คืบหน้า "ไทยแลนด์ริเวียร่า" ท่องเที่ยวหรูหราระดับเวิล์ดคลาส
กรมทางหลวงชนบท โชว์ผลงานถนนเลียบชายฝั่งทะเลภาคใต้ “ไทยแลนด์ริเวียร่า” แล้วเสร็จ 39 โครงการรวมกว่า 475 กิโลเมตร เร่งก่อสร้างอีก 4 โครงการ คาดแล้วเสร็จครบภายในปี 2566 พร้อมลุยศึกษาส่วนต่อขยาย หนุนโครงการขนส่ง - การท่องเที่ยว
French Riviera และ Italian Riviera แหล่งท่องเที่ยวระดับเวิล์ดคลาสชื่อดังในยุโรป กำลังจะเกิดขึ้นในประเทศไทยภายใต้
โครงการก่อสร้างถนนเลียบชายฝั่งทะเลภาคใต้ (Thailand Riviera) ซึ่งกรมทางหลวงชนบท (ทช.)ได้ดำเนินการตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในโครงการพัฒนาการท่องเที่ยวถนนเลียบชายฝั่งทะเลด้านตะวันตกของอ่าวไทยอย่างยั่งยืน ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และระนอง
โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาโครงข่ายถนนดังกล่าวให้มีความต่อเนื่องให้เป็นถนนท่องเที่ยวชายฝั่งทะเลระดับสากล ส่งเสริมเศรษฐกิจการท่องเที่ยวกระจายรายได้สู่ชุมชมอย่างเป็นรูปธรรม ยกระดับคุณภาพชีวิตให้ประชาชน นักท่องเที่ยวได้รับความสะดวกปลอดภัยในการเดินทาง ทั้งนี้ ทช.ได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างถนนเลียบชายฝั่งทะเลฯ มาตั้งแต่ปี 2552 ถึงปัจจุบัน
อภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าของโครงการThailand Riviera นี้ว่า ปัจจุบันก่อสร้างไปแล้ว จำนวน 39 โครงการ รวมระยะทาง 475.896 กิโลเมตร อาทิ ถนนทางหลวงชนบทสาย ชพ.4008 แยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4001 – บ้านโพธิ์แบะ อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร เสร็จสมบูรณ์ระยะทาง 24.569 กิโลเมตร ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 180.780 ล้านบาท, ถนนทางหลวงชนบทสาย ชพ.4012 แยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4198 – เทศบาลปากน้ำหลังสวน อำเภอทุ่งตะโก, หลังสวน จังหวัดชุมพร ระยะทาง 23.589 กิโลเมตร ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 195.478 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี เพื่อให้โครงข่ายถนนเลียบชายฝั่งทะเลภาคใต้มีความสมบูรณ์ต่อเนื่องมากยิ่งขึ้น ในปี 2565 ทช.จึงได้ดำเนินการก่อสร้างอีก จำนวน 4 โครงการ รวมระยะทาง 38.72 กิโลเมตร ประกอบด้วย
1.ถนนทางหลวงชนบทสาย ชพ.4019 สายแยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4002 (กม.ที่ 13+100) – บ้านแหลมสันติ อำเภอหลังสวน, ละแม จังหวัดชุมพร ระยะทาง 19.891 กิโลเมตร ปัจจุบันมีความก้าวหน้าไปแล้วกว่า 82% คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในเดือน มี.ค. 2565 เร็วกว่าแผนที่กำหนดไว้ ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 172.082 ล้านบาท
2.ถนนสายเพชรเกษม – สถานีรถไฟทุ่งประดู่ – วัดทับสะแก อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 3.418 กิโลเมตร ปัจจุบันได้เริ่มเข้าพื้นที่ดำเนินการก่อสร้างแล้วเมื่อเดือน ธ.ค. 2564 ที่ผ่านมา คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณช่วงกลางปี 2565 นี้ ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 20.650 ล้านบาท
3.ถนนสายบ้านบางคอย – บ้านทุ่งคาน้อย อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร ระยะทาง 8.658 กิโลเมตร ปัจจุบันได้เริ่มเข้าพื้นที่ดำเนินการก่อสร้างแล้วเมื่อเดือน ม.ค. 2565 ที่ผ่านมา คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2565ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 31.984 ล้านบาท และ 4. ถนนสายแยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4002 (กม.ที่ 13+100) – บ้านแหลมสันติ (ตอนที่ 2) อำเภอหลังสวน, ละแม จังหวัดชุมพร ระยะทาง 6.753 กิโลเมตร ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเข้าพื้นที่ก่อสร้างได้ประมาณเดือนพ.ค. 2565 และคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2566 ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 105.440 ล้านบาท
