อลหม่านหุ้นเหมืองบิตคอยน์ |ออฟเรคคอร์ด
หุ้นเหมืองบิตคอยน์ทยอยมอบตัว จบเกมกันเป็นแถว แต่งานนี้กลับกลายเป็น ก๊วนหุ้นพากันราคาขึ้น และพร้อมใจราคาร่วง
๐๐๐ อลหม่านหุ้นเหมืองบิตคอยน์
ชุลมุนวุ่นวายกันน่าดูในก๊วน หุ้น เจ้าของ เหมืองบิตคอยน์ ที่พอจุดพลุก็พากันจับมือทะยานขึ้นแบบไม่เกรงใจงบการเงินที่บางบริษัทยังขาดทุน เข้าคำพูดที่ว่า อะไรใหม่ๆ ย่อมสดใส เป็นธรรมดา
เมื่อถึงเวลา “ดังแล้วแยกวง” “ กวาดกำไรแล้ววงแตก” มีขึ้นจนได้หลังมีข่าวลือให้ฉาวโฉ่ออกมาเกิดอาการ สาวไส้ กันเองออกมาตั้งแต่การเทขายหุ้นของ ZIGA เจ้าของเหมืองบิตคอยน์ “สัญชาติจีน”แบบมหาโหดเทขายทิ้งแบบไร้ช่องมา BID ใครใจกล้าช้อนซื้อได้เอามือไปรับมีดไปที่เรียบร้อย เพราะราคาหุ้นจาก 24 บาทลงไปที่ 8-7 บาท
ตามมาด้วยหุ้น A5 ที่ไม่ได้เป็นเจ้าของเหมืองบิตคอยน์ แต่มีกระแสข่าวเกี่ยวพันกับ ดีลเมกเกอร์ ในตลาดหุ้นผันตัวเข้า สู่วงการ บิตคอยน์ ขัดใจกันเองทำให้อดีตผู้ถือหุ้นรายใหญ่เทขายแบบถล่มทลาย 35 ล้านหุ้น ที่ราคา 4.65 บาท จนเป็นที่โจษจันว่า “ทุบหุ้น” จนต้องโร่ออกมาชี้แจงแต่ก็ยังไม่พ้นความคลางแคลงใจ
ล่าสุดยังมีข่าวลือสะพัดออกมาว่ามีหุ้นเหมืองบิตคอยน์อีกรายจ่อคิวซ้ำรอยอีก ... ก็ไม่รู้ว่าจะหนักกว่านี้มั้ย
อุ๊ย!!! เจอข้อครหาหนักขนาดนี้จะออกมาชี้แจงด่วนไหมเนี้ย.
๐๐๐
เริ่มต้นสัปดาห์ใหม่ตลาดหุ้นไทยยังไปไหนไม่ได้ไกล แกว่งตัวในกรอบแคบๆ เดี๋ยวบวกเดี๋ยวลบสลับกันไปตลอดทั้งวัน หลังยังไม่มีปัจจัยหวือหวาใหม่ๆ ยังเกาะติดสถานการณ์ความขัดแย้งรัสเซียยูเครน หลังเจรจากันมาหลายรอบแล้วยังไม่มีอะไรคืบหน้า
ส่วนอีกหนึ่งไฮไลท์สัปดาห์นี้คือ ท่าทีของเฟดซึ่งประเมินกันว่าน่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกนับตั้งแต่ปลายปี 2561 ในอัตรา 0.25%
โดยดัชนี ปิดการซื้อขายที่ 1,660.15 จุด เพิ่มขึ้น 2.14 จุด หรือ 0.13% ระหว่างวันแตะระดับสูงสุดที่ 1,662.66 จุด และระดับต่ำสุดที่ 1,651.90 จุด มูลค่าการซื้อขายเบาบางลงจากสัปดาห์ก่อนเหลือ 65,217.92 ล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 771.84 ล้านบาท รายย่อยซื้อ 324.24 ล้านบาท ส่วนนักลงทุนสถาบันขาย 785.43 ล้านบาท และพอร์ตโบรกเกอร์ ขาย 310.64 ล้านบาท
๐๐๐
“หุ้นแบงก์” บวกนำตลาด รับธีมดอกเบี้ยขาขึ้น ลุ้นเฟดขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมกลางสัปดาห์นี้ สวนทางหุ้น “น้ำมัน” ที่ราคาไหลรูด หลังราคาน้ำมันดิบตลาดโลกเริ่มชะลอความร้อนแรง ดิ่งรวมกว่า 3% เลยเป็นจังหวะของการขายทำกำไร
๐๐๐
ส่วนหุ้นสแตนเลส บมจ.โพสโค-ไทยน๊อคซ์ (INOX) ระหว่างวันยังคึก ดีดแรงต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน โดยขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 1.74 บาท หลังนิกเกิลที่เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตสแตนเลส ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง นับตั้งแต่เกิดสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน เนื่องจากรัสเซียถือเป็นหนึ่งในผู้ผลิตนิกเกิลรายใหญ่ของโลก แต่สุดท้ายกลับแผ่วปลายลดช่วงบวกลงมาปิดที่ 1.66 บาท เพิ่มขึ้น 0.01 บาท หรือ 0.61%
๐๐๐
บมจ.ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์กรุ๊ป (TRUBB) เป็นอีกตัวที่มาแรงจริงๆ วอลุ่มคึกคักตลอดทั้งวัน ทำนิวไฮในรอบหลายปี ขึ้นมาปิดที่ 3.74 บาท เพิ่มขึ้น 0.36 บาท หรือ 10.65% หลังราคาผลิตภัณฑ์ยางยังอยู่ในช่วงขาขึ้น สูงกว่าราคาที่รัฐบาลรับประกัน
แถมปีนี้ยังมีสตอรี่ใหม่เตรียมรับรู้รายได้จากธุรกิจสายเขียว “กัญชา-กัญชง” โดยได้เริ่มปลูกกัญชงไปแล้วที่จังหวัดเชียงใหม่ ส่วนกัญชาอยู่ระหว่างขอในอนุญาต แต่ด้วยราคาหุ้นที่ขึ้นมาเยอะเหลือเกิน ควรต้องเพิ่มความระมัดระวังไว้ด้วย
๐๐๐
หุ้นบมจ.คอมเซเว่น (COM7) ร่วงอีก 3.55% ปิดที่ 40.75 บาท เรียกว่ายังมีแรงขายต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน หลังขึ้นเครื่องหมาย XD หมดสิทธิรับหุ้นปันผล 1 ต่อ 1 และเงินปันผล 1 บาท
เช่นเดียวกับ บมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี (AGE) ราคาทรุดหนัก 14.58% ปิด 4.10 บาท หลังขึ้น XD วันแรก ไม่ได้รับหุ้นปันผล 8 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นปันผล และปันผลเงินสดอีก 0.207 บาท ที่ตามกำหนดจะจ่ายวันที่ 17 พ.ค. นี้
พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์ ศิลาวงษ์