SCB 10X บุก Metaverse ต่อยอดสร้างนวัตกรรม - ธุรกิจ

SCB 10X บุก Metaverse ต่อยอดสร้างนวัตกรรม - ธุรกิจ

“เอสซีบี เท็นเอกซ์”บริษัทลูกแบงก์ไทยพาณิชย์ บุกโลก Metaverse เปิดตัวสำนักงานใหญ่บน The Sandbox หวังสร้างโอกาสในโลกอนาคต ชูเปิด 3 โอกาส เพิ่มศักยภาพการลงทุน ต่อยอดเทคโนโลยี และนวัตกรรม เตรียมตั้ง “เมตาเวิร์ส แฮกกาธอน” ผลักดันอินโนเวชั่นสู่ตลาดมากขึ้น

         นางมุขยา พานิช Chief Venture and Investment Officer บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเดินหน้าสานต่อพันธกิจขององค์กร เพื่อสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ผ่านการสร้างธุรกิจและการลงทุนด้าน Disruptive Technology ในบริษัทเทคโนโลยีและสตาร์ทอัพทั่วโลก โดยเฉพาะเทคโนโลยีการเงินแห่งโลกอนาคต เช่น บล็อกเชน ,สินทรัพย์ดิจิทัล และ DeFi                

     ทั้งนี้บริษัทประเมินว่าเมตาเวิร์ส(Metaverse)จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในอนาคตอย่างมาก ด้วยการเชื่อมทุกคนทั่วโลก ให้สามารถเข้ามามีส่วนร่วมบนโลกเสมือนจริง พร้อมต่อยอดและประยุกต์ใช้กับอุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงอุตสาหกรรมการเงิน เพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่ๆ ได้ตามจินตนาการอย่างไร้ขีดจำกัด

     ด้วยเหตุนี้บริษัทจึงเตรียมจัดงาน ”SCB 10X Open House in Metaverse“ เพื่อเปิดตัวสำนักงานใหญ่ บนโลกเสมือนจริงใน The Sandbox แพลตฟอร์มโลกเสมือนจริงที่พัฒนาบนเทคโนโลยีบล็อกเชน

     นางมุขยา กล่าวว่า นับเป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินแห่งแรกในโลกที่ริเริ่มพัฒนาสำนักงานใหญ่บนโลกเสมือนจริงใน The Sandbox พร้อมเจาะลึกแนวคิดการออกแบบและพัฒนาสำนักงานใหญ่บนโลกเสมือนจริงจากทีมงานสร้างสรรค์ อีกทั้งโอกาสธุรกิจที่จะเกิดขึ้นในสำนักงานใหญ่บนโลกเสมือนจริง  

    "SCB 10X Open House in Metaverse มุ่งหวังที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างรากฐานระบบนิเวศ และคอมมูนิตี้ด้านเมตาเวิร์สร่วมกับพาร์ทเนอร์ชั้นนำระดับโลก พร้อมช่วยสนับสนุนและผลักดันความคิดสร้างสรรค์ของศิลปินคนไทยให้ออกสู่ตลาดโลก”

เปิด 3 โอกาสใหม่สู่ SCB10x

    นางมุขยา กล่าวว่า บริษัทมองเห็นโอกาสในโลกเมตาเวิร์ส 3 ด้านสำคัญ โดยอยู่ภายใต้ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานกำกับทางการ

    ด้านแรกเป็น เวอร์ชวล ฮับ สำหรับ SCB 10X และบริษัทในเครือในการทำ อีเวนท์ และ แบ่งปันประสบการณ์ เรียนรู้เช่น เชิญ วิทยากรมาในรูปแบบของ Avatar และมาให้ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีในด้านต่างๆ 

     รวมถึงจัดงานแสดงผลงานของ SCB 10X และบริษัทในเครือ เพื่อให้ผู้เข้าชมได้รับประสบการณ์แบบ immersive experience รวมถึงการจัดทาวน์ฮอลล์ หรือ ประชุมประจำปีต่างๆ แก่พนักงานของ SCB 10X และบริษัทในเครือ

     ด้านที่ 2 เปิดโอกาสให้แก่ พันธมิตรทางธุรกิจ ในประเทศไทย และต่างประเทศ ในการทำ เวอร์ชวลโปรเจกต์ หรือการจัดโปรโมชั่นอีเวนท์ร่วมกันในเมตาเวิร์ส และการให้บริษัทหุ้นส่วนเข้ามาพัฒนาเวอร์ชวลแลนด์ เพื่อทำโปรเจกต์

