เปิดกรุ 20 หุ้นปันผลสูง แม่ลูก STA-STGT ผลตอบแทนหรูมากกว่า 15%
ภายหลังบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ทยอยประกาศงบปี 2564 ในช่วงกลางเดือน ก.พ.2565 ที่ผ่านมา ก็จะเข้าสู่ฤดูกาลปันผลอย่างเป็นทางการ
โดยช่วงเดือน เม.ย.และ พ.ค.จะเป็นช่วงที่ บจ.ประกาศวันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) พร้อมประกาศวันที่ไม่ได้รับสิทธิเงินปันผล (XD) ก่อนจะประกาศวันที่จ่ายปันผลจริงต่อไป
ในการนี้ "กรุงเทพธุรกิจ" รวบรวมข้อมูลหุ้นที่ให้อัตราเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) สูงสุดในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งคำนวณจากราคาปิด ณ วันที่ 4 มี.ค.2565 โดยพบว่า 20 อันดับหุ้นปันผลสูง ได้แก่
บมจ.ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) (STGT) 18.89%
บมจ.ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี (STA) 16.12%
บมจ.ยูเนี่ยนไพโอเนียร์ (UPF) 13.33%
กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาฯ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ไลฟ์สไตส์ (MJLF) 13.11%
บมจ.แปซิฟิกไพพ์ (PAP) 12.54%
บมจ.อาร์ ซี แอล (RCL) 11.88%
บมจ.พรีเมียร์ เทคโนโลยี (PT) 11.48%
บมจ.ทีเอ็มที สตีล (TMT) 11.30%
บมจ.ฟินันซ่า (FNS) 10.82%
บมจ.ไทยบรรจุภัณฑ์และการพิมพ์ (TPP) 10.58%
บมจ.เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (ASP) 10.47%
กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ไทยแลนด์ โฮสพีทาลิตี้ (TLHPF) 10.46%
บมจ.เอเชียน อินซูเลเตอร์ (AI) 9.79%
ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ เอไอเอ็ม คอมเมอร์เชียล โกรท (AIMCG) 9.65%
บมจ.พรีเชียส ชิพปิ้ง (PSL) 9.56%
ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ทรัพย์ศรีไทย (SSTRT) 8.90%
กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้า กลุ่มน้ำตาลครบุรี (KBSPIF) 8.85%
กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (JASIF) 8.80%
บมจ.ยูนิวานิชน้ำมันปาล์ม (UVAN) 8.75%
บมจ.ไทยไวร์โพรดัคท์ (TWP) 8.67%
นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ฝ่ายวิจัยคาดว่าหุ้นปันผลจะทำผลงานได้ดีในช่วงการปรับฐานของตลาด โดยคัดเลือก 4 หุ้นปันผลเด่น ได้แก่
บมจ.บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ (BAM) โดยคาดว่ากำไรสุทธิเติบโตแข็งแกร่งในปี 2565 ขณะที่ราคาหุ้น BAM ขณะนี้ซื้อขายด้วยราคาต่อมูลค่าทางบัญชี (P/BV) ปีนี้เพียง 1.3 เท่า เทียบกับ P/BV ของบริษัทอื่นๆ ในกลุ่มธุรกิจบริหารหนี้ (AMC) ที่มากกว่า 4 เท่า
นอกจากนี้ กำไรสุทธิที่คาดจะฟื้นตัวขึ้นในปี 2565 จะเป็นปัจจัยหนุนหลัก ราคาเหมาะสม 24.00 บาทต่อหุ้น
บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) ปัจจัยหนุนราคาหุ้น ได้แก่ 1. เงินปันผลครึ่งหลังปีนี้ที่น่าประหลาดใจ 2. พัฒนาการเชิงบวกเกี่ยวกับการรวมกิจการ และ 3. มูลค่าจากการรวมกิจการที่สูงกว่าคาด ราคาเหมาะสม 51.18 บาทต่อหุ้น
ธนาคารเกียรตินาคินภัทร (KKP) ราคาหุ้น KKP ขณะนี้ซื้อขายด้วย P/BV เพียง 1 เท่า ซึ่งฝ่ายวิจัยเชื่อว่าจะมีปัจจัยหนุนราคาหุ้นอีก โดยคาดว่าอัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) ปี 2565 จะอยู่ที่ 14% เป็นอย่างน้อยที่สุด ราคาเหมาะสม 80.00 บาทต่อหุ้น
บมจ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์ (LH) ตั้งเป้าการเติบโตของยอดขายและรายได้จากการขายในปี 2565 ที่ 8% จากปีก่อน เป็น 3.1 หมื่นล้านบาท และ 3.3 หมื่นล้านบาท ตามลำดับ ราคาเหมาะสม 10.40 บาทต่อหุ้น
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด เปิดเผยว่า ภาพสินทรัพย์เสี่ยงและตลาดหุ้นโลกยังอยู่ในสภาวะผันผวน หนึ่งในกลยุทธ์ที่จะช่วยลดความผันผวนให้พอร์ต และสร้างผลตอบแทนโดดเด่น (Outperform) ตลาดได้ในช่วง 1 ถึง 2 เดือนหลังประกาศงบปี คือ "หุ้นปันผล" ซึ่งมีหลายเหตุผลจูงใจให้ลงทุนในช่วงนี้
1. ผลตอบแทนในอดีตของ SETHD (ดัชนีหุ้นปันผลสูง) มักให้ผลตอบแทนเป็นบวกและชนะ SET ในช่วง 4 เดือนแรกของปีเสมอ โดยในช่วง 5 ปีย้อนหลัง ไม่นับปี 2563 หากรวมปันผลกลับ SETHD TRI ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 11.8% ขณะที่ดัชนี SET (SET Index) ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 7.28%
2. SETHD ในปีนี้ยังให้ผลตอบแทนชนะ SET เช่นเดียวกับในอดีต โดยเริ่มต้นปี 2565 ดัชนี SETHD ให้ผลตอบแทนสูงถึง 2.3% Outperform ดัชนี SET ให้ผลตอบแทน 0.69%
3. ขณะเดียวกันในมุมความเสี่ยง ปีนี้ดัชนี SETHD มีค่าความผันผวนต่อปี หรือ Volatility 1 ปี เพียง 4.91% ต่ำกว่า SET มีค่าอยู่ที่ 7.85% แสดงให้เห็นว่าหุ้นปันผลยังช่วยลดความผันผวนให้พอร์ตได้ดี ในช่วงที่ตลาดหุ้นผันผวน