Dow ชู "นวัตกรรม" สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ยั่งยืน ดันไทยสู่เป้า Net Zero

นายฉัตรชัย เลื่อนผลเจริญชัย ประธานบริหาร กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) กล่าวเปิดงานสัมมนา “Fast Track to the Net Zero” จัดโดย ดาว ประเทศไทย ร่วมกับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า Dow หวังที่จะเป็นสื่อกลางในการให้ข้อมูลสำคัญของการ Low Carbon เพื่อสร้างแรงบันดาลใจจากนวัตกรรมต่างๆ ไปประยุกต์ใช้ได้จริง เพื่อก้าวไปถึง Net Zero ดังนั้น สังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมของโลก จะยั่งยืนได้ ก็ต่อเมื่อเรามีการบริโภคที่ยั่งยืน มีธุรกิจที่ยั่งยืน ซึ่งนวัตกรรมต่างๆ จะเป็นตัวนำพาให้ไปถึงเป้าหมาย จะเห็นได้ว่าหลายองค์กร และหลายประเทศ เริ่มกำหนดเป้าหมายของการลดการปล่อนก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

ทั้งนี้ ประเทศไทยได้ตั้งเป้าหมายสู่ Net Zero ปี 2065 เมื่อฟังดูเหมือนอีกยาวนาน แต่ในความเป็นจริงแล้วสิ่งเหล่านี้หรือมาตรการต่างๆ กำลังจะเกิดขึ้นในเร็วๆ วันนี้ ดังนั้นทุกคนสามารถทำได้ ซึ่ง 2 อย่างแรกคือ รอให้มาตรการเกิดขึ้นก่อน แล้วมาทำการปรับปรุงแก้ไขหรือวิธีที่ 2 ถ้าลุกขึ้นมาปรับปรุงแก้ไขธุรกิจ หาวิธีพัฒนาการลดคาร์บอนเพื่อให้ถึงเป้าหมายโดยเร็ว ดังนั้น ควรจะเซตมาตรการเหล่านี้ด้วยตัวเอง

“เชื่อว่าพวกเราสามารถทำได้ เราจะสามารถลุกขึ้นมาจัดการกับสิ่งเหล่านี้ได้ Dow จะเป็นกำลังสำคัญโดยใช้นวัตกรรมในการผลักดันให้ประเทศไทย ก้าวสู่เป้าหมาย โดยเริ่มต้นจากองค์กรของเราก่อน เพื่อให้ประเทศไทยก้าวสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งเราเป็นองค์กรที่ใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการสร้างนวัตกรรม ที่ตอบโจทย์ท้าทายของโลก พร้อมที่จะทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนเพื่อก้าวไปข้างหน้าสู่เป้าหมาย Net Zero”

นายรัฐเชษฐ์ ธีระธนาวัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายขายกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่ออาคารและโครงสร้างพื้นฐาน Dow Southeast Asia/Australia & New Zealand กล่าวว่า ปัจจุบันอุตสาหกรรมที่สร้างก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศสูงอีกอุตสาหกรรมคือ อุตสาหกรรมก่อสร้าง ดังนั้น กลุ่มดาวจึงคิดนวัตกรรมต่างๆ ที่ใช้เพื่อใช้นำไปสู่อาคารสีเขียว

ประเทศไทยก็ได้ตั้งเป้า Net Zero จะเกิดขึ้นได้ ต้องเกิดความร่วมมือทั้งผู้ผลิตพัสดุในส่วนที่จะช่วยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ อาทิ การเลือกวัสดุที่ใช้หรือให้อาคารมีประสิทธิภาพมากขึ้นลดอุณหภูมิลดลงโดยไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์ไฟฟ้า และยังมีในเรื่องของ Third Party ที่เป็นองค์กรรับรองวัสดุที่นำมาใช้รวมถึงโครงการโปรเจกต์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นว่าตรงไปตามมาตรฐานสากลในเรื่องของผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ทั้งนี้ 6 ส่วนสำคัญที่จะช่วยให้อุตสาหกรรมก่อสร้างสู่เป้าหมายการลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ คือ 1. ใช้วัตถุดิบให้เกิดประโยชน์สูงสุด 2. ผู้ผลิตนำผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ธรรมชาติให้มากสุด 3. การขนส่ง ทำอย่างไรให้ขนส่งสั้นลงโดยใช้พลังงานไฟฟ้า 4. การก่อสร้าง ทำยังไงให้เลือกใช้วัสดุที่ถูกต้องให้ตัวอาคารมีความคงทนและใช้พลังงานต่ำ 5. กลุ่มคน เมื่อมีการเข้าไปอยู่อาศัยในอาคาร จะต้องให้ความรู้แก่ผู้อยู่อาศัยโดยเฉพาะการแบ่งแยกประเภทของขยะ และ 6. การรีไซเคิล ทำอย่างไรให้เกิดการรีไซเคิลแบบครบวงจร สามารถกลับเข้ามาสู่กระบวนการที่ 1 เพื่อให้ได้มาเป็นวัตถุดิบในการก่อสร้างได้ในอนาคตต่อไป