      ด้านที่ 3 เป็นแพลตฟอร์ม ที่นำเสนอและสนับสนุน งานของศิลปินในประเทศไทยและต่างประเทศ เช่น NFT มาร์เก็ตเพลส, NFT แกลอรี ,โชว์เคส และคอนเสิร์ต 

เมตาเวิร์สเสริมศักยภาพธุรกิจ

    อย่างไรก็ตามมองว่า การที่  SCB 10X เป็นหน่วยงานด้านดิจิทัลเทคโนโลยี ของธนาคารไทยพาณิชย์ เราโฟกัสการสร้างธุรกิจและการลงทุนด้าน Disruptive Technology ในบริษัทเทคโนโลยี และสตาร์ทอัพทั่วโลก

    บริษัทจึงทำการศึกษาอยู่ตลอดว่า พื้นที่ด้านไหนบ้างที่จะเข้ามามีผลกระทบต่อกับธนาคาร หรือ บริการทางการเงินในระยะยาว  เช่น บล็อกเชน, สินทรัพย์ดิจิทัล และ DeFi 

    ดังนั้น จึงเล็งเห็นว่าเมตาเวิร์สจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในอนาคตอย่างมาก ด้วยการเชื่อมทุกคนทั่วโลกให้สามารถเข้ามามีส่วนร่วมบนโลกเสมือนจริง พร้อมต่อยอด และประยุกต์ใช้กับอุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงอุตสาหกรรมการเงิน เพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่ๆ ได้ตามจินตนาการอย่างไร้ขีดจำกัด

      นอกจากนี้ การเข้ามาศึกษาในขอบเขตที่เกี่ยวกับเมตาเวิร์ส ยังเป็นการต่อยอดศักยภาพของ SCB 10X นอกเหนือจากฐานะการเป็นผู้ลงทุนด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม แต่ยังสามารถเป็นผู้พัฒนานวัตกรรม รวมถึงทักษะต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นใหม่บนโลกของเมตาเวิร์สอีก ด้วย

ตั้ง Metaverse Hackathon เร็วๆ นี้        

     สำหรับแผนการดำเนินงานด้านเมตาเวิร์ส ที่บริษัทสนใจ  เช่น NFT Gaming ซึ่ง เมตาเวิร์สที่บริษัทเข้าไปลงทุน คือ The Sandbox เป็นเมตาเวิร์ส ที่สนับสนุนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เปิดให้นักสร้างสรรค์ เข้ามาสร้างสินทรัพย์ดิจิทัล และ NFTs เช่น Avatar สิ่งปลูกสร้าง และสิ่งของในพื้นที่

    รวมถึงสามารถซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลเหล่านั้นบนแพลตฟอร์มได้ ซึ่งเป็นอะไรที่คาดว่าในอนาคตโลกจะเปลี่ยนไป โลกมีการเปิดกว้าง และมีการกระจายศูนย์มากขึ้น  และบริษัทก็อยากเข้าไปลงทุนในบริษัทรูปแบบนี้ โดย เวบ 3.0 จะมีโอกาสทางธุรกิจอีกมากมาย เช่น พวก Decentralized Identity, Data Analytics หรือ Decentralized social platform เป็นต้น

     นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะจัด เมตาเวิร์ส แฮกกาธอนในเร็วๆ นี้ เพื่อสร้างระบบนิเวศและผลักดันให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ เกี่ยวกับเมตาเวิร์สพร้อมช่วยสนับสนุน และผลักดันความคิดสร้างสรรค์ของศิลปินคนไทยให้ออกสู่ตลาดโลก   

    “ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา เราโฟกัสด้านบล็อกเชน,DeFi ,สินทรัพย์ดิจิทัล ค่อนข้างเยอะ เพราะพวกเราเองก็รู้สึกว่าแบงก์ในอนาคตจะไม่ได้เป็นแค่ Mode of Exchange คือ Thai Baht หรือ Dollar แต่ในอนาคตจะเป็นเวอร์ชั่นผสม ที่ต้องมีฐานสินทรัพย์ดิจิทัล คริปโทเคอร์เรนซี ที่เป็น Mode of Exchange อาจจะเป็น สเตเบิล คอยน์ บิตคอยน์ อีเธอเรียมหรือเปล่าที่จะเป็นคนโยกย้ายเงินไปมา ก็เลยต้องเตรียมความพร้อมให้กับแบงก์ด้วย”

 

พิสูจน์อักษร  โดย....สุรีย์   ศิลาวงษ์