สร้างยอดขายมากที่สุดถึง 39% ของเบี้ยประกันรับใหม่ (ANP) ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ตอบโจทย์ทุกความต้องการด้านความคุ้มครองสุขภาพ ทำให้ธุรกิจสุขภาพยังเติบโตต่อเนื่องด้วยสัดส่วนของสินค้าถึง 36.4% ของเบี้ยประกันผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่บริษัทขาย
นอกจากด้านของการดำเนินงานบริษัทยังได้นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการทำงานเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจ และอำนวยความสะดวกให้ลูกค้า จนทำให้อลิอันซ์ อยุธยา มีคะแนนอยู่ในระดับ Loyalty Leader ที่ลูกค้ามีความภักดีเป็นอันดับ 1 (จากผลสำรวจของ Ipsos Research Agency บริษัทวิจัยระดับโลก)
ขณะที่การให้ความคุ้มครองคนไทยในสถานการณ์โควิด 19 ในปี2564 บริษัทมีการจ่ายเคลมตามกรมธรรม์จากสถานการณ์โควิด 19 ตั้งปี 2563 จนถึงปัจจุบันไปแล้วกว่า 20,850 เคส เป็นเงินรวมกว่า 1,064 ล้านบาท
โดยประมาณ 19,200 เคส เป็นค่ารักษาพยาบาลการเจ็บป่วยจากโควิด 19 และประมาณ 1,330 เคส เป็นการชดเชยจากการแพ้วัคซีน และ ประมาณ 330 เคส มาจากการเสียชีวิต และคาดว่ายอดการเคลมทั้งหมดของบริษัทในปี 2564 จะอยู่ที่ประมาณ 3 พันล้านบาท
สำหรับในปี 2565 เราเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นปีที่ดี มีปัจจัยบวกเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากสถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลายมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังมีความผันผวนในตลาดทุน และความไม่แน่นอนของอัตราดอกเบี้ย อลิอันซ์ อยุธยา ยังคงต้องดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวัง มุ่งเน้นในเรื่องการสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน โดยยังคงยึดกลยุทธ์หลัก Strategy 2568ที่ทุกส่วนในองค์กรจะต้องร่วมกันผลักดันและขับเคลื่อน ซึ่งประกอบด้วย 4 เสาหลักสำคัญ ได้แก่
Growth - สร้างการเติบโตในทุกช่องทางการจัดจำหน่าย โดยสำหรับช่องทางตัวแทน ผ่านโครงการใหม่ๆ เช่น Elite Program มุ่งเน้นการนำโมเดลของตัวแทนที่ประสบความสำเร็จไปใช้พัฒนาตัวแทนกลุ่มอื่น และ Friend of Agency (FOA) เพื่อสร้างโอกาสให้ตัวแทนได้รับการแนะนำผู้มุ่งหวัง ช่องทางธนาคาร ในปีนี้จะมีการขยายไปสู่ผลิตภัณฑ์คุ้มครองสุขภาพมากขึ้น และการขยายช่องทางอื่นๆ อาทิ ประกันกลุ่มผ่านองค์กร และพันธมิตรต่างๆ
Product - การพัฒนาผลิตภัณฑ์ มุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆต่อเนื่องตลอดปี โดยไม่เพียงรักษาตำแหน่งผู้นำด้านผลิตภัณฑ์คุ้มครองสุขภาพ แต่ยังเน้นไปที่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ด้านออมทรัพย์และประกันควบการลงทุนที่ดียิ่งขึ้น
Operating Profit – การสร้างผลกำไรจากการดำเนินงาน ผ่านแคมเปญส่งเสริมการขายและการทำอัพเซลและครอสเซลในกลุ่มลูกค้าเดิม การนำเสนอบริการเสริมต่างๆให้แก่ลูกค้า เช่น การกู้เงินจากกรมธรรม์ เป็นต้น และการใช้เครื่องมือเทคโนโลยีในการทำงานเพื่อให้มีประสิทธิภาพและสร้างประสิทธิผลที่มากขึ้น
Franchise – การสร้างความพึงพอใจให้กับพนักงานและลูกค้า โดยมุ่งเน้นที่การพัฒนาบุคลากรให้มีทักษะ และทัศนคติที่พร้อมต่อการเติบโต โดยเน้นไปที่การพัฒนา Soft Skill ให้กับพนักงาน โดยอลิอันซ์ อยุธยา โดดเด่นในเรื่องนี้มาก ได้รับการจัดอันดับอยู่ในอันดับที่ 3 จากบริษัทในเครืออลิอันซ์ทั่วโลก ในเรื่องความผูกพันของพนักงานที่มีต่อบริษัท อีกทั้งในมุมของลูกค้า บริษัทให้ความสำคัญกับการให้บริการที่ดีที่สุดในทุกขั้นตอน และพร้อมรับฟังความเห็นและความต้องการของลูกค้าเสมอ
“จากกลยุทธ์ 2568 ที่แข็งแกร่งถูกพิสูจน์แล้วด้วยความสำเร็จในปีที่ผ่านมา และทีมงานคุณภาพของอลิอันซ์ อยุธยา ทำให้เรามั่นใจว่าจะสามารถผลักดันให้ อลิอันซ์ อยุธยา สามารถเติบโตธุรกิจในประเทศไทยได้อย่างแข็งแกร่ง เป็นแบรนด์ประกันอันดับหนึ่งในใจลูกค้ารวมทั้งสร้างความผูกพันกับพนักงาน"