“สุวัจน์”ให้กำลังใจปลุกพลังชุมชน ดันโคราชเป็นมหานคร
“สุวัจน์” ให้กำลังใจปลุกพลังชุมชนโคราชให้เข้มแข็ง สู้ภัยโควิด ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ดันสร้างโคราชเป็นมหานคร
วันที่ 3 มีนาคม 2656 เวลา 9.00 น.ณ โรงแรมแคนทารี่ โคราช นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีพร้อมบรรยายพิเศษ “แนวทางการพัฒนาท้องถิ่นรูปแบบมหานคร” โดยมี นายประเสริฐ บุญชัยสุข นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา นายเทวัญ ลิปตพัลลภ อดีตรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ผู้อำนวยการศูนย์ตนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน นายวัชรพล โตมรศักดิ์ สส.นครราชสีมา เขต 2 พรรคชาติพัฒนา คณะผู้บริหารเทศบาลนคร นครราชสีมา ทีม ส.ท.,ส.จ.พรรรคชาติพัฒนา และผู้เข้าอบรมประธานชุมชน.ประธานพัฒนาสตรี และประธาน อสม.จำนวน 300 กว่าคน
นายสุวัจน์ กล่าวว่า โคราชต้องยิ่งใหญ่กว่านี้โคราชต้องจะเป็นมหานคร โคราชจะมีความเจริญแบบเมืองหลวง แบบเมืองใหญ่ๆ ต่อไปเราจะมีรถไฟฟ้า ตอนนี้ก็มีการออกแบบ มีการสำรวจ มีการวางแผน จะมีรถไฟฟ้า 3 เส้น สีเขียว สีม่วง เริ่มจากเซฟวัน เข้ามาในเมือง ไปถนนสุรนารายณ์ ไปถนนมิตรภาพ ไปถนนต่างๆ นี้คือความเจริญความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น
ต่อไปก็จะมีระบบพลังงานสะอาดที่ไม่ใช่น้ำมัน ต่อไปไฟก็จะใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ช่วยทำให้เมืองเราเป็นเมืองสิ่งแวดล้อม ต่อไปก็จะมีระบบคอมพิวเตอร์ ระบบทันสมัย ระบบ 5 G ระบบอินเตอร์เน็ต มาให้ประชาชนใช้บริการ มีระบบการบริหารจัดการขยะ ระบบการจราจรต่างๆ ที่จะมาสร้างความทันสมัย ความสะดวกสบาย เพื่อนำมาพัฒนาเพื่อให้โคราชเป็นเมืองมหานคร
นายสุวัจน์ กล่าวว่าจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะเปลี่ยนเมืองโคราช ถ้าศึกษาประวัติศาสตร์ในเรื่องของการพัฒนาเศรษฐกิจ ตั้งแต่สมัยพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ ได้มีการเริ่มสร้างถนน 4 เลน มีการเอาน้ำประปามาให้คนโคราช มีการเดินท่อน้ำดิบ มาจากลำตะคอง มามะขามเฒ่า เอานิคมอุตสาหกรรม เอามหาวิทยาลัยสุรนารี มาเมื่อประมาณปี 2531 -2534 ช่วงที่ท่านชาติชายฯ เป็นนายกฯ นั้นคือจุดเปลี่ยนให้โคราราชยิ่งใหญ่ ตามนโยบายแปรสนามรบเป็นสนามการค้า และการวางรากฐานให้โคราชเป็นประตูสู่อีสาน
“จากวันนั้นถึงวันนี้ จุดเปลี่ยนอีกจุดที่จะขยับให้โคราชเป็นมหานครแห่งอีสาน ภาค 2 ต่อจากพลเอกชาติชายฯ ก็ต้องรอให้โครงการมอเตอร์เวย์ ทางหลวงพิเศษ จากรุงเทพ -โคราช และโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง ซึ่ง 2 โครงการนี้ ผมเชื่อว่าเป็นโครงการพื้นฐาน ในอีกก้าวกระโดดของยุคเศรฐกิจและความเจริญรุ่งเรืองของโคราช ให้เป็นเมืองมหานคร”นายสุวัจน์ กล่าวว่าและย้ำว่า
วันนี้ เรากำลังมีมอเตอร์เวย์ เหนือกว่าถนนพื้นฐาน เป็นถนนที่วิ่งโดยไม่มีไฟแดง ทางด่วนที่อยู่บนระดับดินและบางช่วงลอยฟ้า ลำตะคอง มีความสวยงามที่สุด ถ้ามอเตอร์เวย์เสร็จจะเห็นวิวของเขื่อนลำตะคองและควบคุมความเร็วได้เพียง 2 ชม.ถึงโคราช ถือว่าเป็นพื้นฐานของการพัฒนาคมนาคมเพื่อนำนักท่องเที่ยวอย่างมหาศาลมาโคราช
