เปิด 15 เส้นทาง “สายมู” มาแรงทั่วไทย เที่ยวไปมูไป! เสริมดวงปัง ชีวิตรุ่งเรือง
เที่ยวไปด้วย...มูไปด้วย! การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โหมโปรโมท 15 เส้นทางท่องเที่ยว “สายมู” มาแรงทั่วไทย เปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวเชื่อมศรัทธาทางศาสนา ความเชื่อ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เสริมสิริมงคลแก่ชีวิต
ภาคเหนือ
1.เชียงใหม่ - “เส้นทางแห่งความหวัง โชคลาภทันใจ”
ดั้นด้นไปหาความอันซีนที่ซ่อนอยู่ในกลางพงไพร แล้วไปกราบหลวงพ่อทันใจ ขออะไรก็ให้สำเร็จสมใจปรารถนา
วัดหลวงขุนวิน อ.แม่วาง
ถึงจะต้องฝ่าฟันถนนหนทางขึ้นเขา บางช่วงสูงชัน ถนนเป็นทางลูกรัง สลับทางปูน แต่เมื่อแรกเห็นวัดหลวงขุนวิน วัดเล็กๆ ที่มีอายุเก่าแก่กว่า 700 ปี ดั่งต้องมนต์สะกด เหมือนได้ค้นพบความสวยงามแบบ Unseen ที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าลึก ก็สร้างความอิ่มเอมใจให้กับผู้ทีมีจิตศรัทธาที่ดันด้นมาหาได้ไม่น้อย ความวิจิตรตระการตา ของสถาปัตยกรรมสไตล์ล้านนาโบราณ ทั้ง วิหารไม้สักหลังเล็ก บันไดนาคสีขาวด้านหน้าที่มีลวดลายเรียบง่ายแต่งดงาม รวมทั้งพระยืนปางถวายเนตรซึ่งเป็นพระประธานของวัด ที่ถูกสลักจากไม้ เข้ากันกับตัวโบสถ์ได้ดี ยิ่งแวดล้อมไปด้วยความเขียวขจีของป่าไม้ เหมือนได้หลุดไปสู่อีกมิติหนึ่ง ที่เข้มขลังและเปี่ยมด้วยพลังแห่งศรัทธา
วัดหลวงขุนวินสร้างไว้ตั้งแต่ราวปี พ.ศ. 1760 พอถึงปี พ.ศ. 1800 เมื่อพม่าตีเมืองเชียงใหม่แตก วัดนี้จึงถูก ปล่อยร้างมาหลายร้อยปี จนมีการบูรณะใหม่อีกครั้งในปี พ.ศ. 2497 โดยครูบาอุ่นเรือน สุภทุโท ผู้เป็นลูกศิษย์ของครูบาเจ้าศรีวิชัย ทำให้วัดหลวงขุนวินกลับมาเป็นวัดที่มีพระจำวัดและมีการดูแลรักษาอีกครั้ง และเมื่อชื่นชมความงามที่สถาปัตยกรรมที่ล้ำค่ากลางป่าลึกเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมไปกราบสักการะเจดีย์ที่บรรจุพระเกศาธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
หลวงพ่อทันใจ วัดพระธาตุดอยคำ อ.เมืองเชียงใหม่
ตลอดเส้นทางของถนนที่นำไปสู่วัดพระธาตุดอยคำนั้น เต็มไปด้วยร้านรวงมากมาย ที่ขายพวงมาลัยดอกมะลิ ให้กับผู้มีจิตศรัทธา ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวัง ได้เลือกซื้อเพื่อนำไปกราบไว้บูชา หรือแก้บนหลวงพ่อทันใจ ที่ประดิษฐานอยู่บนวัดพระธาตุดอยคำ วัดเก่าแก่อายุกว่า 1,400 ปี ที่สร้างมาตั้งแต่ยุคพระนางจามเทวี วันนี้นอกจากผู้ที่นักท่องเที่ยวจะขึ้นไปกราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานอยู่ในพระธาตุดอยคำแล้ว การได้ขึ้นมาขอพรหลวงพ่อทันใจ คือสิ่งที่ทุกคนตั้งใจจะทำเมื่อขึ้นมาบนดอยแห่งนี้
ในแต่ละวันผู้คนหลั่งไหลขึ้นมานมัสการหลวงพ่อทันใจกันเป็นจำนวนมาก เพื่อขอพร ทั้ง เรื่องของโชคลาภ หน้าที่การงาน และเรื่องของธุกิจ หลักการขอพรจากท่านนั้นง่ายมาก ขอให้ตั้งมั่นอธิษฐาน บอกกล่าวปัญหาและสิ่งที่ อยากได้ออกไป ครั้งละหนึ่งเรื่องเท่านั้น และเมื่อสำเร็จผลตามที่ปรารถนาแล้ว ค่อยกลับมา นำพวงมาลัยดอกมะลิ ที่หาซื้อได้ตลอดเส้นทางก่อนขึ้นมาถึงวัด นำมาไหว้ท่านตามจำนวนที่เคยบอกเอาไว้ มีตั้งแต่ 50 พวงขึ้นไป จนถึงหลักพันหลักหมื่นพวงตามกำลังของคนขอ ปาฏิหารย์ที่เกิดขึ้นทันใจบ่อยครั้งนี้เลื่องลือไปไกล จนหลวงพ่อทันใจ ของวัดพระธาตุดอยคำ ถือเป็นหนึ่งในสุดยอดสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทุกคนตั้งใจมากราบไหว้ขอพรเมื่อมาเที่ยวเชียงใหม่
2.ลำพูน - “เส้นทางเสริมชะตาคนปีระกา ส่งเสริมดวงชีวิตให้รุ่งเรือง”
กราบพระธาตุคู่บ้านของชาวลำพูน นั่งรถรางกราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์รอบเมืองโบราณหริภุญชัย
วัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร อ.เมือง
กราบขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ศูนย์รวมจิตใจชาวลำพูนมานานนับพันปี ถือเป็นหนึ่งในเส้นทางแสวงบุญสำคัญแห่งล้านนามาตั้งแต่สมัยหริภุญชัย องค์พระธาตุหริภุญชัยสีทองอร่ามเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า และยังเป็นพระธาตุประจำตัวของคนที่เกิดปีระกา ที่ต้องหาโอกาสมาสักการะเสริมดวงชะตากันสักครั้งเพื่อความเจริญรุ่งเรืองของชีวิต ภายในวัดยังมีสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมที่งดงามน่าชม ทั้ง วิหารหลวงที่งามอ่อนช้อย หอไตร รวมถึงซุ้มประตูที่งามวิจิตร รวมถึงสิงห์คู่ที่ยืนโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์อยู่ที่ด้านหน้าประตู
นั่งรถรางชมเมืองลำพูน
การท่องเที่ยวให้ได้รสชาติในการมาเยือนลำพูน ต้องมานั่งรถรางชมเมือง ซึ่งทางจังหวัดมีบริการรถรางนำพานักท่องเที่ยวเดินทางไปทำบุญ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ชมสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในเขตตัวเมือง รวมกว่า 11 แห่ง เริ่มตั้งแต่ วัดพระธาตุหริภุญชัย พิพิธภัณฑ์ชุมชนเมืองลำพูน คุ้มเจ้ายอดเรือน อนุสาวรียพ์ระนางจามเทวี วัดจามเทวี วัดมหาวัน วัดพระคงฤาษี วัดสันป่ายางหลวง โบราณสถานกู่ช้างกู่ม้า วัดพระยืน และวัดต้นแก โดยมีมัคคุเทศน์ให้ความรู้ตลอดการเดินทาง มีบริการทั้งรอบเช้าและบ่าย
3.ลำปาง - “เส้นทางนมัสการพระใหญ่ไดบุตสึ”
สักการะพระธาตุลำปางหลวง กราบพระแก้วดอนเต้า ตามหาคิวปิด เทพแห่งความรักในวัดโบราณ และดั้นด้นไปชมความงามของพระไดบุตสึที่เด่นตระหง่านบนดอยพระฌาน
พระไดบุตสึ วัดพระธาตุดอยพระฌาน อ.แม่ทะ
