TVI เดินหน้าตั้ง "โฮลดิ้งส์" เพิ่มความคล่องตัว ลุยทำเทนเดอร์แลกหุ้น
"ประกันภัยไทยวิวัฒน์" รุดตั้ง “โฮลดิ้งส์” ลดข้อจำกัดลงทุนตามเกณฑ์ คปภ. เพิ่มความคล่องตัวขยายธุรกิจเสริมศักยภาพการแข่งขัน เตรียมออกขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน 303 ล้านหุ้นเทนเดอร์แลกหุ้น TVI ตามแผนทำคำเสนอซื้อทั้งหมด เชงผู้ถือหุ้น 28 เม.ย. 65 คาดภายใน ธ.ค. เข้าตลาดหุ้นแทนที่
บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) หรือ TVI แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 24 ก.พ.65 มีมติอนุมัติปรับโครงสร้งการถือหุ้นและการจัดการของบริษัทให้เป็นรูปแบบการประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ภายใต้ชื่อบริษัท ไทยวิวัฒน์ โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เพื่อทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ TVI
โดยได้จัดตั้งบริษัทแห่งใหม่ ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 10,000 บาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 10,000 หุ้น
โดยบริษัท ไทยวิวัฒน์ โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) จะออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน 303 ล้านหุ้น ราคาซื้อขายครั้งหลังสุด 22.20 บาทต่อหุ้น(เมื่อวันที่ 23 ก.พ.65) เพื่อแลกหุ้นของ TVI ในอัตรา 1 หุ้นสามัญของ TVI ต่อ 1 หุ้นสามัญของบริษัทโฮลดิ้งส์
และภายหลังการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์เสร็จสิ้น บริษัทโฮลดิ้งส์จะดำเนินการยื่นขอนำหุ้นสามัญของบริษัทโฮลดิ้งส์เข้าจดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ และขอเพิกถอนหุ้น TVI ออกจากตลาดหลักทรัพย์ โดยจะต้องได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของผู้ถือหุ้นที่มาประชุมและมีสิทธิออกเสียง
ทั้งนี้วัตถุประสงค์ของบริษัทโฮลดิ้งส์ ประกอบด้วย 1.เพิ่มความคล่องตัวในการขยายธุรกิจ เพิ่มความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ และลดข้อจำกัดด้านการลงทุน โดยโครงสร้างเป็นบริษัทโฮลดิ้งส์สามารถลงทุนโดยการถือหุ้นในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจประกันภัย
และมีความคล่องตัวในการขยายการลงทุนในธุรกิจอื่น เพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาว และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของบริษัทโฮลดิ้งส์ โดยไม่ส่งผลกระทบต่ออัตราส่วนเงินกองทุนทั้งหมดต่อสินทรัพย์เสี่ยง (Capital Adequacy Ratio : CAR) ของบริษัทฯ
นอกจากนี้ การปรับโครงสร้างในลักษณะของบริษัทโฮลดิ้งส์เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ร่วมทุนหรือพันธมิตรทางธุรกิจซึ่งเป็นบุคคล และหรือบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะที่มีความสนใจในการลงทุน หรือมีความคล่องตัวในการเลือกลงทุนในธุรกิจของบริษัทโฮลดิ้งส์ อีกทั้งการมีผู้ร่วมทุนหรือพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญยังช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและลดความเสี่ยงจากการลงทุนของบริษัทโฮลดิ้งส์ได้ในระดับหนึ่ง
“การประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยในปัจจุบัน อยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ คปภ. เรื่องการลงทุนประกอบธุรกิจอื่นของบริษัทประกันวินาศภัย พ.ศ.2556 มีข้อจำกัดต่างๆ อาทิ บริษัทไม่สามารถลงทุนในตราสารทุนในประเทศที่ออกโดยบริษัทจำกัดได้เกิน 10% ของจำนวนตราสารทุนที่ออกจำหน่ายทั้งหมดของบริษัทจำกัดนั้น