และรถไฟฟ้าความเร็วสูง ซึ่งตอนนี้กำลังเร่งสร้าง อันนี้เป็นอีกพื้นฐานการคมนาคม ที่ใช้เวลาเดินทาง 1.15-1.30 ชม. ถ้านั่งรถวิ่งมอเตอร์เวย์ ใช้เวลา 2 ชม. ความสะดวกสบายของ 2 โครงการนี้ จะมีนักท่องเที่ยวมหาศาล ที่จะมาท่องเที่ยวเมืองโคราช นักลงทุนต่างประเทศมหาศาลจะมาลงทุนที่จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งพื้นฐานของเมืองโคราชมีอยู่แล้ว เป็นเมืองเกษตร เรามีสินค้าเกษตรที่สามารถรองรับนักลงทุนที่จะลงทุนนำสินค้าเกษตร มาเปลี่ยนเป็นสินค้าอุตสาหกรรม เรามีคนเก่งๆ มหาวิทยาลัยที่ผลิตนักศึกษาเก่งๆ เพื่อรองรับนักลงทุนอยู่แล้ว เรามีศูนย์การค้าระดับประเทศมาอยู่ที่โคราช 3 แห่ง เรามีศูนย์ราชการที่สำคัญๆมาตั้งอยู่ จังหวัดนครราชสีมา เรามีกลุ่มนักธุรกิจที่เข้มแข็ง เรามีความเข้มแข็งของเทศบาลนคร เรามีความเข้มแข็งของชุมชนที่มีการจัดระเบียบ ความสะอาด สร้างความพร้อมเป็นพลังสำคัญ ฉะนั้น ถ้า 2 โครงการสร้างเสร็จก็จะเป็นการก้าวกระโดด ในการเป็นมหานครที่สำคัญของจังหวัดนครราชสีมา
ถ้าพวกเราช่วยกันผลักดันโครงการว่ามอเตอร์เวย์ อย่าหยุดที่โคราชต่อไปยังเพื่อนบ้าน ต่อไปหลายๆ จังหวัด แล้วข้ามแม่น้ำโขง เพื่อจะเชื่อมโยง โคราชกับเพื่อนบ้านทางฝั่งแม่น้ำโขง เพื่อนบ้านฝั่งอินโดจีน เพื่อเชื่อมโยงการท่องเที่ยว เศรษฐกิจ และการลงทุน ซึ่งรัฐบาลก็มีแผ่นอยู่แล้ว ว่ามอเตอร์เวย์ ไม่เพียงหยุดที่โคราช ต่อไปก็ ขอนแก่น อุบล อุดร หนองคาย และข้ามไปลาว ซึ่งสามารถทะลุไปเมืองจีนได้เลย ซึ่งจีนก็มีโครงการ เส้นทางสายไหม ที่จะเชื่อมจากจีนไปรัสเซีย ต่อไป จากโคราช ก็ไปเที่ยวยุโรปได้เลย
นี้คือ ความเจริญ ความเป็นมหานคร เป็นประตูการเชื่อมโยงถ้าทุกคนมาช่วยกันคิด ช่วยผลักดัน เพื่อให้เป็นมหานคร จากโครงสร้างพื้นฐานที่รัฐบาลได้วางไว้ เพื่อความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น
นายสุวัจน์ ย้ำว่าอยากให้ชุมชนร่วมกันทำงานกับเทศบาล ช่วยทำงานเป็นทีมเวิร์ค ดูแลจัดระเบียบภายในชุมชนให้เรียบร้อย รักษาความสะอาด รักษาเอกลักษณ์ รักษาวิถีชีวิตและโบราณสถาน เพื่อเป็นจุดสนใจในการท่องเที่ยว จะได้กระตุ้นเศรษฐกิจหลังจากโควิด ให้ชาวชุมชนทั้งหลาย เป็นกำลังสำคัญในการกอบกู้ภัยโควิด ช่วยเหลือดูแลซึ่งกันและกัน ช่วยกันรักษามาตรการต่างๆทางสาธารณสุขให้ทุกคนปลอดภัยจาก covid และเมื่อ covid จบแล้ว พวกเราต้องมาช่วยกันกระตุ้นเศรษฐกิจให้โคราชเป็นเมืองท่องเที่ยว เพราะรายได้จากการท่องเที่ยวจะรวดเร็วและถึงทุกชุมชนจะมากระตุ้นเศรษฐกิจได้
หลังจากนั้น เราจะต้องมารวมพลังกันสร้างโคราชให้เป็นมหานครที่ยิ่งใหญ่ต่อไป หลังจากที่โครงสร้างพื้นฐานใหญ่ๆ ทั้งโครงการมอเตอร์เวย์และรถไฟความเร็วสูงแล้วเสร็จ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนทั้งภาคอีสาน ให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
“โคราชจะต้องเป็นประตูสู่อีสานต่อไป ให้ชาวชุมชนมาช่วยกันพัฒนาความเจริญ ให้เทศบาลนครนครราชสีมา เป็นหน้าเป็นตา เป็นห้องรับแขก รองรับนักลงทุนและนักท่องเที่ยวสู่จังหวัดนครราชสีมาด้วย” นายสุวีจน์ กล่าว