ขึ้นดอยไปสักการะองค์พระใหญ่ แห่งวัดพระธาตุดอยพระฌาน ที่กลายเป็นแลนด์มาร์กใหม่ของจังหวัดลำปางในขณะนี้ องค์พระใหญ่นั้นสร้างขึ้นมาตั้งปี พ.ศ. 2562 เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิศิลปะแบบญี่ปุ่น มีลักษณะคล้ายกับองค์พระไดบุตสึแห่งวัดโคโตคุ เมืองคามาคุระ ประเทศญี่ปุ่น วัสดุในการสร้างองค์พระใหญ่นั้นทำจากทองแดง ซึ่งเมื่อทำปฏิกิริยากับอากาศ องค์พระใหญ่ได้เปลี่ยนเป็นสีเขียวอมฟ้างดงามตามธรรมชาติ ประดิษฐานโดดเด่นมองเห็นได้แต่ไกลบนเนินเขาของวัดพระธาตุดอยพระฌาน ภายในบริเวณวัดยังมีสถาปัตยกรรมในสกุลช่างลำปางที่น่าชมหลายอย่าง เช่น พระพุทธรูปประธานในวิหาร รวมถึงพระธาตุเจดีย์ และซุ้มประตูโขง และยังเป็นจุดชมทิวทัศน์มุมสูงแบบ 360 องศา มองเห็นได้ไกล ถึงสามอำเภอ อำเภอแม่ทะ อำเภอกาะคา และอำเภอเมือง ยิ่งในช่วงเช้าของฤดูหนาวหรือฤดูฝนอาจได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นสวยท่ามกลางสายหมอกอีกด้วย
วัดพระธาตุลําปางหลวง อ.เกาะคา
วัดพระธาตุลำปางหลวง อำเภอเกาะคา เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของชาวลำปางมานานหลายร้อยปี
วัดโบราณที่ยังมีชีวิตแห่งนี้ งดงามด้วยองค์พระธาตุเจดีย์ทรงล้านนาปิดทองจังโกเรืองรอง เป็นพระธาตุประจำปีของผู้ที่เกิดปีฉลูตามความเชื่อของชาวล้านนา ที่ไครได้มากราบไหว้บูชาจะช่วยส่งเสริมดวงชะตาให้รุ่งเรือง ในวัดเป็นที่ประดิษฐานพระแก้วดอนเต้า รวมถึงพระเจ้าล้านทองในวิหารหลวงและลายคำที่งามวิจิตร สิ่งที่พลาดไม่ได้คือการได้ชมเงาพระธาตุกลับหัว ปรากฏการณ์ ภายในวิหารพระพุทธ ที่ฉายให้เห็นเงาพระธาตุกลับหัวที่ชัดเจน อันเกิดจากความลงตัวของธรรมชาติที่ได้สร้างสรรค์ไว้อย่างน่าอัศจรรย์
ตามหาเทพคิวปิด แห่งเมืองลำปาง อ.เมือง
ตามรอยเทพเจ้าแห่งความรัก คิวปิดน้อย ที่ซ่อนกายอยู่ในวัดหลายแห่งในเขตอำเภอเมือง เช่นวัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม ซึ่งเป็นวัดสำคัญของจังหวัดซึ่งเคยประดิษฐานพระแก้วมรกตมาแล้วในอดีต ในวัดมีเจดีย์สีทองสง่า และพระมณฑปที่โดดเด่นด้วยศิลปะพม่า หลังคาช้อนกันเจ็ดชั้น งดงามด้วยลายไม้แกะสลักปิดทองประดับกระจกอ่อนช้อย ในลวดลายเพดานจะได้พบกับกามเทพคิวปิดโบยบินอยู่ โดยผลงานของช่างพม่าที่สร้างสรรค์ไว้ อันเป็นมรดกของการผสมผสานทางวัฒนธรรมดูงดงามลงตัว
วัดศรีชุม เป็นอีกหนึ่งวัด ที่สามารถพบกับเทพคิวปิดได้ เทพคิวปิดยืนพนมมือยืนบนพระจันทร์เสี้ยวที่ประดับบนบานประตู ดูน่ารักน่าเอ็นดู วัดแห่งนี้ถือเป็นวัดศิลปะพม่าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยสร้างขึ้นโดยฝีมือช่างจากมัณฑะเลย์นับตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5
ภาคกลาง
4.สุพรรณบุรี - “เส้นทางลั่นระฆังแห่งความสำเร็จ”
ถวายมีดดาบแทนศรัทธาต่อหลวงพ่อขุนด่าน แล้วไปนมัสการหลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์ ขอโชคลาภ และแคล้วคลาดปลอดภัย
หลวงพ่อขุนด่าน อ.ด่านช้าง
การถวายดาบด้วยจิตใจที่เปี่ยมศรัทธา แด่พระพุทธสุพรรณมุนีศรีศาสดา หรือหลวงพ่อขุนด่าน เกิดจากความเชื่อของชาวบ้านที่ว่า มีดดาบ จะช่วยฝ่าฟัน ตัดอุปสรรคขวากหนาม ให้หมดไปจากชีวิตได้ สามารถตัดทุกข์ ตัดเคราะห์ ให้เบาบางลง ทำให้เรื่องร้ายๆ กลับกลายเป็นดี ความจริงก็คือปริศนาธรรมที่สอนให้ใช้ดาบตัดกิเลส ความโลภ ความโกรธ ความหลง ให้หมดไปในจิตใจนั่นเอง เมื่อทำได้แล้ว ก็จะพบกับความสุขสงบที่ตามมา ความศรัทธาที่เหนือคำอธิบายนี้ มองเห็นได้จากจำนวนของดาบแก้บนหลวงพ่อขุนด่านที่มีอยู่เป็นมากมายเหลือเกิน
หลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์ อ.เมือง
หากได้มาเยือนสุพรรณบุรี การได้มากราบนมัสการหลวงพ่อโต คือจุดเริ่มต้นของความเป็นศิริมงคลสำหรับชีวิต ว่ากันว่าหลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์ ถูกสร้างก่อนสถาปนากรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ถือเป็นปางประจำของผู้ที่เกิดวันพุธตอนกลางคืน ด้านหน้าพระวิหารมีองค์จำลอง ให้ประชาชนได้เข้ามากราบไหว้ จุดธูปเทียน ปิดทอง เป็นจุดที่มาวางของแก้บน ให้ประสบความสำเร็จตามคำขอด้วย ไข่ต้ม ขนมจีนน้ำยาและพวงมาลัย ภายในวัดยังมีพระพุทธรูปหลวงพ่อดำให้กราบสักการะขอพรด้วยเช่นกัน เนื่องจากวัดป่าเลไลยก์ มีความเกี่ยวข้องกับวรรณคดีอันเลื่องชื่อของไทย คือ เสภาขุนช้างขุนแผน นิราศเมืองสุพรรณของสุนทรภู่ รอบๆ วิหารของหลวงพ่อโต นอกจากจะมี มีจิตรกรรมฝาผนังเล่าเรื่องราวของขุนช้าง-ขุนแผนแล้ว ในบริเวณวัดยังมี เรือนขุนช้าง ซึ่งเป็นเรือนไทยไม้สักโบราณ ขนาดใหญ่ บนเรือนมีภาพวาดบรรยายเรื่องขุนช้างขุนแผน และจัดแสดงเครื่องมือเครื่องใช้ในสมัยก่อน เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาเพื่อขอพรให้ร่ำรวยเหมือนขุนช้าง ทั้งการค้าขาย เมตตามหานิยม โชคลาภและเลขเด็ด
5.พระนครศรีอยุธยา - “เส้นทางข้ามกาลเวลา”
จินตนาการผ่านประตูแห่งกาลเวลา ตามรอยเรื่องราวของเมืองกรุงเก่า นมัสการหลวงพ่อโต บนบานเรื่องความรัก อธิษฐานโชคลาภต้องกราบหลวงพ่อรวย
ประตูแห่งกาลเวลา วัดพระงามคลองสระบัว อ.พระนครศรีอยุธยา
ซุ้มประตูอิฐเก่าที่ถูกพยุงไว้ด้วยรากเกาะเกี่ยวของต้นโพธิ์มานานกว่า 100 ปี ของวัดพระงาม วัดร้างเก่าแก่มาตั้งแต่สมัยอยุธยา จนเปรียบเสมือน ประตูแห่งกาลเวลา ที่สวยงามลึกลับ นับเป็นความ Unseen ที่ใครๆ ก็อยากเข้ามาสัมผัส เพียงแค่ลอดผ่านซุ้มประตูแห่งนี้ ยิ่งชวนให้จินตนาการถึงภาพอดีตอันงดงามที่เคยรุ่งเรืองเมื่อหลายร้อยปีก่อน ถึงแม้สิ่งที่หลงเหลือในปัจจุบัน จะมีเพียงร่องรอยฐานอุโบสถ เจดีย์แปดเหลี่ยม พระพุทธรูปเพียงองค์เดียวเท่านั้น ช่วงเวลาทองของการเข้ามาสัมผัสความงดงามของประตูกาลเวลานี้ คือช่วงเช้าตรู่ หรือในช่วงยามเย็นก่อนพระอาทิตย์ตกดิน เพราะเมื่อแสงสีทองของดวงอาทิตย์สาดส่องผ่านซุ้มประตู เข้ามาในอุโบสถ กำแพงแก้ว พระพุทธรูป และเจดีย์แปดเหลี่ยม จะเกิดภาพสวยงามในบรรยากาศที่น่าค้นหา ดั่งมีมนต์ขลังที่ตรึงตาตรึงใจต่อผู้ที่ได้พบเห็น ในปีพ.ศ.2562 ต้นโพธิ์ใหญ่ที่ปกคลุมซุ้มประตูกาลเวลาของวัดพระงามแห่งนี้ ได้ถูกประกาศให้เป็น 1 ใน 88 ต้น
