BLA กำไรปี64 ที่ 3.19 พันล้าน พุ่ง 99% และเงินกองทุนแกร่ง 301%

BLA กำไรปี64 ที่ 3.19 พันล้าน พุ่ง 99%  และเงินกองทุนแกร่ง 301%

"กรุงเทพประกันชีวิต" เผยกำไรปี 64 ทั้งสิ้น 3,196 ล้าน เพิ่มขึ้น 99% จากปี 63 เหตุเบี้ยรับรวมยังโตสวนกระแสโควิด แตะ  33,992 ล้าน เพิ่มขึ้น2% และ ค่าใช้จ่ายการรับประกันลดลง พร้อมโชว์ความมั่นคงเงินกองทุนสูงถึง 301%


นายโชน โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ BLA เปิดเผยว่า ปี 2564 บริษัทมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานทั้งสิ้น 3,196 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 99% จากปี 2563 สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของเบี้ยประกันภัยรับและค่าใช้จ่ายการรับประกันภัยที่ลดลง

ทางด้านความมั่นคงของฐานะทางการเงิน บริษัทมีระดับความเพียงพอของเงินกองทุน (Capital Adequacy Ratio – CAR) ณ สิ้นปี 2564 ที่ระดับ 301% เพิ่มขึ้นจากปี 2563 จากผลกำไรจากการดำเนินงาน

บริษัทมีสินทรัพย์รวม ณ สิ้นปี 2564 จำนวน 347,143 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% จากสิ้นปี 2563 โดย สินทรัพย์ลงทุนมีสัดส่วนสูงที่สุด 95%  ในปี 2564

 

 

ทางด้านเบี้ยประกันภัยรับรวมในปี 2564 มีทั้งสิ้น  33,992 ล้านบาท เพิ่มขึ้น2% จากปีก่อนหน้า  เป็นเบี้ยประกันภัยรับปีแรก จำนวน 6,262 ล้านบาท ลดลง 4%  จากปีก่อนหน้า 

ในส่วนเบี้ยประกันภัยรับปีแรก ช่องทางตัวแทนเพิ่มขึ้น 8%  จากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้ามากขึ้น และการมุ่งเน้นการขายสัญญาเพิ่มเติมประกันสุขภาพและโรคร้ายแรง ส่วนช่องทางอื่น  เพิ่มขึ้น 25% จากการเติบโตของเบี้ยประกันภัยกลุ่มและช่องทางออนไลน์  แต่ช่องทางธนาคาร ลดลง 14% จากข้อจำกัดในการขายในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

สำหรับในไตรมาสที่ 4 ปี 2564 บริษัทมีเบี้ยประกันภัยรับปีแรกจำนวน 1,611 ล้านบาท เพิ่มขึ้น35%  จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 17% จากไตรมาสก่อน  ในส่วนนี้มาจากช่องทางธนาคารเพิ่มขึ้น74%จากไตรมาส 4 ปี 2563 จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผ่อนคลายขึ้น 

และช่องทางตัวแทน เพิ่มขึ้น 5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 30% จากไตรมาสก่อนหน้า จากการออกผลิตภัณฑ์ Unit-linked และการปรับกลยุทธ์การขาย

ขณะที่ช่องทางอื่นๆ มีเบี้ยประกันภัยรับปีแรกเพิ่มขึ้น 15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากเบี้ยประกันภัยรับปีแรกในช่องทางออนไลน์

 

 


 

ในไตรมาสที่ 4 ปี 2564 นี้บริษัททำการตลาดในช่องทางจำหน่ายแต่ละช่องทาง โดยในช่องทางธนาคาร บริษัทยังคงทำการตลาดผ่านแคมเปญ “เลือกง่าย ได้ชัวร์” ที่มี นาย ณภัทร เสียงสมบุญ แบรนด์แอมบาสเดอร์ของกรุงเทพประกันชีวิต เป็นพรีเซนเตอร์ให้กับแบบประกันเกนเฟิสต์ (Gain 1st) ในส่วนของช่องตัวแทนจำหน่าย บริษัทได้ทำการสื่อสารแบบประกันควบการลงทุน Unit-linked ที่เปิดตัวใหม่ ทั้ง บีแอลเอ พรีเมียร์ลิงค์ แบบชำระเบี้ยประกันภัยรายงวด และ บีแอลเอ เวลธ์ลิงค์ แบบชำระเบี้ยประกันภัยครั้งเดียว ที่ให้ความคุ้มครองควบคู่ไปกับการลงทุนผ่านกองทุนรวมชั้นนำ บริษัทยังได้ทำการสื่อสารแคมเปญโฆษณาแบบประกันสุขภาพ บีแอลเอ แฮปปี้เฮลธ์  แบบประกันสุขภาพที่ทำให้หมดความกังวลทั้งค่ารักษาพยาบาลและส่วนเกินค่าห้อง ครอบคลุมค่าห้องเดี่ยวมาตรฐานของทุกโรงพยาบาลแบบไม่ต้องจ่ายเพิ่ม 

บริษัทยังได้เสริมบริการด้านสุขภาพผ่านบริการเสริมด้านสุขภาพภายใต้โครงการ BLA Every Care เพื่อรองรับความต้องการและดูแลลูกค้าได้อย่างเต็มศักยภาพ   และในช่วงสถานการณ์โควิด-19 กรุงเทพประกันชีวิตได้เปิดโครงการ Care@Home ต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 เพื่อให้บริการลูกค้ากรุงเทพประกันชีวิตทุกคนที่ต้องเข้ารับการรักษาใน Hospitel และ Home Isolation ที่ให้บริการติดตามอาการจากทีมแพทย์และพยาบาลจากศูนย์บริการทางการแพทย์กรุงเทพประกันชีวิตพร้อมช่วยเหลือหากลูกค้ามีความจำเป็นต้องได้รับการดูแลเพิ่มเติม รวมทั้งการจัดส่งชุดกักตัวอุ่นใจ และสิทธิการรักษาทางไกล (Telemedicine) นอกเหนือจากความคุ้มครองในกรมธรรม์ที่ลูกค้ามีอยู่  


 บริษัทได้มุ่งให้ความสำคัญในการส่งเสริมการก้าวสู่สังคมไร้เงินสดและลดการใช้ทรัพยากร ด้วยการจัดทำโครงการ “ร่วมลดได้ลุ้น 70ปี กรุงเทพประกันชีวิต” สำหรับลูกค้าที่ทำธุรกรรมผ่านระบบออนไลน์ตามเงื่อนไขที่กำหนด โดยแคมเปญ ร่วมลดได้ลุ้น จะดำเนินการไปจนถึงวันที่ 15 สิงหาคม 2565

รวมทั้งบริษัทยังคงให้ความสำคัญในการสร้างและพัฒนาตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาทางการเงิน ผ่านโครงการรับรองรายได้ผู้บริหารตัวแทนมืออาชีพ (Smart Leader) เพื่อยกระดับการพัฒนาคุณภาพทีมงานขายอย่างมั่นคงและยั่งยืน และร่วมมือกับพันธมิตรต่างๆ ด้านแผนการลงทุนคู่ความคุ้มครองผ่านที่ปรึกษาการเงินของบริษัท เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงด้านการเงินให้ประชาชนทุกกลุ่ม