ติดตามการประชุมเฟด (วันที่ 15 มีนาคม 2565)
วันจันทร์ที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ทั้งแดนบวกสลับลบ เห็นแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มธนาคาร ปัจจัยกดดันมาจากสงครามยูเครน-รัสเซียที่ยืดเยื้อ และนักลงทุนยังจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้
ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,660.15 จุด +2.14 จุด +0.13% มูลค่าการซื้อขาย 65,218 ลบ.ต่างชาติ +933.88 ลบ. TFEX +9,941 สัญญา ตราสารหนี้ -2,587.01 ลบ.
ปัจจัยบวก
+/- ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 1.05 จุด +0.003% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ร่วงลงกว่า 2% เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีก่อนประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 15-16 มี.ค. ท่ามกลางการคาดการณ์ว่า FED จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี
+ ไฟเซอร์มีแผนส่งข้อมูลประกอบการฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มที่ 4 ให้ FDA พิจารณา พร้อมกับเปิดเผยว่าบริษัทกำลังพัฒนาวัคซีนที่สามารถป้องกันโควิดได้ทุกสายพันธุ์
+ ตลท. เปิดเผยว่า ในปี 64 มีจำนวนนักลงทุนและจำนวนบัญชีที่เปิดซื้อขายทำสถิติสูงสุดอย่างต่อเนื่อง สิ้นเดือนธ.ค.64 จำนวนนักลงทุนที่เปิดบัญชีทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 3,101,457 ราย เพิ่มขึ้น 946,557 รายจากสิ้นปี 63 หรือมีจำนวนนักลงทุนเพิ่มขึ้น 2.8 เท่าของปี 63 และมากกว่าจำนวนนักลงทุนทั้งหมดที่เพิ่มขึ้นในช่วง 5 ปีก่อนหน้า (ปี 59-63)
+ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ตัวเลขการค้าชายแดนและผ่านแดนเดือนมกราคม 2565 ยังอยู่ในเกณฑ์ดี ตัวเลขการค้ารวมมูลค่า 141,072 ล้านบาท +9.49% โดยเป้าหมายทั้งปี 65 คือ +5% และยังเกินเป้าอยู่
+/- ศบค.รายงานยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่มอีก 19,742 ราย ATK 13,008 ราย เสียชีวิต 70 คน หายป่วยกลับบ้านเพิ่ม 24,125 ราย
ปัจจัยลบ
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 6.32 ดอลลาร์ -5.8% ปิดที่ 103.01 ดอลลาร์/บาร์เรล ต่ำสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์ เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังความคืบหน้าในการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน และจีนประกาศล็อกดาวน์เมืองเซินเจิ้นเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 จะกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน
- การเจรจาสันติภาพรอบที่ 4 ระหว่างยูเครนและรัสเซียยังไม่ได้ข้อสรุปแต่อย่างใด ทั้งสองฝ่ายจะพักการเจรจาชั่วคราวและเริ่มการเจรจาครั้งใหม่วันนี้ (15 มี.ค.)
- ฟ็อกซ์คอนน์ ผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ที่สุดของโลกและผู้ผลิตไอโฟนให้กับบริษัทแอปเปิล อิงค์ ต้องระงับการเดินสายการผลิตในโรงงานที่เมืองเซินเจิ้นตามคำสั่งล็อกดาวน์
- IMF เตือนว่ารัสเซียอาจผิดนัดชำระหนี้หลังนานาประเทศออกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียโทษฐานรุกรานยูเครน แต่เชื่อว่าจะไม่นำไปสู่วิกฤตการณ์การเงินโลก
- NATO ประกาศเตือนว่า รัสเซียอาจใช้อาวุธเคมีหลังเข้าบุกโจมตียูเครน ซึ่งถือเป็นอาชญากรรมสงคราม
- สธ. พบโอมิครอนเข้าข่ายสายพันธุ์ย่อย BA.2.2 ในไทย 4 ราย หลังระบาดหนักในฮ่องกง
- ผลของความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครนที่ทำให้ราคาข้าวสาลีพุ่งขึ้นส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังราคาอาหารตามราคาอาหารสัตว์และราคาธัญพืชทดแทนที่สูงขึ้น ซ้ำเติมภาวะเงินเฟ้อและกำลังซื้อภาคครัวเรือน