รุกข มรดกแผ่นดิน ของประเทศไทย จากกระทรวงวัฒนธรรม เพราะเป็นต้นไม้สำคัญที่ได้อยู่ร่วมกับโบราณสถานสำคัญของพระนครศรีอยุธยามาอย่างยาวนาน
หลวงพ่อรวย วัดตะโก อ.ภาชี
นักท่องเที่ยวสายบุญ ล้วนรู้จักพระมงคลสิทธิจารย์ หรือ หลวงพ่อรวย เกจิอาจารย์ชื่อดัง แม้ท่านได้ละสังขารไปตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 แต่สรีระสังขารของท่านยังคงไม่เน่าเปื่อย และได้ถูกบรรจุเอาไว้ในโลงแก้วที่มหาธาตุเจดีย์ปาสาทิโก เพื่อให้ผู้มีจิตศรัทธาสามารถเข้าไปกราบขอพร เพื่อเสริมสิริมงคล ขอให้มีเงินใช้ไม่ขาดมือ นอกจากนั้นยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกหลายองค์ ที่สายบุญห้ามพลาด คือ พระประธานในอุโบสถ พระพุทธสุวรรณมหาสิทธิโชค หรือ หลวงพ่อสมหวัง ปิดทอง เสริมดวง ขอให้โชคดี มีสุขสมหวังดังนามหลวงพ่อ กราบหลวงพ่อทองคำ ขอให้มีสมบัติเนืองนองเงินทองเพิ่มพูน กราบหลวงพ่อ บุญญฤทธิ์ ให้ปลอดภัยทั่วทิศ และสักการะท้าวเวสสุวรรณ เทพแห่งการบันดาลโชค ลาภยศ อำนาจ วาสนา หน้าที่การงาน ให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บ นับว่าเป็นสถานที่ที่มีครบทุกสิ่งที่เป็นมงคล
หลวงพ่อโต วัดพนัญเชิงวรวิหาร อ.พระนครศรีอยุธยา
วัดพนัญเชิงวรวิหาร เป็นหนึ่งในวัดสำคัญเก่าแก่ก่อนการสถาปณากรุงศรีอยุธยา มีเรื่องเล่าตามพงศาวดารเหนือ ว่าพระเจ้าสายน้ำผึ้งเป็นผู้สร้าง และพระราชทานนามว่า วัดเจ้าพระนางเชิง แต่ละวันจะมีสาธุชนจำนวนมากมากราบไหว้ พระพุทธไตรรัตนนายก หรือหลวงพ่อซำปอกง มีความหมายว่า ผู้คุ้มครองการเดินทางทางทะเล คนไทยจะเรียกท่านว่า หลวงพ่อโต เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นลงรักปิดทอง ปางมารวิชัยขัดสมาธิราบ นับว่าเป็นพระพุทธรูปสมัยอยุธยาที่ขนาดใหญ่สุดในประเทศไทย ตามคำให้การชาวกรุงเก่ายังบันทึกไว้ด้วยว่า ก่อนจะเสียกรุงครั้งที่ 2 หลวงพ่อโตมีน้ำตาไหลออกมา เป็นที่อัศจรรย์ยิ่งนัก เชื่อกันว่าหากมาขอพรหลวงพ่อโต เพื่อให้มีสำเร็จก้าวหน้า มีเจริญรุ่งเรือง หากเมื่อสำเร็จได้ดังประสงค์แล้ว ให้กลับมาถวายผ้าห่มให้ท่าน
ศาลเจ้าแม่สร้อยดอกหมาก อ.พระนครศรีอยุธยา
ตำนานแห่งการสร้างวัดพนัญเชิง ที่เพี้ยนจากคำว่า พระนางเชิง คืออนุสรณ์แห่งความรักระหว่างกษัตริย์ไทย คือเจ้าชายสายน้ำผึ้ง กับราชธิดาจากเมืองจีน ที่จบลงด้วยโศกนาฏกรรมในยุคก่อนสถาปนากรุงศรีอยุธยา ศาลเจ้าแม่สร้อยดอกหมาก สร้างเป็นสถาปัตยกรรมแบบจีนและไทย มีป้ายเขียนว่า เปยเหนียง แปลความหมายถึงพระแม่ผู้เปี่ยมเมตตา ประดิษฐานรูปปั้นเจ้าแม่สร้อยดอกหมากที่แต่งองค์แบบจีน ชาวจีนให้ความเคารพนับถือในความศักดิ์สิทธิ์และอภินิหารของเจ้าแม่สร้อยดอกหมาก ว่ากันว่าท่านเป็นผู้ถือพระองค์ และมีรักเดียวใจเดียวต่อพระเจ้าสายน้ำผึ้ง ไม่โปรดให้ผู้ชายเข้าไปแตะต้องพระรูปของท่านไม่ว่ากรณีใดๆ หากมีผู้ชายจับต้องพระรูปต้องมีอันเป็นไป และหากต้องการขอพรจากเจ้าแม่ในเรื่องความรัก การงาน หรือขอบุตร ถ้ามีใจแน่วแน่มั่นคงก็มักจะได้ตามที่ขอ เมื่อสมหวังแล้วอย่าลืมนำของมาแก้บน เช่น สร้อยไข่มุก เครื่องสำอาง สิงโตเชิด ผ้าแพร และเรือสำเภาจำลอง
6.ปทุมธานี - “เส้นทางแห่งความร่ำรวย ด้วยอภินิหารของเซียนแปะ”
ตามรอยแห่งความศักดิ์สิทธิ์ อิทธิฤทธิ์ของเซียนแปะ ตามไปดูเปลือกหอยร้อยล้านปีที่กลายมาเป็นเจดีย์หนึ่งเดียวในโลก
เซียนแปะโรงสี
ยันต์ฟ้าประธานพรที่โด่งดัง พลังแห่งศรัทธาที่มีต่อเซียนแปะโรงสี หรืออาจารย์โง้ว กิมโคย ผู้มีเชื้อสายจีนในวัดศาลเจ้า วัดเก่าแก่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ช่วยดลบันดาลความสำเร็จแก่ผู้ที่นับถือ สมัยที่ท่านมีชีวิตลูกศิษย์ทั้งในและต่างประเทศจะขอให้ช่วยชี้แนะในเรื่อง ฮวงจุ้ย ทำเลที่ตั้งบ้าน ห้างร้าน บริษัท ท่านก็จะช่วยโดยไม่หวังผลตอบแทน แม้ย่างเข้าวัยชราก็ยังคงชี้แนะเหล่าลูกศิษย์ด้วยความเมตตาจนวาระสุดท้าย หลังเสร็จสิ้นพิธีศพของท่าน ครอบครัวและคณะศิษย์ได้จัดสร้าง รูปเหมือนขนาดเท่าตัวจริง ไว้เป็นที่สักการะบูชาในวัดศาลเจ้า วัตถุมงคลของเซียนแปะที่ได้รับความนิยม คือ เหรียญรูปเหมือนรุ่นแรก เหรียญรูปเหมือนทรงหยดน้ำ ล็อกเก็ตรูปเหมือน และผ้ายันต์หลายรุ่นด้วยกัน มีทั้งแบบพกติดตัว ติดหน้าบ้าน ร้านค้า อาคาร สำนักงาน เชื่อว่าสามารถเสริมพลัง อำนาจ ความบริบูรณ์มั่งคั่งให้กับผู้บูชา
วัดเจดีย์หอย
ชื่อของวัดเจดีย์หอยมีที่มามาจากเจดีย์ที่สร้างจากเปลือกหอยอายุหลายล้านปี ที่ถูกค้นพบในบริเวณวัด นับเป็นเจดีย์หอยที่มีอยู่หนึ่งเดียวในประเทศไทย ภายในอุโบสถจะมีพระประฐานองค์ใหญ่สีทอง คือ หลวงพ่อชนะมาร ที่ชาวบ้านให้ความนับถือโดยมีความเชื่อว่า ถ้าใครได้มากราบสักการะจะชนะหมู่มารทั้งปวง บรรดาข้าราชการ ตำรวจ ทหาร มักจะมาขอพรให้สำเร็จอย่างที่ตั้งใจ และยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางเกษตร อย่าง สวนสมุนไพรว่านยา พิพิธภัณฑ์เรือยาว บึงน้ำปลาสวาย และบ่อเต่า นอกจากจะได้ทำบุญแล้ว ยังได้ทำทานด้วยการให้อาหารปลาและเต่าอีกด้วย
ภาคตะวันออก
7.ชลบุรี - “เส้นทางแก้เคล็ดปีชง”
กราบขอทวยเทพแห่งความสำเร็จ ฝากโรคภัยเคราะห์ร้ายไปกับองค์พญายม ขอโชคลาภจากพญาเต่าเรือน ลอดท้องให้อายุยืนยาว
สำนักสงฆ์เขาพระครู อ.ศรีราชา
สถานที่ปฎิบัติธรรมที่เงียบสงบ ร่มรื่นแบนยอดเขาที่ซ่อนตัวอยู่ในตัวเมืองศรีราชา นักท่องเที่ยวต่างพากันมากราบนมัสการ ขอพรพระพุทธรูปปางลีลานาคะบารมี เพราะนอกจากจะได้ทำบุญแล้ว ที่นี่ยังเป็นจุดชมวิวแบบพาโนรามาที่สวยงามของอำเภอศรีราชา และถ้าอยากเห็นเมืองศรีราชาในมุมมองที่แปลกตา ให้มองผ่านลูกแก้วมณีนาคราชคริสตัล ที่อยู่ตรงกลางระหว่างองค์พญานาคคู่ที่หันหัวชนกัน ก็จะได้เห็นศรีราชาในมุมกลับหัว กลายเป็นมุมถูกใจของคนที่ชื่นชอบในการถ่ายรูป
ศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ อ.เมือง
ที่อ่างศิลานอกจากเป็นแหล่งทำครกหินเลื่องชื่อ และแหล่งอาหารทะเลสดใหม่ขวัญใจนักท่องเที่ยวแล้ว ยังเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ ศาลเจ้าขาดใหญ่ที่นอกจากจะมีความสวยงามแล้ว ยังเป็นที่ประดิษฐานองค์เทพที่คนจีนเคารพทุกองค์ และมีปางเทพนาจามากที่สุดในประเทศไทย ซึ่งเทพหนาจานี้ถือเป็นเทพแห่งความสำเร็จ เชื่อกันว่าให้โชคทางด้านการค้า ประสาทพรทั้ง 4 อันได้แก่ อายุ วรรณะ สุขะ พละ ผู้ใดทำการสักการะบูชา จะอุดมด้วยโชคทรัพย์ มีชัยชนะไปทั่วทุกสาระทิศ ส่วนใหญ่คนที่มากราบไหว้มักจะมาขอเกี่ยวกับการงาน ให้ประสบความสำเร็จ เรื่องของสุขภาพ และเป็นสถานที่สำคัญที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาแก้เคล็ดปีชงอีกด้วย
ประเพณีแห่พญายม บางพระ
เป็นประเพณีโบราณ หนึ่งเดียวในโลก ที่สืบทอดกันมานับร้อยปีของชาวบ้านบางพระ ซึ่งจัดขึ้นทุกปีในวันที่ 18 เมษายน หลังสิ้นสุดเทศกาลสงกรานต์หรือเรียกว่าวันไหล พญายมราช คือเทพแห่งความตายและนรก เป็นเทพที่มีหน้าที่ตัดสินบุญบาปของมนุษย์ จากความเชื่อและศรัทธาของชาวบางพระ จะมีการจัดบวงสรวงรูปปั้นพญายมที่ทำขึ้นใหม่ในแต่ละรอบปี แล้วแห่ไปตามเส้นทางบ้านเรือนของประชาชน ซึ่งรอร่วมอธิษฐานจิตฝากทุกข์โศก โรคภัยและสิ่งไม่ดีทั้งหลาย ฝากไปกับพญายมราช จากนั้นจะส่งลงแพลอยน้ำในช่วงค่ำ เพื่อให้สิ่งไม่เป็นมงคลไหลไปพร้อมกับองค์ยมราช เหมือนได้สะเดาะเคราะห์ ทำให้ร้ายกลายเป็นดี เป็นประเพณีที่สร้างขวัญและกำลังใจที่สืบทอดกันมายาวนาน
พระราชวังจุฑาธุชราชฐาน เกาะสีชัง
ในอดีตเคยเป็นพระราชวังฤดูร้อนในรัชกาลที่ 5 ปัจจุบันกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามและทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของคนไทย โดยเฉพาะสะพานอัษฎางค์สีขาวสวยงามที่ทอดยาวไปในทะเล กลายเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเกาะสีชังที่นักท่องเที่ยวต้องมาถ่ายรูป และเพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและถวายพระเกียรติแด่รัชกาลที่ 5 ที่เคยเสด็จแปรพระราชฐานมาประทับบนเกาะสีชัง และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างสาธารณสถานมากมาย จึงมีการสร้างพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 โดยกรมศิลปากร ด้วยท่าประทับนั่งแบบผ่อนคลายพระอิริยาบท ในศาลาทรงไทยหันพระพักตร์ออกทะเล นักท่องเที่ยวนิยมมาสักการะด้วยการจุดธูป 9 ดอก และดอกกุหลาบสดสีแดง หรือชมพูจำนวน 1 ดอก เพื่อขอพรท่านเกี่ยวกับการงาน โดยหากประสบผลสำเร็จ ให้กลับมาถวายดอกกุหลาบตามจำนวนที่บนไว้ ในฃ่วงเทศกาลตรุษจีนและวันปิยะมหาราช คือวันที่ 23 ตุลาคมของทุกปี จะมีประชาชนมากราบไหว้เป็นจำนวนมาก
พระรูปกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ณ จุดชมวิวบนเขาพระตำหนัก พัทยา
ท่านคือพระบิดาแห่งราชนาวีไทย ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของคนไทยเป็นอย่างมาก และนิยมเรียกท่านว่า เสด็จเตี่ย ผู้ที่มีจิตศรัทธาจะขึ้นมาสักการะขอพรจากท่านบนเขาพระตำหนักแห่งนี้ มีตั้งแต่เรื่องการค้า การงาน การเงิน สุขภาพ การเรียน โดยจะจุดธูป 9 หรือ 19 ดอก พร้อมเครื่องสักการะ เช่น ดอกกุหลาบแดง พวงมาลัยดอกมะลิ หรือดอกเขี้ยวกระแต หมากพลู จุดประทัดถวาย มีเครื่องเสวย เช่น น้ำตาลเมา น้ำชาจีน ขนมจีนน้ำพริก ขนม และผลไม้ไทยทั่วไป พร้อมกับข้าวไทย เป็ด ไก่ ปลา กุ้ง ยกเว้นเนื้อวัวและเนื้อหมู ที่ท่านไม่โปรด สำหรับการบวงสรวงกรมหลวงชุมพรนั้น ส่วนใหญ่
จะนิยมทำกันในวันที่ 19 ธันวาคม ของทุกปี เพราะเป็นวันคล้ายวันประสูติของท่านหลังจากกราบไหว้ขอพรกันจนอิ่มใจแล้ว ยังได้เพลินตากับวิวเมืองพัทยาที่มองเห็นโดยรอบบนเขาพระตำหนักแห่งนี้
วัดหนองจับเต่า อ.สัตหีบ
นอกจากจะมีอุโบสถสีขาวศิลปะปูนปั้น งดงามตระการตา รายรอบด้วยพญานาคสีแดงสะดุดตาแล้ว นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นั้น ยังนิยมมาขอโชคลาภจากพญาเต่าเรือนมีความเชื่อกันว่าหากใครได้ลอดใต้ท้องพญาเต่าเรือน แล้วจะทำให้มีอายุยืนเหมือนเต่า มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง หายจากโรคภัยไข้เจ็บ
8.ฉะเชิงเทรา - “เส้นทางแห่งบุญบารมี สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งลุ่มน้ำบางปะกง”
กราบขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งเมืองแปดริ้ว ขอบารมีสมเด็จองค์ปฐมอันเรืองแสง ส่องทางสว่างกับชีวิต
อุทยานพุทธประวัติ วัดโกรกแก้ววงพระจันทร์ อ.แปลงยาว
ณ อุทยานพุทธประวัติ วัดโกรกแก้ววงพระจันทร์ มีการสร้างรูปปั้นจำลองเหตุการณ์สำคัญในพุทธประวัติ ให้สาธุชนได้เรียนรู้เรื่องราวสำคัญต่างๆ อย่าง เหตุการณ์ประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ราวกับได้พาเราย้อนกาลเวลาไปเป็นประจักษ์กับเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ในสมัยพุทธกาล ตระการตากับรูปปั้นพระอรหันต์ 1,250 รูป ที่มาชุมนุมกันอย่างเนืองแน่นโดยมิได้นัดหมายในวันมาฆบูชา ราวกับว่าได้ร่วมเข้าสดับฟังพระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรม ร่วมกับพระอรหันต์ทั้ง 1,250 รูป ในครั้งนั้นด้วย ให้ความรู้สึกที่เป็นมงคลและสุขสงบยิ่งนัก ภายวัดโกรกแก้ววงพระจันทร์ยังร่มรื่นไปด้วยพรรณไม้ นอกจากจะเป็นแหล่งเรียนรู้ในพุทธประวัติที่สำคัญของฉะเชิงเทรา ที่นี้ยังเป็นวัดที่ประชาชนต่างมาทำบุญ ปฏิบัติธรรมอยู่ไม่ขาด