เว้นแต่การถือตราสารทุนเพื่อการประกอบธุรกิจอื่น และตราสารทุนที่ออกโดยบริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด บริษัทไม่สามารถลงทุนในตราสารทุนต่างประเทศที่ออกโดยนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายห่งประเทศแต่ละรายได้เกิน 10% ของจำนวนตราสารทุนที่ออกจำหน่ายทั้งหมดของผู้ออกนั้น
บริษัทไม่สามารถลงทุนในตราสารทุนในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งหมดเกิน 30% ของสินทรัพย์ลงทุนของบริษัทฯ เว้นแต่จะเป็นไปตามเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ที่ คปภ.กำหนด นอกจากนี้บริษัทยังไม่สามารถลงทุนในสินทรัพย์บางประเภทตามที่ คปภ. กำหนด เช่น
บริษัทไม่สามารถลงทุนในตราสารทุนที่ไม่ได้จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ในประเทศ หรือไม่ได้อยู่ระหว่างการดำเนินการกระจายการถือหุ้นรายย่อยตามข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือไม่ได้จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ รวมทั้งหมดไม่เกิน 5% ของสินทรัพย์ลงทุนของบริษัทฯ
ส่งผลให้การขยายธุรกิจหรือการลงทุนของบริษัทฯ ใบปัจจุบันเป็นไปอย่างจำกัด ดังนั้นการปรับโครงสร้งในลักษณะของบริษัทโฮลดิ้งส์จึงสามารถลดข้อจำกัดด้านการลงทุนดังกล่าวได้
2.สามารถแบ่งแยกขอบเขตและการบริหารความสี่ยงทางธุรกิจได้อย่างชัดเจน โดยการปรับโครงสร้างในลักษณะของบริษัทโฮลดิ้งส์จะทำให้สามารถแบ่งแยกขอบเขตการดำเนินงานของแต่ละกลุ่มธุรกิจได้อย่างชัดจน และสามารถบริหารความสี่ยงได้อย่างเหมาะสม โดยไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจประกันวินาศภัย ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ คปภ.
3.เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานของแต่ละกลุ่มธุรกิจ โดยการปรับโครงสร้างการถือหุ้นและการจัดการจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจ
3.1.บริษัทโฮลดิ้งส์สามารถบริหารจัดการและใช้ทรัพยากรและความเชี่ยวชาญที่มีอยู่ให้เกิดการประหยัดต่อขนาด (Economics of Scale) และก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อกลุ่มธุรกิจ โดยตั้งหน่วยงานเพื่อให้การสนับสนุนแก่บริษัทอื่นในเครือ เช่น การให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ การให้บริการด้านการบัญชีการเงิน การให้บริการสรรหาและพัฒนาบุคลากร เป็นต้น
3.2.เพิ่มความชัดเจนในการบริหารธุรกิจให้สามารถขยายและพัฒนาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้การบริหารงานของผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะส่งผลให้แต่ละธุรกิจสามารถเติบ โตและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย นำไปสู่ผลการดำเนินงานที่ดีให้กับบริษัทโฮลดิ้งส์ในอนาคต
3.3.เพิ่มศักยภาพของบุคลากรและผู้เชี่ยวชาญในแต่ละธุรกิจ เนื่องจากแต่ละธุรกิจสามารถกำหนดขอบเขต หน้าที่ ความรับผิดชอบของบุคลากรในแต่ละสาขางานได้อย่างชัดเจน เช่น ผู้บริหารของบริษัทโฮลดิ้งส์มีหน้าที่ในการกำหนดนโยบายและการบริหารกลุ่มธุรกิจโดยรวมและรับผิดชอบต่อผลประกอบการของกลุ่มธุรกิจทั้งหมด
อีกทั้งโครงสร้างดังกล่าวยังช่วยให้มีการแบ่งแยกฐานะการเงินและผลการดำเนินงานแต่ละธุรกิจออกจากกัน ส่งผลให้ผู้บริหาร สามารถวิเคราะห์ ประเมินผล และกำหนดกลยุทธ์ เพื่อให้การดำเนินงานและฐานะทางการเงินของแต่ละธุรกิจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ชัดเจน และโปร่งใส
ทั้งนี้มีมติเรียกประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 28 เม.ย.65 เวลา 14.00 น.ในรูปแบบการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