น.ส.จิรวาเรศ พึ่งสุจริต ผู้อำนวยการฝ่ายขาย Home & Personal Care, Dow Consumer Solutions ASEAN and Australia & New Zealand กล่าวว่า จากการเก็บข้อมูลผู้บริโภค ด้านลดปัญหาสิ่งแวดล้อม และความปลอดภัย ซึ่งผู้บริโภคจะพูดถึงของการลดขยะโดยเฉพาะผลิตภัณฑ์รีไซเคิล และผลิตภัณฑ์ที่มาจากวัสดุความยั่งยืน

ทั้งนี้ ความต้องการ 5 ปีที่ผ่านมา ผู้บริโภคมีความเปลี่ยนไป โดยมองในเรื่องของ Organic เพราะสินค้าที่ออกสู่ตลาดหลายยี่ห้อนำเอาผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติเข้ามาในสูตรของผลิตภัณฑ์สุขภาพ และความงาม ส่วนเทรนด์ที่มาแรงในท้องตลาด และเป็นโอกาสของผู้ผลิตที่จะทำสินค้ามาตอบสนองจุดต่างๆ ได้แก่ การที่ได้มาโดยวัสดุธรรมชาตินั้น ต้องมาด้วยวิธีการที่ยั่งยืน ส่วนบรรจุภัณฑ์ต้องรีไซเคิลหรือรีไซเคิล Packaging ได้

ทั้งนี้ Dow ได้ค้นพบว่า ผลิตภัณฑ์ Dow อยู่ใกล้ตัวทุกคนโดยอยู่ในส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น แชมพู ครีมนวดผม ครีมทาผิว น้ำยาซักผ้า น้ำยาถูพื้น เป็นต้น ซึ่งได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ Solution สอดคล้องกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน รวมทั้งมีการลงทุนในเรื่องของการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ใช้พลังงานที่ผลิตมาจากพลังงานสีเขียว 60% ปี 2224 ถือเป็นความท้าทาย

“ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจะต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มาจากพลังงานสะอาด การใช้งานจะต้องประหยัดพลังงาน สามารถรีไซเคิลได้ และหลังจากใช้งานเสร็จแล้วผลิตภัณฑ์นั้นๆ ควรจะย่อยสลายในสิ่งแวดล้อมธรรมชาติหรือรีไซเคิลได้”

อย่างไรก็ตาม Dow ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน ลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ และย่อยสลายได้ในธรรมชาติและเป็น Bio based ที่มาจากธรรมชาติ ประหยัดพลังงาน อาทิ ผลิตภัณฑ์การจัดแต่งทรงผมมีพอลิเมอร์ที่ช่วยจัดแต่งทรงผมจะมาจากการสังเคราะห์ ซึ่งในยุคปัจจุบันการที่จะนำผลิตภัณฑ์มาใช้เพื่อทดแทนโดยใช้พอลิเมอร์จากข้าวโพด ที่มาจากธรรมชาติ 100% สามารถย่อยสลายได้ในสิ่งแวดล้อม รวมถึงครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง พบว่าการนำเยื่อไม้ทำ bio-based suncare เป็นมิตรกับผู้บริโภคสิ่งแวดล้อมและยังเป็นมิตรกับปะการัง เป็นต้น

 

พิสูจน์อักษร  โดย....สุรีย์   ศิลาวงษ์