หลวงพ่อพุทธโสธร วัดโสธรวรารามวรวิหาร อ.เมืองฉะเชิงเทรา
พระพุทธรูปสำคัญที่สุดองค์หนึ่งแห่งสยาม ที่พุทธศาสนิกคนทุกคนล้วนเคารพศรัทธา ได้แก่ หลวงพ่อพุทธโสธร พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองแปดริ้ว ที่ได้รับความนับถือในระดับประเทศที่มีคนมาขอพรมากที่สุดองค์หนึ่งในประเทศ ด้วยความศรัทธาอย่างท่วมท้น สาธุชนต่างบอกต่อกันว่า ถ้าได้มากราบขอพรแล้ว มักจะสมปรารถนาในสิ่งที่มุ่งหวังทุกประการ ทั้งในด้านความเจริญในชีวิต การงาน และการเงิน ในแต่ละวันจะมีผู้คนมากมายที่มาสักการะขอพรจากหลวงพ่อโสธร รวมทั้งคนที่สมหวังแล้ว ก็จะเดินทางกลับมาถวายไข่ต้ม 99 ฟอง และจ้างละครรำอยู่อย่างไม่ขาดสาย เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าพรจากหลวงพ่อโสธรนั้น ส่งให้ผู้คนมีสุขสมหวังในด้านต่างๆ มากน้อยเพียงไร
สมเด็จองค์ปฐมเรืองแสง วัดป่าพรหมยาน อ.แปลงยาว
แม้ในยามค่ำสาธุชนที่เปี่ยมศรัทธา ก็ยังคงเดินทางมาที่วัดป่าพรหมยานอย่างไม่ขาดสาย เพราะทันทีที่แสงอาทิตย์ลับลาไป สมเด็จองค์ปฐมที่สร้างขึ้นด้วยมวลสารเรืองแสง ก็จะค่อยๆ เรืองรองขึ้นในความมืดราวกับอัศจรรย์ กลางลานธรรมพุทธจักรวาล อันเป็นที่ประดิษฐานรายล้อมไปด้วยพระพุทธเจ้า 28 พระองค์ ที่ดูศักดิ์สิทธิ์และเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งความเป็นมงคล ผู้คนมักเดินทางมาสักการะขอพรจากสมเด็จองค์ปฐม เพื่อรอชมองค์พระเรืองแสงเป็นสีมรกตในยามค่ำคืน โดยภายในพระเกศขององค์พระนั้นเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุเพื่อให้ศาสนิกชนได้กราบไห้เป็นศิริมงคล เชื่อกันว่าใครได้มาสักการะสมเด็จองค์ปฐม อันเป็นสัญลักษณ์ของการบูชาธรรมะของพระพุทธเจ้าแล้ว จะก่อเกิดปัญญาที่ส่องสว่างทั้งกลางวันและกลางคืน สามารถฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ ไปสู่ความรุ่งโรจน์ และแสงสว่างแห่งชีวิต
พระพิฆเนศปางนอนเสวยสุข วัดสมานรัตนาราม อ.เมืองฉะเชิงเทรา
เพียงได้มาสักการะองค์พระพิฆเนศปางนอนเสวยสุขก็มีความสุขแล้ว องค์พระพิฆเนศมีสีชมพูสดใส มีความยาวกว่า 24 เมตร ถือว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย นอนประทับเอกเขนกกลางลานอันกว้างใหญ่ดูเปี่ยมพลังแห่งความสุขและบารมี เหล่าผู้ศรัทธาต่างมากราบไหว้ขอพร เพราะเชื่อกันว่าใครที่ได้มาขอพรเทพเจ้าแห่งความสำเร็จนี้ จะทรงประทานพรให้พบกับสุขความสำเร็จ มีความสมบูรณ์พูนสุข มั่งคั่ง อิ่มหนำสำราญ มีเงินทองใช้อย่างไม่ขาดมือ ปราศจากทุกข์ภัย ไร้ความเศร้าหมองใดๆ ราวกับการได้เสวยแต่ความสุขอยู่ในวิมาน
9.นครนายก - “เส้นทางท่องวังพญานาค ขอโชคลาภ เลขดัง หลวงพ่อปากแดง”
เส้นทางเที่ยวเมืองบาดาล ตำนานพญานาค กราบขอโชคลาภจากหลวงพ่อปากแดง
วัดมณีวงศ์ อ.เมือง
วัดเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี ภายในจำลองให้เป็นเมืองบาดาลใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีพระพุทธรูปพระรัตนมณีมหาบาดาล ที่สร้างขึ้นอย่างวิจิตรงดงาม ภายในจะมีพญานาค ทั้ง 4 ตระกูล และบริวารรวมแล้วมากกว่า 1,000 ตัว เมื่อผ่านซุ้มประตูจะพบที่กราบไหว้บูชาพระพุทธรูป และรูปปั้นพญานาค พ่อปู่ศรีสุทโธคาบลูกแก้วสีม่วง และแม่ย่าศรีปทุมมาคาบลูกแก้วสีเขียว มีพญานาคนาคี ลูกแก้วสีขาว และพญานาคที่มีลักษณะแตกต่างกันตามสายพันธุ์ เช่น สายภุชงค์นาคราช พญานาคตระกูลวิธูปักษ์ องค์มุจลินทร์นาคราช มีองค์ปู่ฤาษีถือที่ครอบศีรษะ สามารถอธิษฐานขอให้ผ่านอุปสรรค วิธีการขอพร จุดแรกพญานาค 2 องค์ หน้าประตูวัด ฝั่งขวาของวัดหรือซ้ายมือของเรา ขอพรสุขภาพและโรคภัยไข้เจ็บ ส่วนด้านซ้ายมือของวัดหรือขวามือของเรา ขอด้านการงาน การเงิน หนี้สินและธุรกิจ จุดที่สอง ไหว้หลวงพ่อพันล้าน ขอด้านการงาน การเงิน ธุรกิจ จุดที่สาม พระพุทธรูปปางป่าเลไลยก์ ปางประจำวันพุธกลางคืน ให้มีชัยชนะเหนือศัตรู จุดห้ามพลาด คือ กราบนมัสการพระประธานในโบสถ์ สามารถขอพรด้านการเงิน ทรัพย์สมบัติ โชคสาภและปัญหาทางธุรกิจต่างๆ
หลวงพ่อปากแดง วัดพราหมณี อ.เมือง
หลวงพ่อปากแดง มีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่องของการให้โชคหรือเลขเด็ดจนเป็นที่เลื่องลือไปไกล จากบรรดานักเสี่ยงโชคทั้งหลายเดินทางมากราบไหว้เป็นจำนวนมาก ที่มาของชื่อหลวงพ่อนั้นมาจากบริเวณปากของท่านมีสีแดงเหมือนมีผู้นำลิปสติกมาทาไว้ ส่วนวิธีขอพร มีหลักการคือ ขอได้ครั้งละหนึ่งเรื่อง และเมื่อได้รับผลสำเร็จแล้ว กลับมาแก้บนด้วยกล้วยน้ำว้า 9 หวี หมากพลู 9 ชุด พวงมาลัย 9 พวงน้ำแดง 1 ขวด หลังจากขอพรเสร็จแล้ว ลองเดินดูรอบๆ เพราะภายในวัดยังมีศาลาอนุสาวรีย์ของอดีตกองพลญี่ปุ่นที่ 37 ครั้งสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งมีทหารญี่ปุ่น 7,920 คน เสียชีวิตในเขตนครนายก จึงได้สร้างอนุสรณ์สถานไว้ เพื่อเป็นที่ระลึก มีศาลหลวงพ่อโพธิ์ วิหารเจ้าแม่กวนอิม ด้านหลังวัดมีเรือโบราณ และพื้นที่ทำทานสำหรับให้อาหารปลาบริเวณคลองคล้อ
ภาคอีสาน
10.เลย - “เส้นทางพิชิตปริศนาธรรมแห่งผืนป่า”
เที่ยวชมภูพระ แล้วแวะสักการะพระธาตุศรีสองรัก ก่อนไปกราบพระและชมทิวทัศน์ที่วัดสมเด็จภูเรือมิ่งเมือง
ภูพระ อ.ด่านซ้าย
เป็นภาพสวยงามที่มีเสน่ห์ดึงดูดให้หลายคนที่ได้เห็น อยากขึ้นมาสัมผัสสักครั้ง จนกลายเป็นจุดเช็คอินแห่งใหม่ของอำเภอด่านซ้าย เกิดจากความร่วมมือร่วมใจของชุมชนบ้านหมากแข้ง ที่ช่วยกันขนย้ายองค์พระหลายสิบองค์ที่ชำรุดทรุดโทรมและถูกทิ้งกระจัดกระจายไว้ตามที่ต่างๆ ช่วยกันขนย้ายซ่อมแซมและนำมารวมไว้ที่นี่ พระพุทธรูปแต่ละองค์หน้าตักกว้าง 2.5 เมตร สูง 3 เมตร ถูกนำมาบูรณะปฏิสังขรณ์ตามหลักพุทธศิลป์ ทุกองค์จะมีสีขาวทั้งองค์ และได้รับการสนับสนุนจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ช่วยกันพัฒนาให้ภูพระกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของอำเภอด่านซ้าย เพื่อให้คนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวสามารถขี้นมาไหว้พระ ซึมซับบรรยากาศ ชมวิวถ่ายภาพได้ตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะตอนเช้ามืดและพลบค่ำที่จะได้แสงสวยๆ ท้องฟ้าสีจัดจ้านอีกด้วย
