ครม.ลดภาษีเงินได้ "ผู้เชี่ยวชาญต่างชาติ" เหลือ 17% หนุนวีซ่า LTR ทำงานในไทย
ครม.เคาะแล้ว ลดภาษีวีซ่าสำหรับผู้เชี่ยวชาญพิเศษต่างชาติ เสียภาษีเงินได้ที่ 17% พร้อมไม่เก็บภาษีซ้ำซ้อนจากแหล่งรายได้ต่างประเทศ ให้คลังออกประกาศตามอำนาจของอธิบดีกรมสรรพากรกำหนด ช่วยสนับสนุนวีซ่า LTR พำนักไทยระยะยาว
แหล่งข่าวจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เปิดเผยว่าที่ประชุม ครม.วันนี้ (22 ก.พ.) มีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร(ฉบับที่..) พ.ศ. มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย เพื่อสนับสนุนการเข้ามาทำงานในประเทศไทยของแรงงานที่มีทักษะ และมีความมั่งคั่งสูง
โดยสาระสำคัญคือ ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้แก่ผู้ถือวีซ่าประเภทผู้พำนักระยะยาว ประเภทประชากรโลกผู้มีความมั่งคั่งสูง ประเภทผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ หรือประเภท ผู้ที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย สำหรับเงินได้พึงประเมินในปีภาษีที่ล่วงมาแล้ว เนื่องจากหน้าที่งานหรือกิจการที่ทำในต่างประเทศหรือเนื่องจากทรัพย์สินที่อยู่ในต่างประเทศ และได้นำเงินได้ เข้ามาในประเทศไทย โดยผู้มีเงินได้ต้องมีคุณสมบัติและปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนด
และลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในการหักภาษี ณ ที่จ่ายเหลืออัตรา 17% ของเงินได้ สำหรับเงินได้พึงประเมินที่ผู้ถือวีซ่าประเภทผู้พำนักระยะยาว ประเภท ผู้มีทักษะเขี่ยวชาญพิเศษ (High - skilled professional) เนื่องจากการจ้างแรงงานของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ที่ประกอบกิจการอุตสาหกรรมเป้าหมายซึ่งได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ตามกฎหมายว่าด้วย การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย กฎหมายว่าด้วย การส่งเสริมการลงทุน หรือกฎหมายว่าด้วยเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
ทั้งนี้ ตามที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนด ซึ่งเมื่อคำนวณภาษีตามมาตรา 50 (1) แห่งประมวลรัษฎากรแล้วอยู่ในบังคับต้องเสียภาษีในอัตราที่กำหนดในบัญชีอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสูงกว่า 17% ของเงินได้ ในกรณีที่คำนวณภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายแล้วอยู่ในบังคับต้องเสียเท่ากับหรือ
น้อยกว่า17% ของเงินได้ ให้ผู้มีเงินได้มีสิทธิได้รับยกเว้นไม่ต้องนำเงินได้พึงประเมินดังกล่าว ไปรวมคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เมื่อผู้มีเงินได้ยอมให้ผู้จ่ายเงินได้หักภาษี ณ ที่จ่ายในอัตรา 17% ของเงินได้นั้น
กรณีให้ผู้มีเงินได้ซึ่งถูกหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายในอัตรา17% ของเงินได้ ไว้แล้ว เมื่อถึงกำหนดนแบบแสดงรายการภาษีไม่ต้องนำเงินพึงประเมินไปรวมคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เฉพาะกรณีไม่ขอรับเงินภาษีที่ถูกหักไว้คืนหรือไม่ขอเครดิตคืนภาษีที่ถูกหักไว้ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน
ในกรณีที่มีเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (4)และ (8) แห่งประมวลรัษฎากรซึ่งถูกหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายตามมาตรา5 ไว้แล้วและมีสิทธิเลือก เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 48 (3) และ (4) ผู้มีเงินได้จะใช้สิทธิได้ เมื่อไม่นำเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (4) และ (8) ไปรวมคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ไม่ขอรับเงินภาษีที่ถูกหักไว้คืน และไม่ขอเครดิตภาษีที่ถูกหักไว้ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน
ผู้มีเงินได้ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีสำหรับเงินได้พึงประเมิน ที่ไม่ต้องนำไปรวมคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนด โดยผู้มีเงินได้ที่จะได้รับสิทธิตาม ต้องมีคุณสมบัติ และปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนด
ส่วนกรณีที่มีการใช้สิทธิไปแล้ว และต่อมาไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในปีภาษีใด ให้สิทธิเป็นอันระงับไปในเฉพาะปีภาษีนั้น
ก่อนหน้านี้ ครม.ได้มีการอนุมัติวีซ่าระยะยาว (LTR) ระยะเวลาถือครองสูงสุด 10 ปีให้กับ ชาวต่างชาติ 4 กลุ่มได้แก่
1.กลุ่มประชากรผู้มีความมั่งคั่งสูง (Wealthy global citizen)
2.กลุ่มผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ (Wealthy pensioner)
3.กลุ่มที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย (Work - from - Thailand professional)
และ 4.กลุ่มผู้เชี่ยวชาญพิเศษ (High - skilled professional)