THREL โชว์งบปี 64 กำไรเกือบ 100 ล้าน บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผล 0.12 บาท/หุ้น

THREL โชว์งบปี 64 กำไรเกือบ 100 ล้าน บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผล 0.12 บาท/หุ้น

บอร์ด ไทยรีประกันชีวิต อนุมัติจ่ายปันผลเป็นเงินสดอัตรา 0.12 บาทต่อหุ้น XD 29 เม.ย. 65 โชว์กำไรปี 64 เกือบ100 ล้าน กวาดเบี้ยประกันภัยต่อ 2,913 ล้าน เดินหน้าผนึกพันธมิตรร่วมสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ พร้อมลุยตลาดต่างประเทศ ต่อยอดการเติบโต

นายสุทธิ รจิตรังสรรค์ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยรีประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ THREL เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ (บอร์ด) ว่า มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลงวดการดำเนินงานปี 2564 เป็นเงินสดในอัตรา 0.12 บาท/หุ้น ซึ่งสูงกว่าขั้นต่ำของนโยบายจ่ายเงินปันผลที่กำหนดไว้ไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิ กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 29 เมษายน 2565 คิดเป็นจำนวนเงิน 72 ล้านบาท

สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานงวดปี 2564 มีกำไรสุทธิ 98 ล้านบาท จากรายได้เงินลงทุนสุทธิเพิ่มขึ้น 78% แตะ 66 ล้านบาท ตามภาวะตลาดหุ้นที่มีสัญญาณฟื้นตัวดี โดยเบี้ยประกันภัยต่อรับเติบโต 25% แตะ 2,913 ล้านบาท และเบี้ยประกันภัยต่อที่ถือเป็นรายได้สุทธิเติบโต 19% อยู่ที่ 2,725 ล้านบาท

 

ตามการเติบโตของเบี้ยประกันภัยต่อรับผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพและประกันกลุ่มกว่า 60% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน แตะ 1,807 ล้านบาท จากการทำสัญญาใหม่กับลูกค้า ทั้งงานประกันชีวิตแบบดั้งเดิม (Conventional) และการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ร่วมกับลูกค้า (Non-Conventional) 

สำหรับค่าใช้จ่ายในการรับประกันภัยและการดำเนินงานอยู่ที่ 145 ล้านบาท เพิ่มขึ้นราว 12% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ตามผลประโยชน์จ่าย และค่าสินไหมทดแทนสุทธิ (เคลม) ที่เพิ่มขึ้นตามการเติบโตของเบี้ยประกันภัยต่อรับ และมีการตั้งสำรองพิเศษในครึ่งหลังของปี 2564 เพื่อรองรับสถานการณ์โควิด-19 ราว 170 ล้านบาท

ขณะที่ค่าบำเหน็จสุทธิเพิ่มขึ้นราว 10% อยู่ที่ 626 ล้านบาท แต่อย่างไรก็ตาม จากประสิทธิภาพการบริหารจัดการค่าใช้จ่าย และคุมเข้มความเสี่ยงในการรับงาน เพื่อควบคุมอัตราค่าสินไหมทดแทนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ส่งผลให้ Combined Ratio (COR) ลดลงต่อเนื่องเหลือ 98% หากไม่รวมผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 COR จะลดลงเหลือเพียง 91.8% ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 95%


นายสุทธิ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับในปี 2565 บริษัทฯยังคงเดินหน้าร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์และหาโซลูชั่นใหม่ๆร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เบื้องต้นเตรียมเปิดตัว 2-3 ผลิตภัณฑ์ใหม่ หวังยกระดับศักยภาพอุตสาหกรรมประกันชีวิตไทย

พร้อมเดินหน้าขยายตลาดต่างประเทศ อาทิ สปป.ลาว, กัมพูชา และไต้หวัน เพื่อผลักดันอัตรากำไรให้เพิ่มสูงขึ้น สร้างการเติบโตอย่างมั่นคงต่อไป ภายใต้ประสิทธิภาพสูงสุดในการบริหารจัดการค่าใช้จ่าย และคุมเข้มความเสี่ยงการรับงาน เพื่อรักษา Combined Ratio ให้อยู่ในระดับต่ำกว่า 95%