พระธาตุศรีสองรัก อ.ด่านซ้าย
พระธาตุศรีสองรัก ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นสักขีพยานมิตรภาพและความเกื้อกูลกัน ระหว่างกรุงศรีอยุธยาในยุคของสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ และกรุงศรีสัตตนาคณหุตหรือเมืองเวียงจันทน์ แห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว นอกเหนือจากความเก่าแก่และความงดงามของศิลปกรรมแบบล้านช้างที่เป็นเจดีย์ก่ออิฐถือปูนทรงระฆังคว่ำสูง มีฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสย่อมมุมไม้สิบสอง มีข้อห้ามที่ปฏิบัติกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันคือห้ามแต่งกายสีแดงและนำของสีแดงเข้าไปสักการะพระธาตุศรีสองรัก เพราะสีแดงคือคือสีของเลือด นอกจากนี้ยังเป็นที่เชื่อกันในหมู่ผู้ที่มีศรัทธาว่า หากมากราบไว้ขอพรพระธาตุศรีสองรัก จะสมความปรารถนาโดยเฉพาะความสัมพันธ์เรื่องความรัก โดยเชื่อกันว่า ถ้าบนด้วยต้นผึ้งแล้วจะสมหวัง ทำให้ในวันพระใหญ่มักจะมีต้นผึ้งมาถวายเป็นจำนวนมากเสมอ
พระกริ่งปวเรศ วัดสมเด็จภูเรือมิ่งเมือง อ.ภูเรือ
พระกริ่งปวเรศ ประดิษฐานอยู่ที่วัดสมเด็จภูเรือมิ่งเมือง ซึ่งเป็นพระอารามที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือสมเด็จย่า ทรงพระราชทานเงินซื้อที่ดินเพื่อสร้างวัดนี้ วัดตั้งอยู่บนยอดเนินที่มีทิวทิศน์งดงามรอบทิศ มีพระอุโบสถตั้งอยู่ตรงกลางโดยมีวิหารราย 4 หลังอยู่รายล้อม ทั้งอุโบสถและวิหารที่รายรอบสร้างขึ้นอย่างวิจิตรบรรจงจากไม้สัก โดยมีพระประธานหลัก คือ พระพุทธเจ้าไภสัชยาครุไวฑูรบประภา จอมแพทย์ หรือ พระกริ่งปวเรศ ที่มีพุทธลักษณะงดงาม เป็นที่นับถือและนิยมกันมานาน เพราะเชื่อกันว่าท่านจะช่วยให้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง นอกจากนั้นยังมีพระนอนแกะสลักด้วยหินหยกแม่น้ำโขงขนาดใหญ่จากพม่า และภาพสลักไม้หลายภาพ ภาพเขียนพระเกจิอาจารย์ที่เป็นที่เคารพ และที่พลาดไม่ได้คือ พระบรมสาทิสลักษณ์(ภาพวาด) ของรัชกาลที่ 9 เมื่อครั้งยังทรงผนวชอยู่อีกด้วย นับเป็นวัดขนาดเล็กที่มีสิ่งน่าสนใจต่างๆ มากมาย
11.สกลนคร - “เส้นทางมหาโชคลาภ”
เมืองที่งดงามด้วยวัดและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ เป็นที่พำนักของพระเกจิอาจารย์ในอดีตมากมาย รวมทั้งมีประวัติศาสตร์สำคัญของเมืองไทย
พญาเต่างอย อ.เต่างอย
พญาเต่างอยเป็นรูปปั้นเต่าชื่อดัง สร้างจากตำนานความเชื่อของชาวสกลนคร ที่เล่าสืบกันมาว่า แต่ก่อนชาวบ้านถูกกวาดต้อนและหนีภัยสงครามมาถึงลุ่มลำน้ำพุง เห็นมีเต่าเกาะโขดหินอยู่ริมฝั่ง ก็พิจารณาว่าเป็นที่อุดมสมบูรณ์และเหมาะสมในการตั้งถิ่นฐานอยู่อาศัย เลยตั้งชื่อหมู่บ้านว่า บ้านเต่างอย จนต่อมาเติบโตเป็นชุมชนที่ใหญ่ขึ้น จนได้เป็นเมืองและอำเภอที่อุดมสมบูรณ์และอยู่กันอย่างสงบสุข
ส่วนรูปปั้นพญาเต่างอยริเริ่มสร้างเสร็จในราวปี พ.ศ. 2555 ที่สวนสาธารณะหลังที่ทำการอำเภอเต่างอย โดยฝีมือช่างจากศูนย์ศิลปาชีพบ้านกุดนาขาม และได้รับความสนใจจากผู้ศรัทธามาบูชาพญาเต่างอยกันอย่างล้มหลาม เพราะเชื่อว่าจะช่วยให้อายุยืนยาวและให้โชคลาภ รูปปั้นพญาเต่างอยจึงกลายเป็นขวัญใจของผู้รักการแสวงโชคที่เดินทางมาไหว้จากทุกทิศทั่วไทย
วัดพระธาตุเชิงชุม อ.เมืองสกลนคร
เป็นปูชนียสถานศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองสกลนคร ที่ได้รับความเลื่อมใสศรัทธามาเป็นเวลาช้านาน เพราะเชื่อว่าถ้าได้มากราบไหว้จะช่วยให้เกิดสิริมงคลและรอดพ้นจากอันตรายทั้งปวง องค์พระธาตุสร้างขึ้นเพื่อครอบรอบพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้า 4 พระองค์ ภายในวิหารยังเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อพระองค์แสน พระพุทธรูป ปางมารวิชัยที่สร้างในพุทธศิลป์แบบเชียงแสน แต่เดิมพระธาตุเชิงชุมน่าจะเป็นปราสาทหินทรายศิลปะสมัยขอม ภายในกรอบประตูทางเข้าอุโมงค์ด้านขวามือ มีจารึกพระธาตุเชิงชุมอักษรขอมโบราณ ราวพุทธศตวรรษที่ 16 องค์พระธาตุในปัจจุบันเป็นศิลปะล้านช้าง เนื่องจากช่วงที่อิทธิพลของอาณาจักรล้านช้างแผ่เข้ามาบริเวณภาคอีสานของไทย ราวพุทธศตวรรษที่ 19 และได้มีการบูรณะองค์พระธาตุขึ้นมาใหม่ เพราะวัดตั้งอยู่ในตัวเมือง ติดกับหนองหาน แหล่งท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัด ทำให้วัดพระธาตุเชิงชุมไม่เคยว่างเว้นผู้ศรัทธามาสักการะทั้งคนท้องถิ่นและผู้แรมทางไกลมา
วัดป่าสุทธาวาส อ.เมืองสกลนคร
วัดป่าสุทธาวาสมีความสำคัญอย่างมาก เพราะเป็นสถานที่ละสังขารของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ ซึ่งเป็นพระวิปัสสนาที่เคร่งครัด ท่านออกเดินธุดงค์ไปทั่วทั้งภาคเหนือและภาคอีสาน และเป็นที่นับถืออย่างมากของพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศรวมถึงประเทศใกล้เคียง ท่านได้จําพรรษาอยู่ที่วัดป่าสุทธาวาสจนมรณภาพ และเพื่อระลึกถึงคุณงามความดีของท่าน เหล่าบรรดาสานุศิษย์ที่เคารพศรัทธาในตัวท่าน จึงได้มีการจัดสร้างพิพิธภัณฑ์พระอาจารย์มั่นภูริทัตตมหาเถระขึ้น เพื่อจัดรวบรวมอัฐบริขาร เครื่องใช้สอย และอัฐิธาตุของท่าน รวมทั้งจัดแสดงเรื่องราวชีวประวัติของท่าน เพื่อให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาหาความรู้ นอกจากนั้นยังมีรูปปั้นหุ่นขี้ผึ้งของพระอาจารย์มั่น เพื่อให้นักท่องเที่ยวหรือผู้มีจิตศรัทธาเข้ามากราบไหว้สักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล ภายในวัดป่าสุทธาวาส ยังมีเจดีย์จันทสารเจติยานุสรณ์ หรือเจดีย์พิพิธภัณฑ์หลวงปู่หลุย จันทสาโร และสถานที่ที่หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ได้มาปฎิบัติธรรมที่วัดแห่งนี้ด้วยเช่นกัน
