ส.อ.ท.หวั่นรัฐไร้งบดูแลราคาน้ำมันแพง
ปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ค่อนข้างน่าเป็นห่วงเพราะสถานการณ์ยังยืดเยื้อ โดยเฉพาะผลกระทบกับราคาน้ำมันตลาดโลกจะยืนอยู่ที่ 100 กว่าดอลลาร์/บาร์เรล ต่อไปอีกระยะหนึ่ง
ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สุพันธุ์ มงคลสุธี ระบุปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ค่อนข้างน่าเป็นห่วงเพราะสถานการณ์ยังยืดเยื้อ โดยเฉพาะผลกระทบกับราคาน้ำมันตลาดโลกจะยืนอยู่ที่ 100 กว่าดอลลาร์/บาร์เรล ต่อไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งทำให้ไทยที่เป็นประเทศที่ต้องนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศเกิดภาวะเงินเฟ้อ สินค้าราคาแพงขึ้น เพราะทุกอย่างต้องใช้น้ำมันเป็นต้นทุนด้านการขนส่ง ส่วนกรณี ครม.มีมติเห็นชอบมาตรการทางภาษีสรรพสามิตอัตราศูนย์สำหรับการนำน้ำมันดีเซลและน้ำมันเตาไปผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพของประชาชน ในมุมของเอกชนมองว่าเป็นเรื่องที่ดี การดูแลไม่ให้ราคาพลังงานแพงก็เป็นประโยชน์กับประชาชน แต่ในขณะเดียวกันรัฐบาลจะเก็บภาษีอะไรได้มากขึ้น
ทั้งนี้ ภาคเอกชนมีข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยไม่ใช้วิธีแจกเงินอย่างเดียว รัฐบาลควรเปิดประเทศให้เร็วกว่านี้ ให้นักท่องเที่ยว นักลงทุนเข้ามาให้มากขึ้นและสะดวกขึ้น ซึ่งจะมีส่วนทำให้เศรษฐกิจแข็งแรงขึ้นได้ เพราะปัจจุบันโควิดสายพันธุ์โอมิครอนแพร่กระจายได้เร็วก็จริงแต่ไม่รุนแรง ถ้าไม่ผ่อนคลายให้มากกว่านี้เศรษฐกิจจะแย่ในขณะที่ไทยต้องพึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นหลัก ระบบ Test&Go ควรจะยกเลิกเพราะเป็นอุปสรรคต่อการเดินทางเข้ามาของต่างชาติ การเปิดเศรษฐกิจจะทำให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้นในขณะที่ไทยกำลังเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อ แต่ประชาชนมีรายได้เท่าเดิม ภาระของประชาชนเพิ่มขึ้น ทำให้รัฐบาลต้องใส่เงินในการอุ้มค่าน้ำ ค่าไฟ น้ำมัน ซึ่งในระยะยาวจะอุ้มต่อไปไม่ไหว แม้สงครามรัสเซีย ยูเครนจะยุติวันนี้ ราคาน้ำมันไม่ได้ลดลงทันทีต้องใช้เวลา ซึ่งประเมินว่าจะอยู่ที่ระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรล ต่อไปอีก 20-30 วัน ซึ่งเอกชนเป็นห่วงว่ารัฐบาลจะมีเงินเพียงพอดูแลได้เท่าไหร่