พาณิชย์โพล เผยคนไทยชอบโครงการประกันรายได้มากที่สุด
สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เผยผลสำรวจประชาชนเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายพาณิชย์ปี 64เผย เผยคนพอใจประกันรายได้มากสุด ตามด้วยการส่งเสริมการค้าออนไลน์ และพาณิชย์ลดราคา เฉพาะเกษตรกรชอบประกันรายได้มากสุด
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยถึงผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนในช่วงเดือนม.ค.2565 จำนวน 10,072 คน จากทุกอำเภอทั่วประเทศ เกี่ยวกับการดำเนินนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ ในปี 2564 ว่า ผู้ตอบแบบสอบถามเกือบ 60% รับทราบนโยบายทั้งหมด และผู้ตอบที่รับทราบนโยบาย 75.09% ต่างพอใจภาพรวมผลงานนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ ที่ช่วยเพิ่มรายได้ ลดภาระค่าใช้จ่าย และบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง
โดยนโยบายกระทรวงพาณิชย์ที่ประชาชนรับทราบมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ โครงการประกันรายได้เกษตรกรปีที่ 2 รับรู้ถึง 81.33% ตามด้วยโครงการพาณิชย์ลดราคา 76.45% และโครงการส่งเสริมการค้าออนไลน์ 73.51% โดยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ เป็นภาคที่มีสัดส่วนผู้รับทราบนโยบายสูงที่สุด ส่วนอาชีพที่มีสัดส่วนผู้รับทราบนโยบายสูงที่สุด คือ ข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ/พนักงานของรัฐ นักศึกษา และเกษตรกร โดยผู้ตอบในช่วงอายุ 20-39 ปี รับทราบนโยบายกระทรวงพาณิชย์มากที่สุด
สำหรับนโยบายกระทรวงพาณิชย์ที่ประชาชนรายพอใจมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ โครงการประกันรายได้เกษตรกร ปีที่ 2 พอใจ 30.97% ตามด้วยโครงการส่งเสริมการค้าออนไลน์ 25.41% และโครงการพาณิชย์ลดราคา 24.38% โดยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง เป็นภาคที่ประชาชนแสดงความพึงพอใจมากต่อทุกนโยบายในสัดส่วนสูงที่สุด ส่วนอาชีพ ข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ/พนักงานของรัฐ และเกษตรกร เป็นอาชีพที่แสดงความพึงพอใจมากต่อทุกนโยบายในสัดส่วนสูงที่สุดเมื่อเทียบกับอาชีพอื่น และส่วนใหญ่ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และผู้ที่มีอายุในช่วง 30-49 ปี พึงพอใจมากในนโยบายกระทรวงพาณิชย์
“โครงการประกันรายได้เกษตรกรปีที่ 2 ที่ดำเนินการต่อเนื่องจากปี 2563 เป็นโครงการที่ประชาชนรับทราบและพึงพอใจสูงสุด โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกร เพราะช่วยให้เกษตรกรมีรายได้จากการจ่ายส่วนต่างชดเชยในช่วงที่ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ”
ทั้งนี้ นอกเหนือจากโครงการข้างต้น ยังมีโครงการต่าง ๆ อีกมากมาย ที่ประชาชนพึงพอใจ เพราะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับผู้ประกอบการ ช่วยให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าราคาถูก เช่น โครงการส่งเสริมการค้าออนไลน์ โครงการพาณิชย์ลดราคา การส่งเสริมการส่งออกสินค้า ที่ส่งผลให้การส่งออกของไทยในปี 2564 สามารถขยายตัวได้ถึง 17.1% การเร่งรัดความร่วมมือทางการค้า โดยจัดทำ Mini FTA กับเมืองโคฟุ ประเทศญี่ปุ่น มณฑลไห่หนาน ประเทศจีน เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์จะนำผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนไปเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาโครงการต่าง ๆ เพื่อให้ตรงตามความต้องการมากขึ้น เพราะในปี 2565 กระทรวงพาณิชย์ โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มีนโยบายในการขับเคลื่อนโครงการเพื่อดูแลเกษตรกร ผู้ประกอบการ และช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง ทั้งโครงการประกันรายได้ปี 3 การแก้ไขปัญหาปากท้อง ที่มีการตั้งคณะทำงานกำกับติดตามสถานการณ์ราคาสินค้า (วอร์รูม) การขอความร่วมมือผู้ผลิตและผู้จำหน่ายตรึงราคาสินค้า การขยายตลาดการค้าในต่างประเทศ การทำ Mini FTA กับเมืองใหม่ การเปิดเจรจา FTA ฉบับใหม่ เช่น สหภาพยุโรป สมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (EFTA) อาเซียน-แคนาดา เป็นต้น
ส่วนกรณีที่ผลสำรวจ มีพนักงานของรัฐรับรู้และพอใจโครงการประกันรายได้มากที่สุด เพราะผู้ตอบแบบสอบถามบางคนประกอบอาชีพเกษตรกร มีพ่อแม่พี่น้องประกอบอาชีพ และได้ประโยชน์จากโครงการ ไม่ได้หมายความว่า พนักงานของรัฐไม่สามารถกรอกความเห็นในโครงการที่เป็นประโยชน์ และในแบบสอบถาม ทุกกลุ่มอาชีพต้องกรอกทุกข้อที่มีในแบบฟอร์ม เกษตรกรก็เหมือนกัน ก็ต้องกรอกในทุกแบบฟอร์ม แม้แต่นักศึกษา ก็พอใจกับโครงการได้