12.บึงกาฬ - “เส้นทางมหัศจรรย์ ตำนานลุ่มแม่น้ำโขง”
ดินแดนถิ่นอีสานเหนือ ที่มีความผูกพันกับแม่น้ำโขงและความเชื่อพญานาค
ถ้ำนาคา อ.บึงโขงหลง
มหัศจรรย์ธรรมชาติของหินก้อนใหญ่และผนังถ้ำ ที่มีลักษณะคล้ายพญานาคหรืองูขนาดใหญ่นอนขดตัว สวยงามและน่ามหัศจรรย์ กลายเป็นที่กล่าวขวัญถึงอย่างมาก ด้วยฐานจากความเชื่อและศรัทธาเรื่องพญานาคที่อยู่ในวิถีชีวิตของคนไทย โดยเฉพาะคนอีสานมาเป็นเวลาช้านาน ถ้ำนาคานี้เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติภูลังกา จะเข้าถึงได้โดยการเดินเท้าขึ้นไปเท่านั้น แม้ว่าระยะทางการเดินอาจจะถือว่าไกลสำหรับบางคน แต่ทิวทัศน์ที่สวยงามระหว่างทางจนถึงหินพญานาคที่สวยงามแปลกตารออยู่ปลายทาง ทำให้ผู้ไปเยือนประทับใจได้ไม่น้อย
และด้วยความนิยมที่เพิ่มมากขึ้น และเส้นทางในการเดินขึ้นลงนั้นแคบและชันในบางช่วง นักท่องเที่ยวต้องจองคิวล่วงหน้าก่อนไป เพราะถ้ำนาคาเปิดรับนักท่องเที่ยวได้แค่วันละเพียง 500 คนเท่านั้น เส้นทางการเดินขึ้นข้างบนอาจจะใช้เวลานานชั่วโมงครึ่งถึงสองชั่วโมงเป็นอย่างน้อย และใช้เวลาสามหรือสี่ชั่วโมงตลอดทั้งทริป ดังนั้นจึงต้องเตรียมน้ำดื่มและอาหารขึ้นไปเองทั้งหมดให้เพียงพอ
ศาลตำหนักปู่อือลือ อ.บึงโขงหลง
ไหว้ขอพรปู่อือลือ ขอพรเรื่องหน้าที่การงาน การเงิน นี่คือความเชื่อของชาวบ้านท้องถิ่นบึงโขงหลงที่มีมาเป็นเวลาช้านาน สืบเนื่องจากตำนานที่เล่าต่อกันมาว่า ปู่อือลือหรือพระยาอือลือราชถูกพญานาคสาปไว้ให้เฝ้าบึงโขงหลง หลังจากเป็นเหตุให้ความรักไม่สมหวัง จนกว่าจะมีเมืองใหม่มาตั้ง ที่ชาวบ้านเชื่อกันว่า ก็คือการตั้งจังหวัดบึงกาฬนั่นเอง ศาลตำหนักปู่อือลือจึงกลายเป็นอีกหนึ่งจุดที่ผู้มีจิตศรัทธา และผู้แสวงโชคลาภหลายคนตั้งใจเดินทางมากราบสักการะเลยทีเดียว
วัดอาฮงศิลาวาส (สะดือแม่น้ำโขง) อ.เมืองบึงกาฬ
วัดอาฮงศิลาวาสตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำโขง ช่วงที่เรียกกันว่า แก่งอาฮง เป็นจุดที่ลึกและยังไม่สามารถวัดความลึกได้ กระแสน้ำเชี่ยวกราก ในฤดูน้ำหลากจะทำให้เกิดกระแสน้ำวนขนาดใหญ่เป็นรูปกรวย เมื่อมีวัตถุอย่างต้นไม้ลอยน้ำมาจะลอยวนอยู่ประมาณ 30 นาที ก่อนจะลอยต่อไปได้ ชาวบ้านจึงเรียกกันว่า “สะดือแม่น้ำโขง” จุดนี้จะกว้างประมาณ 300 เมตร ส่วนวัดอาฮงศิลาวาสเป็นวัดที่หลวงพ่อลุนก่อตั้งมานาน และไม่ปรากฏปี จนเมื่อปี พ.ศ. 2517 ได้มีการบูรณะ ปฏิสังขรณ์ฟื้นฟู และกลับมามีพระสงฆ์จำวัดอีกครั้ง กลายเป็นวัดที่สวยงามร่มรื่น มีจุดชมวิวแม่น้ำโขงและเจดีย์บรมธาตุอาฮง เป็นอีกหนึ่งปลายทางของนักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวบึงกาฬ เพื่อมาไหว้พระขอพรเรื่องการเงิน การงาน และโชคลาภ
ภาคใต้
13.นครศรีธรรมราช - “เส้นทางสายมูวาไรตี้”
สายมูเมืองคอนต้องห้ามพลาด ไม่ว่าจะขอโชคลาภจากไอ้ไข่ ขอพรเมตตามหานิยม สุขภาพจากตาพรานบุญ หรืออยากสมหวังเรื่องความรักก็ไปที่วัดไพศาลสถิต
ไอ้ไข่ วัดเจดีย์ อ.สิชล
ถ้าเอ่ยเรื่องความเชื่อการขอพรด้านโชคลาภและการค้าขาย ไอ้ไข่ เด็กวัดเจดีย์ แห่งเมืองสิชล ต้องเป็นดาวเด่น ขึ้นหิ้งแน่นอน แม้เรื่องราวเล่าขานยังไม่แน่ชัด บ้างว่ากันว่าเป็นดวงวิญญาณของเด็กวัดลูกศิษย์ที่ติดตามหลวงปู่ทวดครั้งธุดงค์มาที่วัดร้าง ซึ่งปัจจุบันคือวัดเจดีย์ แล้วทำหน้าที่เฝ้าสมบัติ บ้างก็ว่าเป็นวิญญาณเด็กแถวนั้น แต่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล่าแบบไหน ก็ตรงกันว่า ไอ้ไข่ น่าจะเป็นเด็กราว 9-10 ขวบ หรือหากย้อนกลับไปนับตามอายุจริง วันนี้ก็ต้องเป็นตาไข่ไปแล้ว
จุดเริ่มต้นความเชื่อความศรัทธาก่อร่างชัดเจนมากขึ้นราวปี พ.ศ. 2525 เมื่อคนท้องถิ่นชื่อผู้ใหญ่เที่ยง นิมิตถึงเด็กชายมาขอให้แกะรูปของตน จึงเป็นที่มาของการแกะสลักไม้ตะเคียน สลักกลายเป็นรูปเคารพไอ้ไข่ที่โด่งดังเป็นพลุแตกไปทั่วประเทศจวบจนทุกวันนี้ สำหรับใครที่ไปขอพรแล้วสมใจ มักแก้บนด้วยของเล่นเด็กต่างๆ เช่น ชุดลายพรางทหาร น้ำอัดลม น้ำหวาน รูปปั้นไก่ ฯลฯ ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ของไอ้ไข่ทำให้ใครต่อใครรับทรัพย์รับโชคลาภกันมากมาย
ตาพรานบุญ วัดยางใหญ่ อ.ท่าศาลา
โนรา ศิลปะการแสดงอันเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม ต้องมีตัวละครเด่นอย่างพรานบุญอยู่ด้วย ซึ่งพรานบุญ ไม่ได้เป็นเพียงแค่ตัวละครตลกที่มาสร้างสีสันในการแสดง แต่ยังเป็นหนึ่งในสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองนครศรีธรรมราช ด้วยความเชื่อในการขอพรเรื่องโภคทรัพย์ เมตตามหานิยม ไปจนถึงเรื่องสุขภาพ เพราะตำนานของพรานบุญ เป็นสุดยอดพรานแก่กล้าวิชาอาคม ทั้งยังสามารถจับนางกินนรและนางมโนราห์ได้ ก่อนจะได้รับบำเหน็จรางวัลทั้งทรัพย์สินและบริวารจากเจ้าเมือง จึงยิ่งทำให้ความเชื่อเรื่องโชคลาภเป็นที่เลื่องลือ
เดินทางไปขอพรกับตาพรานบุญให้ถึงถิ่น ต้องไปที่วัดยางใหญ่ อำเภอท่าศาลา ที่นี่มีศาลาตาพรานซึ่งผู้ศรัทธาต่างหลั่งไหลมาขอพรเป็นจำนวนมาก และไม่ต้องงว่าทำไมมีผ้าขาวม้าแขวนเต็มไปหมด เพราะเป็นเรื่องความเชื่อของการใช้ผ้าขาวม้าในการแก้บนนั่นเอง และอย่าลืมแก้บนเหล้าขาวให้ตาพรานบุญอีกซักขวดด้วยล่ะ
หลวงพ่อปากแดง วัดไพศาลสถิต อ.เมือง