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยยังแกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน เนื่องจากนักลงทุนให้ความสาคัญต่อการประชุมเฟดในช่วง 15-16 มี.ค. นี้ขณะที่ยังต้องติดตามความขัดแย้งระหว่างยูเครน-รัสเซียอย่างใกล้ชิด คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,650-1,670 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• หุ้น Value Play : KBANK BBL SCB EA GULF ADVANC TRUE DTAC
• กรณีสงครามยืดเยื้อ ราคาน้ำมันทรงตัวในระดับสูง บวกต่อ PTTEP PTTGC TOP, สินค้าเกษตร ข้าวสาลี และกากถั่วเหลืองขึ้น เป็นบวกต่อ TMILL TVO และเป็นลบต่อธุรกิจอาหารสัตว์ทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น CPF GFPT ASIAN
• FTSE Global Equity Index Series (ใช้ราคาปิด 18 มี.ค.65) : Large Cap : - , Mid Cap : - , Small Capหุ้นเข้า : TIPH JTS SINGER หุ้นออก: UV WHART , Micro Cap หุ้นเข้า : 2S, ACC, AQ, APCO, B, BIG, CEN, CTW, CMR, CV, CGH, ECL, EE, FORTH, GJS, IT, MILL, MTI, METCO, NTV, PAP, PTL, SUC, CFRESH, SF, SKY, BFIT, SCM, TOG, TVI, TRC, UBE, UVAN, UV, VNG, WICE หุ้นออก : BYD, TIPH, MK, NEX, OISHI, QHHR, SABUY, SINGER, SYNEX, XPG
หุ้นรายงานพิเศษ
SYNTEC - แนะนำ ถือ
•ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปี 65 ที่ 6.5 พันลบ. เติบโต 30%YoY โดยได้แรงหนุนจาก Backlog ในมือที่มีอยู่ 4.4 พันลบ. และอยู่ระหว่างประมูลงานใหม่อีก 1.29 หมื่นลบ. โดยคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะลดลงจากปี 64 ที่ 9.56% เนื่องจากความรุนแรงในการแข่งขันงานประมูลใหม่รุนแรงขึ้น และต้นทุนเหล็กที่ปรับตัวขึ้น
•ความเห็น เราคาดว่ารายได้จะเติบโตตั้งแต่ 2Q65 เนื่องจากเริ่มก่อสร้างงานศูนย์ราชการซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ราว 4 พันลบ. โดยจะเร่งตัวขึ้นใน 2H65 เนื่องจากเริ่มเข้าสู่ช่วงกลางของงานก่อสร้าง อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรขั้นต้นในปี 65 จะอ่อนตัวลงจากต้นทุนที่ปรับตัวขึ้น และการประมูลงานใหม่ที่แข่งขันสูง เราจึงแนะนำเพียง “ถือ”
หุ้นมีข่าว
(+) III (Bloomberg Consensus 20.00 บาท) จ่อปิดดีลพันธมิตรประเทศจีน-ลาว คาดได้ข้อสรุปภายในสิ้นเดือนมีนาคมนี้ ระบุอยู่ระหว่างทดสอบระบบการให้บริการขนส่งทางรางระหว่างประเทศ คาดพร้อมให้บริการภายในไตรมาสที่ 2/2565 ด้านภาพรวมธุรกิจยังเติบโตต่อเนื่อง ราคาพลังงาน-สงครามรัสเซีย-ยูเครน ดันอัตราค่าระวางอยู่ในเกณฑ์ขาขึ้น (ที่มา ทันหุ้น)
(+) ECL (Bloomberg Consensus 4.10 บาท) จับมือ "บุญรอด ซัพพลายเชน" ต่อยอดธุรกิจนายหน้าประกันภัย เตรียมออกผลิตภัณฑ์ประกันภัยรูปแบบใหม่ พร้อมตั้งเป้ายอดขาย 300 ล้านบาท ด้านพอร์ตสินเชื่อใหม่ปี 2565 เชื่อยังสามารถโต 30% แตะ 10,000 ล้านบาท จากปัจจุบันอยู่ที่ 6,000-7,000 ล้านบาท ลุยออกสินเชื่อรถยนต์-มอเตอร์ไซค์อีวี (ที่มา ทันหุ้น)
(+) NCL (Bloomberg Consensus 7.00 บาท) สนใจธุรกิจคริปโท เผยปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาตามกระแสกำลังเป็นที่นิยม พร้อมปรับทัพรุกดิจิทัลเต็มสูบ เตรียมเปิดกระเป๋ารับทรัพย์เงินลงทุน "ชีส ดิจิตอล เน็ตเวิร์ค" สัดส่วน 25% ด้านธุรกิจขนส่งควักงบ 30 ล้านบาท พัฒนาคลังสินค้า(ที่มา ทันหุ้น)
(+) SMD (ราคาเหมาะสม 20.80 บาท) เดินหน้าติดตั้งตู้จำหน่าย ATK อัตโนมัติ ภายในโรงพยาบาลรัฐประจำจังหวัด คาดติดตั้งครบ 50 ตู้ภายในเมษายนนี้ คาดมีรายได้เข้ามาเพิ่มราว 45 ล้านบาทต่อเดือน หลังติดตั้งครบ ประเมินครึ่งปีแรกรายได้ ATK แตะ 500 ล้านบาท ดันผลงานครึ่งปีแรกแตะ 1,100 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)