เจาะ3 หุ้นไก่ CPF-TFG-GFPT แกร่งรับตลาดตะวันออก
ตามประกาศของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงพาณิชย์เป็นข่าวดีหุ้นไก่ไทยในรอบเกือบ 2 0 ปี หลังองค์การอาหารและยา ซาอุดีอาระเบีย หรือ Saudi Food & Drug Authority (SFDA) อนุญาตให้นำเข้าไก่จากไทยใน 11 โรงงานที่เดินทางมาตรวจล่วงหน้าในช่วงปีที่ผ่านมา
ปัจจุบันซาอุดีอาระเบีย มีการนำเข้าไก่ปีละ 5.9 แสนตัน เป็นอันดับ 5 ของโลกการนำเข้าเนื้อไก่ โดยส่วนใหญ่นำเข้าจากบราซิล 70% ที่เหลืออีก 30% นำเข้าจากยูเครนและฝรั่งเศส ส่วนการส่งออกไก่ของไทยในปี 2564 ไทยส่งออกไก่ไปทั่วโลก 912,900 ตัน มูลค่าการส่งออกไก่แช่เย็น-แช่แข็ง-แปรรูปรวม 102,529 ล้านบาท
ตลาดใหม่และใหญ่ขนาดนี้บรรดาหุ้นไก่ตีปีกขานรับข่าวบวกทันที รายใหญ่ที่มีธุรกิจไก่เป็นพอร์ตหลักโดยตรง บริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน) หรือ GFPT เป็นผู้เลี้ยงไก่และส่งออก ที่ทำรายได้ สิ้นปี 2564 ที่ 13,780 ล้านบาท ลดลง 4.93 % จากช่วงเดียวกันปีก่อน และทำกำไร 209 ล้านบาท ลดลง 84 % จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการล็อกดาวน์ในช่วงผ่านมา
โดยมีสัดส่วนรายได้จากเนื้อไก่ มากถึง 70 % ซึ่งรวมทั้งธุรกิจอาหาร ฟาร์มเลี้ยงสัตว์เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเนื้อไก่แปรรูปแบบครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่ การผลิตอาหารสัตว์ การเลี้ยงไก่พันธุ์ การเลี้ยงไก่เนื้อ การแปรรูปเนื้อไก่ การผลิตเนื้อไก่แปรรูปปรุงสุก และผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปเพื่อจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ตามมาด้วยบริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TFG มี มีธุรกิจไก่ 48 % สุกร 26.81% อาหารสัตว์ 19.60 % และอื่น 4.80 % ซึ่งรายได้สิ้นปี 2564 ที่ 35,505 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.45 % จากช่วงเดียวกันปีก่อน และทำกำไร 561 ล้านบาท ลดลง 78% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการล็อกดาวน์ในช่วงผ่านมาเช่นกัน
และบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ที่ถือได้ว่าประกอบธุรกิจอาหาร ธุรกิจอาหารสัตว์ และธุรกิจผลผลิตจากฟาร์มเลี้ยงสัตว์ ซึ่งฐานการผลิตใน 17 ประเทศมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจเนื้อสัตว์ (สุกร –สัตว์ปีก และสัตว์น้ำ) เฉพาะกิจการในประเทศและส่งออก เกือบ 2 แสนล้านบาท
สิ้นปี 2564 มีรายได้ ที่ 512,704 ล้านบาท ลดลง 13 % จากช่วงเดียวกันปีก่อน และทำกำไร 13,028 ล้านบาท ลดลง 49.93 % % จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการ ล็อกดาวน์ในช่วงผ่านมาเช่นกัน
ทั้งนี้ในธุรกิจส่งออกไก่ไปซาอุฯ มีรายการมีจำนวน 11 โรงงานที่ได้รับอนุญาตซึ่งมี 6 โรงงานจากเครือ CPF และอีกหนึ่งโรงงานจาก GFPT Valuation & Action ส่งผลทำให้หุ้นทั้ง 2 บริษัทได้รับปัจจัยบวกต่อประเด็นดังกล่าวทันที ส่วน TFG ยังไม่มีรายการการอนุมัติ
ที่ผ่านมาธุรกิจเนื้อสัตว์เจอผลกระทบทั้งโรคระบาดในหมู (ASF)ยิ่งในต่างประเทศทำให้ต้องมีการทำลายหมู เมื่อราคาเนื้อหมูดีขึ้นช่วงต้นปี 2565 ที่ผ่านมาเจอปัญหาราคาต้นทุน ข้าวโพดปรับตัวสูงขึ้น เดือนธันวาคม 2564 เทียบกับเดือนมีนาคม 2565 ราคาข้าวโพดปรับเพิ่มจาก 10.05 บาท/กก. เป็น 12.65 บาท/กก. ข้าวสาลีนำเข้าจาก 8.91 บาท/กก. เป็น 12.75 บาท/กก. และกากถั่วเหลือจากเมล็ดนำเข้าเพิ่มจาก 19.50 บาท/กก. เป็น 22.50 บาท/กก. (เพิ่มขึ้น 15%) ปัจจัยดังกล่าวจึงยังกดดันราคาหุ้นเนื้อสัตว์ต่อเนื่อง
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ มองผลบวกโดยตรงจํากัดในระยะสั้นเนื่องจากสถานการณ์การแข่งขันในตลาดมีคู่แข่งที่สำคัญ ประเทศบราซิล ยังมีความได้เปรียบทางการแข่งขันในแง่ของต้นทุนอาหารสัตว์ที่ต่ำกว่า เนื่องจากประเทศบราซิลเป็นผู้ผลิตถั่วเหลือง และข้าวโพดรายใหญ่
ขณะที่กลุ่ม GFPT (GFPT.BK/GFPT TB) ด้วยธุรกิจเน้นส่งออกไปที่ไก่แปรรูปแต่ซาอุดิอาระเบียต้องการนำเข้าเนื้อไก่ดิบเป็นหลักทำให้ไม่มีผลมากหนัก อย่างไรก็ตามอาจจะมีผลบวกทางอ้อมหากการส่งออกไก่เพิ่มขึ้นทาให้อุปทานสำหรับตลาดในประเทศลดลง ซึ่งในกรณีนี้น่าจะทำให้ราคาไก่ในประเทศขยับสูงขึ้นเป็นโอกาสสําหรับผู้ส่งออกไก่ไทยในระยะยาว ยังคงคำแนะนำซื้อ CPF เนื่องจากคาดว่าราคาเนื้อสัตว์ในประเทศที่ขยับเพิ่มขึ้นจะช่วยหนุนผลประกอบการของบริษัทในปี2565
ขณะเดียวกัน CPF น่าจะฟื้นตัวจากผลกระทบของ COVID-19 ในแง่ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวของกับ COVID-19 ซึ่งน่าจะลดลง และปัญหาขาดแคลนแรงงานที่คลี่คลายลงไป ในขณะเดียวกันยังคงคำแนะนำถือ GFPT เนื่องจากยังคงกังวลเกียวกับ GPM ของบริษัท ในขณะที่ GFPT ดูเหมือนจะมีสามารถจำกัดในการส่งผ่านต้นทุนที่เพิ่มขึ้นไปให้ลูกค้า