อีกหนึ่งอันซีนนครศรีธรรมราชขวัญใจสายมู ต้องแวะมาสักการะหลวงพ่อปากแดง วัดไพศาลสถิต วัดเก่าแก่ที่อยู่ในอำเภอเมือง วัดไพศาลสถิต หรือวัดปากพยิง สันนิษฐานว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ส่วนไฮไลต์ห้ามพลาด คือ โบสถ์เก่าแก่อายุกว่า 100 ปี ซึ่งโอบอุ้มไว้ด้วยรากต้นไทร รากต้นโพธิ์ และต้นไม้น้อยใหญ่ กลายเป็นลวดลายจากธรรมชาติที่อยู่ร่วมกับโครงสร้างโบสถ์ได้อย่างกลมกลืน ทั้งภายนอกรวมถึงด้านใน ภายในพระอุโบสถเก่าได้รับการบูรณะพื้นใหม่สะอาด สร้างซุ้มหลังคาและตู้กระจก ประดิษฐานพระประธานปางมารวิชัยสีทองอร่าม พระโอษฐ์สีแดงเข้ม คือ หลวงพ่อปากแดง รวมถึงพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ ข้างซ้ายขวา โดยเป็นที่ทราบกันดีว่า ผู้คนนิยมเดินทางมาขอพรหลวงพ่อปากแดงเรื่องความรัก และความร่มเย็นเป็นสุข
14.ชุมพร - “เส้นทางขอพรเสด็จเตี่ย ตามรอยศรัทธาแห่งแดนใต้”
สักการะศาลกรมหลวงชุมพรที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ริมทะเลหาดทรายรี ตามรอยความศรัทธา สักการะธรรมธาตุเก่าแก่แห่งแดนใต้
ศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ หาดทรายรี อ.เมือง
สถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองและศูนย์รวมความศรัทธาของชาวชุมพร รวมถึงคนทั่วไปที่เดินทางมาเยือนก็ต้องแวะมาสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล คือ ศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ บริเวณหาดทรายรี นอกจากความงามด้านทัศนียภาพชวนให้ประทับใจแล้ว อนุสรณ์สถานแห่งนี้ยังนับเป็นศาลกรมหลวงชุมพรฯ ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่มีอยู่กว่าสองร้อยแห่งทั่วประเทศอีกด้วย บริเวณศาลประกอบไปด้วยศาลหลังเก่าใกล้กับเรือรบหลวงชุมพรที่ตั้งของพระตำหนักที่พระองค์สิ้นพระชนม์ ส่วนศาลหลังใหม่สร้างไว้บนเนินเขาไม่ไกลจากกัน เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นเวิ้งอ่าวของหาดทรายรี ทะเลครามได้ไกลสุดสายตา
นายพลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ทรงได้รับสมัญญานามว่า องค์บิดาของทหารเรือไทย และทรงเปรียบดั่งเสด็จเตี่ยของชาวบ้าน พระองค์ทรงมีพระปรีชาสามารถด้านการเรือสมัยใหม่ และยังทรงมีประวัติว่าสนพระทัยเรื่องไสยศาสตร์วิชาอาคม ดังนั้นความศรัทธาและความเชื่อของผู้คนที่เดินทางมาสักการะขอพรที่นี่ จะเป็นเรื่องหน้าของที่การงาน ความสำเร็จ โดยเฉพาะการสอบในด้านราชการ ตลอดจนถึงเรื่องการเดินทางให้แคล้วคลาดปลอดภัย โดยความนิยมของเครื่องสักการะ ได้แก่ ดอกกุหลาบแดง พวงมาลัยดอกมะลิ หมากพลู รวมทั้งการจุดประทัดถวาย
วัดพระบรมธาตุสวี อ.สวี
พระธาตุสวี หรือพระบรมธาตุสวี หนึ่งในจตุรธรรมธาตุแห่งท้องทะเลฝั่งอ่าวไทย สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา มีอายุกว่า 700 ปีแล้ว จากตำนานเล่าว่า พระเจ้าศรีธรรมโศกราช เจ้าเมืองนครศรีฯ เคลื่อนทัพมาเจอฝูงกาบินร้องกันเซ็งแซ่บนซากปรักหักพัง เมื่อทรงสั่งให้รื้อซากจึงพบผอบบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ จึงโปรดให้ปฏิสังขรณ์พระเจดีย์แห่งนั้น ซึ่งกาลเวลาผ่านมาถึงปัจจุบัน คือ พระธาตุสวี นั่นเอง
ศิลปกรรมของพระบรมธาตุสวี มีลักษณะเป็นทรงระฆังแบบเดียวกับพระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราช เคยได้รับบูรณะมาแล้วหลายครั้ง จนปัจจุบันงดงามด้วยสีทองอร่ามตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยม นับเป็นโบราณสถานแห่งชาติ และโบราณสถานสำคัญของชาวชุมพรที่ให้ความเคารพนับถือ โดยความเชื่อแบบพุทธศาสนาผู้คนนิยมมาสักการะขอพรที่พระบรมธาตุสวีเพื่อความเป็นสิริมงคลให้แก่ตนเองและครอบครัว
15.ตรัง - “เส้นทางเนรมิตบุตรจากสวรรค์”
สืบสานความเชื่อของชาวไทยเชื้อสายจีน สักการะศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ จากเมืองตรังไปถึงกันตัง
ศาลเจ้าท่ามกงเยี่ย อ.เมือง
อาคารชั้นเดียวสถาปัตยกรรมแบบจีนสีสันสดใสสะดุดตาอย่าง ศาลเจ้าท่ามกงเยี่ย สะท้อนให้เห็นภาพความศรัทธาที่ไม่เคยเสื่อมคลาย ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวตรังสร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2496 โดยเป็นความร่วมใจกันระหว่างชาวไทยเชื้อสายจีน ลูกหลานมณฑลกวางตุ้ง ฮกเกี้ยน รวมถึงชาวไหหลำ
ศาลเจ้าท่ามกงเยี่ย ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ อันเป็นที่สถิตขององค์ยุวเทพท่ามกงเยี่ย ภายในศาลเจ้า ประกอบไปด้วยจุดสักการะต่างๆ ตามแบบศาลเจ้าจีน เช่น แท่นบูชาฟ้าดิน แท่นบูชาเทวดารวม แท่นบูชากลาง เป็นพระท่ามกงเยี่ย รวมถึงองค์พระต่างๆ ที่ผู้คนนับถือ จึงเต็มไปด้วยความผูกพันและศรัทธาจากชาวตรังเชื้อสายจีน รวมถึงผู้คนจากทั่วทุกสารทิศแวะเวียนมาเสมอ โดยมีความเชื่อที่เลื่องลือขององค์ยุวเทพ คือ การขอพรสำหรับคู่รักที่ต้องการมีบุตร หน้าที่การงาน รวมไปถึงการรักษาความเจ็บป่วย
ศาลเจ้าฮกเกี้ยนกงก้วน อ.กันตัง
มีอายุที่เก่าแก่กว่า 150 ปี แต่ ศาลเจ้าฮกเกี้ยนกงก้วน แห่งเมืองกันตัง ยังเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมคลาสสิกที่วิจิตรโดดเด่น ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างอาคารไม้สีเหลืองนวล ตัดกับโคมไฟสีแดงที่ประดับตกแต่งเข้ากับบรรยากาศอาคารศาลเจ้าได้อย่างงดงาม
หลักฐานสำคัญของความเก่าแก่ สันนิษฐานได้จากกระถางธูปหน้าแท่นบูชาพระเทียนส่องเซ้งโบ้ ที่มีการสลักภาษาจีน ระบุปีที่ถวายแปลเป็นภาษาไทยตรงกับพุทธศักราช 2454 ซึ่งผ่านมากว่าศตวรรษ ความศรัทธาที่มีต่อสถานที่แห่งนี้ยังคงเหนียวแน่น ผู้คนนิยมเดินทางมาสักการะไหว้ขอพรจากเจ้าแม่ทับทิม (พระม๊าจ้อโป๋) เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว รวมถึงความเชื่อว่าหากได้ขอพรเจ้าแม่ทับทิมในที่ศาลเจ้าแห่งนี้แล้วจะช่วยให้เดินทางปลอดภัย และการค้าขายจะเจริญรุ่งเรือ