ทั้งนี้ การดำเนินธุรกิจภายหลังปรับโครงสร้างการถือหุ้น บริษัทอาจพิจารณาปรับโครงสร้างการถือหุ้นตามความเหมาะสม ปัจจุบันกลุ่มธุรกิจหลักคือ ธุรกิจเกี่ยวข้องกับประกันภัย จะมีขนาดสินทรัพย์รวมกันไม่น้อยกว่า 75% ของสินทรัพย์รวมของบริษัทโฮลดิ้งส์ ประกอบด้วย 3 สายธุรกิจดังนี้
1.1.ธุรกิจประกันวินาศภัยในประเทศไทย (Non-Life Insurance) โดยบริษัทโฮลดิ้งส์จะยังคงมีธุรกิจหลักเป็นการลงทุนในบริษัท และจะดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้ในการสร้างมูลค่าเพิ่มต่อกิจการ
1.2.ธุรกิจประกันภัยในประเทศ(International Insurance) บริษัทโฮลดิ้งส์จะศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายการลงทุนในธุรกิจประกันภัยไปยังต่างประเทศ เช่น ประเทศกัมพูชา ประเทศลาว ประเทศเมียนมา ประเทศเวียดนาม ที่มีศักยภาพในการเติบโตเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจเพิ่มเติม
1.3.ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจประกันภัย (Insurance Related) บริษัทโฮลดิ้งส์จะพิจารณาความเป็นไปได้ในการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจประกันวินาศภัย ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น
2. กลุ่มธุรกิจอื่น คือธุรกิจที่นอกเหนือจากธุรกิจประกันภัย ซึ่งจะมีขนาดของสินทรัพย์รวมกันไม่เกิน 25% ของสินทรัพย์รวมของบริษัทโฮลดิ้งส์ โดยบริษัทโฮลดิ้งส์จะพิจารณาความเป็นไปได้ในการลงทุนในธุรกิจที่ส่งเสริมธุรกิจประกันภัย และ/หรือธุรกิจมีผลตอบแทนสูงเพื่อสร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาว
ทั้งนี้ บริษัทโฮลดิ้งส์จะยังคงมุ่งเน้นในการลงทุนในบริษัทที่ทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจประกันภัยเป็นหลัก เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญและภายในระยะเวลา 12 เดือนภายหลังการทำคำเสนอซื้อ บริษัทโฮลดิ้งส์ยังไม่มีแผนที่จะเปลี่ยนแปลงประเภทธุรกิจหลัก
โดยแผนไทม์ไลน์เบื้องต้น ภายในเดือน เม.ย.65 ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติ ต่อมาในต้นเดือน พ.ค.65 ตลาดหลักทรัพย์ฯ แจ้งผลการพิจารณาแผนปรับโครงสร้างการถือหุ้น และภายหลังวันที่ 15 พ.ค.65 บริษัทโฮลดิ้งส์ยื่นแบบขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ออกใหม่ต่อ ก.ล.ต.
และภายในเดือน ต.ค.65 บริษัทโฮลดิ้งส์ทำคำเสนอซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดจากผู้ถือหุ้นเดิม เป็นระยะเวลาไม่เกิน 45 วันทำการ และภายในเดือน พ.ย.65 บริษัทจะยื่นรายงานผลการเสนอซื้อหลักทรัพย์ต่อตลาดหลักทรัพย์ และยื่นขออนุญาตให้ตลาดหลักทรัพย์รับหุ้นสามัญของบริษัทโฮลดิ้งส์เป็นหลักทรัพย์
และภายในเดือน ธ.ค.65 การจดทะเบียนหุ้นของบริษัทโฮลดิ้งส์เข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และการเพิกถอนหุ้นสามัญของ TVI ออกจากการเป็ นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และรายงานการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นของบริษัทต่อ คปภ.
สำหรับผลประกอบการ TVI ปี 2564 มีกำไรสุทธิ 485 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 518% เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน มีเบี้ยประกันภัยรับที่ถือเป็นรายได้สุทธิ 5,414 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.3% ตามการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับรวมที่เพิ่มขึ้ 5.8% แตะระดับ 6,330 ล้านบาท