รายงานข่าวจากกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ระบุว่า ขณะนี้ ทช.เริ่มดำเนินการศึกษาโครงการก่อสร้างส่วนต่อขยายถนนเลียบชายฝั่งทะเลฯ เพื่อเพิ่มโครงข่ายการขนส่งและสนับสนุนแนวเส้นทางการท่องเที่ยวชายฝั่งทะเลให้สมบูรณ์มากขึ้น โดยเส้นทางที่อยู่ระหว่างการศึกษา อาทิ เส้นทางท่องเที่ยวเลียบชายฝั่งทะเลภาคใต้ (Thailand Riviera) ด้านตะวันตก (ตะนาวศรี)
และเส้นทางส่วนต่อขยายเส้นทางท่องเที่ยวเลียบชายฝั่งทะเลภาคใต้ (Thailand Riviera) ช่วงสมุทรปราการ – สมุทรสงคราม เพื่อต่อกับเส้นทางเลียบชายฝั่งเฟสแรก โดยปัจจุบันได้จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นเพื่อให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง และประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบข้อมูล ข้อเท็จจริง และขั้นตอนการดำเนินงานของโครงการ รวมถึงเปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็น เพื่อนำไปประกอบแผนการดำเนินงานในอนาคต
สำหรับเส้นทางท่องเที่ยวเลียบชายฝั่งทะเลภาคใต้ (Thailand Riviera) ด้านตะวันตก (ตะนาวศรี) เป็นแนวเส้นทางครอบคลุมพื้นที่ 6 อำเภอของจังหวัดเพชรบุรี และ 2 อำเภอของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยมีจุดเริ่มต้นอยู่บริเวณอำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี และมีจุดสิ้นสุดอยู่บริเวณอำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ระยะทางโดยประมาณ 250 กิโลเมตร
โดยแนวเส้นทางส่วนใหญ่อยู่บนโครงข่ายถนนเดิมในพื้นที่ ทช.จะทำการขยายความกว้างช่องจราจรและไหล่ทางในกรณีที่มีเขตทางเพียงพอ ปรับปรุงผิวทาง สะพาน อาคารระบายน้ำ ป้ายจราจรและสิ่งอำนวยความปลอดภัยให้มีความสมบูรณ์และเพียงพอ รวมทั้งการพัฒนาศักยภาพของ สายทางให้เป็นเส้นทางท่องเที่ยวและเส้นทางชมทิวทัศน์ (Scenic Route)
ส่วนช่วงสมุทรปราการ – สมุทรสงคราม ผลการศึกษาแนวเส้นทางเบื้องต้น แนวเส้นทางจะครอบคลุม 4 จังหวัด รวม 26 แขวง/ตำบล 5 เขต/อำเภอ เริ่มตั้งแต่อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ ผ่านจังหวัดกรุงเทพมหานคร จังหวัดสมุทรสาคร และสิ้นสุดที่อำเภอเมืองสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม
นอกจากนี้ ทช.ยังมีโครงการพัฒนาโครงข่ายเส้นทางย่อย (สเปอร์ไลน์) จัดใช้งบประมาณกว่า 1 พันล้านบาท เพื่อใช้เป็นถนนเชื่อมโยงถนนสายหลัก และโครงการโครงสร้างพื้นฐานส่วนอื่นๆ อาทิ รถไฟทางคู่ สนามบิน และท่าเรือ โดยเชื่อว่าการพัฒนาโครงข่ายทางถนนทั้งหมดนี้ จะกลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเดินทาง การขนส่งสินค้า และก่อให้เกิดการท่องเที่ยวกระจายสู่พื้นที่ชุมชน
สำหรับโครงการก่อสร้างถนนเลียบชายฝั่งทะเลภาคใต้ เกิดขึ้นเพื่อสนับสนุนนโยบายพัฒนาการท่องเที่ยว เนื่องด้วยกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ศึกษาพบว่าจังหวัดเพชรบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดชุมพร และจังหวัดระนอง มีศักยภาพในการพัฒนาสู่การเป็นแหล่งพักตากอากาศที่มีคุณภาพ เช่นเดียวกับ French Riviera และ Italian Riviera เพราะมีความหลากหลายของสถานที่และกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ เชิงวัฒนธรรม เชิงประวัติศาสตร์ เชิงกีฬา และการท่องเที่ยว