บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) แนะซื้อ CPALL-ALPHAX-ECL รับมือตลาดผันผวนสูง
บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) มองหุ้นไทยสัปดาห์หน้าแกว่งในกรอบ 1,690-1,730 จุด แนะติดตามสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซ๊ย-ยูเครน พร้อมให้ 3 หุ้นเด่นรับมือตลาดผันผวน CPALL อานิสงส์เปิดเมืองหนุนยอดขายโต, ALPHAX กำไรปี 65 แกร่งรับรู้รายได้ธุรกิจกัญชง และ ECL กำไรปี 64 ทำนิวไฮ
บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ประเมินตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้า (21-25 ก.พ.) จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,690-1,730 จุด โดยได้รับปัจจัยหนุนจากแรงเก็งกำไรผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 4 ปี 2564 และกระแสเงินทุนต่างชาติที่ยังไหลเข้าต่อเนื่อง หนุนเงินบาทแข็งค่า รวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ
ทั้งนี้ ต้องติดตามสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซีย-ยูเครน อย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกันยังมีแรงกดดันจากนโยบายการเงินที่ตึงตัวจากธนาคารกลางสหรัฐ (FED)
โดยมีหุ้น (Top Picks) แนะนำ ดังนี้
- CPALL (ราคาเป้าหมาย 68) ได้ผลบวกชัดเจนจากการเปิดเมืองเนื่องจากเป็นผู้นำตลาดทั้งธุรกิจร้านสะดวกซื้อ ร้านค้าส่ง และร้านค้าปลีก ยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ร้านเซเว่นฯ ฟื้นตัว รวมทั้งได้อานิสงส์จากเงินเฟ้อ ส่วนกำไรสุทธิ 4Q64 คาดที่ระดับ 9,062 ล้านบาท เติบโตสูงจากการบันทึกกำไรพิเศษจากการแลกหุ้น และกำไรหลักฟื้นดี
- ALPHAX (ราคาเป้าหมาย 2.89 บาท) คาดกำไรปกติปี 65 จะขยายตัวสู่ระดับ 221 ล้านบาท เติบโตเด่นจากปี 64 ที่มีกำไรเพียง 40 ล้านบาท แรงหนุนจากการรับรู้โครงการอสังหาฯ ผสานกับการต่อยอดในธุรกิจกัญชงที่เป็น New S-Curve ใหม่ที่คาดจะสร้างรายได้ตั้งแต่ 1Q65 และจะเร่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงครึ่งหลังปี 65
- ECL (ราคาเป้าหมาย 3.50 บาท) คาดกำไรปี 64 จะทำจุดสูงสุดใหม่แรงหนุนจากยอดสินเชื่อที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และคาดการต่อยอดในธุรกิจอื่นๆ ในขณะที่ Valuation เทรดในระดับที่ไม่แพงเมื่อเทียบกับกลุ่ม