IVL - Oxiteno หนุน EBITDA (17 มีนาคม 2565)

IVL จะเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์ปลายน้ำที่มีอัตรากำไรสูงกว่า คงคำแนะนำ ซื้อ TP 60 บาท

 

การรวม Oxiteno หนุนสัดส่วน EBITDA ของ IOD เป็น 28%/29% ใน FY22/23F จาก 22% ใน FY21

ราคาน้ำมันมีความผันผวน ทำให้ตลาดกังวลอัตรากำไรของ Oxitemo ที่ IVL จะเข้าซื้อแล้วเสร็จใน มี.ค.แต่เราเชื่อว่าจะไม่เหมือนกรณี Huntsman ที่เข้าซื้อในม.ค. 2020 ทรัพย์สินของ Hunsman ส่วนใหญ่เป็นต้นน้ำและกลางน้ำ ซึ่งมีอัตรากำไรผันผวนและขึ้นอยู่กับราคาน้ำมัน ทำให้ในช่วงที่โควิดเริ่มระบาดในม.ค. 2020 ราคาน้ำมันอยู่ในระดับต่ำและมีผลขาดทุน อย่างไรก็ตามทรัพย์สินของ Oxiteno ส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์ปลายน้ำซึ่งมีกำไรที่ผันผวนน้อยกว่า (หน้า 3) เราคาด Oxiteno จะมี EBITDA US$150m ใน 9M22 และ US$230m ใน FY23 จากการรับรู้กำไรเต็มปีและซินเนอร์ยี ทำให้ธุรกิจ IOD จะมี EBITDA เพิ่มเป็น US$550/580m ในปี FY22/23F หรือคิดเป็น 28%/29% ของ EBITDA รวมจาก 22% ใน FY21

 

 

ซินเนอร์ยีผ่านการบูรณาการ, เปลี่ยนมาเน้นผลิตภัณฑ์ HVA

Oxiteno ใช้วัตถุดิบ 80% จากเอทีลีน, โพรพีลีน, และ 20%จากน้ำมันเมล็ดปาล์ม (PKO) เป็นวัตถุดิบในการผลิตสารลดแรงตึงผิว ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์พิเศษสำหรับใช้ผลิต ผลิตภัณฑ์ส่วนบุคคล, ผลิตภัณฑ์ดูแลบ้าน, และสารเคลือบผิว สารลดแรงตึงผิวมีส่วนต่างที่ US$500-1,000/t ขึ้นอยู่กับเกรด เดิม IVL มีกำลังการผลิตสารลดแรงตึงผิว 391k ตันในสหรัฐฯ และ Oxiteno จะเข้ามาเพิ่มอีก 800k ตัน รวม 1.2m ตันหรือ 8% ของการผลิตรวมของกลุ่ม IVL ใช้ผลิตภัณฑ์ต้นน้ำและกลางน้ำของบริษัทเอง 60% ซึ่งช่วยเพิ่มความมั่นคงของวัตถุดิบ ซึ่งมีความสำคัญต่อการเติบโตของบริษัทไปยังฐานผลิตภัณฑ์ที่กว้างขึ้น ผลิตภัณฑ์ปลายน้ำจะสร้างกำไรสัดส่วนเพิ่มเป็น 80% จาก 72% เทียบกับผลิตภัณฑ์ต้นน้ำและกลางน้ำ ที่ 20% ลดลงจาก 28% IVL ตั้งเป้าเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์ที่มีกำไรสูงมากขึ้น

 

แนะนำ ซื้อ TP 60 บาท; ส่วนต่าง MTBE สูงสุดตั้งแต่โควิดระบาด

ส่วนต่าง MTBE ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งเป็น US$376/t ในก.พ. จาก US$202/t ใน 4Q21 เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการขยายของ IVL และเชื่อว่าการดำเนินงานทั่วโลกจะสร้างพรีเมียมและช่วยให้บริษัทต้านทางความเสี่ยงการเมืองระหว่างประเทศได้