EA จับตาต้นทุน ‘ลิเทียม-นิกเกิล’ ออลไทม์ไฮ หวั่นลากยาวกระทบราคาขาย
“อีเอ” เผยราคา “ลิเทียม-นิกเกิล” ขยับสูงสุดเป็นประวัติการณ์จากผลพวง “รัสเซีย-ยูเครน” กระทบต้นทุนผลิตแบตเตอรี่พุ่ง ประเมินโลหะทรงตัวสูง 1-2 เดือน ยังรับมือได้ แต่หากลากยาว 5-6 เดือน อาจปรับราคาขายแบตฯ-รถอีวี
ความเคลื่อนไหวของราคาลิเทียมคาร์บอเนตและนิกเกิล ซึ่งเป็นต้นทุนสำหรับการผลิตแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ปรับขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่เป็นเป็นประวัติการณ์ (ออลไทม์ไฮ) โดยราคาลิเทียมคาร์บอเนตทะยานขึ้นสู่ระดับ5 แสนหยวนต่อตัน (ราว 2.6 ล้านบาทต่อตัน) และยังทรงตัวสูงต่อเนื่องที่บริเวณ 4.9 แสนหยวนต่อตัน (ราว 2.5 ล้านบาทต่อตัน) ขณะที่ราคานิกเกิลพุ่งทดสอบ 1 แสนดอลลาร์ต่อตัน (ราว 3.3 ล้านบาทต่อตัน) ก่อนจะปรับฐานลงมาเคลื่อนไหวที่ 5 หมื่นดอลลาร์ต่อตัน (ราว 1.6 ล้านบาทต่อตัน)
นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดเผยว่า ราคาลิเทียมฯ และนิกเกิลที่ปรับตัวขึ้นสูงในช่วงที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการทำสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน ซึ่งส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity) ทั่วโลกทะยานขึ้น โดยบริษัทประเมินผลกระทบเบื้องต้นในกรณีที่ราคาโลหะทั้ง 2 ทรงตัวอยู่ในระดับสูงราว 1-2 เดือน จะไม่กระทบต่อต้นทุนการผลิตของบริษัท
ทั้งนี้ เนื่องจากลิเทียมฯ และนิกเกิลเป็นเพียง 1 ในต้นทุนของการผลิตแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น ไม่ใช่ต้นทุนทั้งหมดในการผลิตแบตฯ ทั้งก้อน รวมถึงไม่ใช้ต้นทุนทางตรงของบริษัท กล่าวคือ บริษัทรับซื้อสารประกอบมาจากผู้ผลิตในต่างประเทศอีกทอดหนึ่ง โดยราคาซื้อขายจะใช้ราคาเฉลี่ยย้อนหลังราว 1-3 เดือน
อย่างไรก็ตาม หากราคาโลหะยังทรงตัวสูงต่อเนื่องราว 5-6 เดือน ซึ่งเป็นผลจากสภาวะสงครามที่ลากยาว คาดว่าจะส่งผลกดดันต้นทุนการผลิตแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้าให้เพิ่มขึ้น ซึ่งท้ายที่สุดคาดว่าบริษัทอาจต้องปรับเพิ่มราคาขายแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้า รวมถึงราคาขายยานยนต์ไฟฟ้า แต่คาดว่าจะปรับขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เช่น ราคาโลหะปรับขึ้นราว 70-80% อาจกระทบราคาขายให้เพิ่มขึ้นราว 10%
“ในช่วงที่ผ่านมา นักลงทุนก็แสดงความกังวลต่อราคาที่ปรับขึ้นสูง แต่ราคาโลหะที่ปรับขึ้นไม่ได้กระทบเราโดยตรง เพราะเราไม่ได้ซื้อขายตามราคาซื้อขาย ณ ปัจจุบัน (ราคา Spot) รวมถึงในภาคอุตสาหกรรมเหมืองขุดแร่เอง ก็มีการเปิดเหมืองเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเพื่อนำอุปทานใหม่เข้าตลาด จึงเชื่อว่าท้ายที่สุดแล้วราคาจะกลับเข้าสู่จุดสมดุล”
นายอมร กล่าวว่า ในกรณีที่สงครามยุติลง คาดว่าราคาลิเทียมฯ และนิกเกิล จะปรับฐานลงมาเคลื่อนไหวในราคาที่สมเหตุสมผลมากขึ้น แต่คงไม่ใช่การปรับลงไปเคลื่อนไหวในระดับที่ถูกมาก เพราะการปรับขึ้นของราคาโลหะในช่วงที่ผ่านมาเป็นผลจากความต้องการใช้งานที่เพิ่มขึ้นด้วย โดยเฉพาะความต้องการใช้งานในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า
อย่างไรก็ตาม ลิเทียมฯ และนิกเกิลไม่ใช่สินค้าโภคภัณฑ์ที่ขาดแคลน โดยยังมีแหล่งสำรวจสำรองหลายแห่ง โดยเชื่อว่าเมื่อกำลังการผลิตของแหล่งสำรวจที่สำรองเอาไว้สามารถเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ จะส่งผลให้ราคากลับเข้าสู่จุดสมดุลมากขึ้น
เมื่อสอบถามถึงเป้าหมายการดำเนินงานปี 2565 นายอมร กล่าวว่า บริษัทคงเป้าหมายการเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% โดยมาจากการเติบโตของธุรกิจอีวีทั้งในส่วนของ แบตเตอรี่ รถบัสไฟฟ้า รถบรรทุกไฟฟ้า และสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ขณะที่ธุรกิจไบโอดีเซลและพลังงานทดแทน วางเป้าหมายรักษาการเติบโตต่อเนื่อง