แอสเซทไวส์ผุดคอนโดแอทโมซลงย่านรังสิต-อ่อนนุช
แอสเซทไวส์ ลุยพัฒนา "แอทโมซ" คอนโดแนวรถไฟฟ้า2 โครงการมูลค่า 4,000ล้านย่านรังสิต-อ่อนนุชหวังดันยอดขาย 1หมื่นล้าน
นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) เผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดอสังหาฯปีนี้ยังมีทิศทางการฟื้นตัวที่ดี โดยเริ่มเห็นสัญญาณบวกตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมาหลังภาครัฐผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์กลับมาเปิดประเทศ
ประกอบกับการผ่อนปรนมาตรการกำหนดเพดานอัตราส่วนสินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV Ratio) เป็นการชั่วคราว รวมถึงลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนและค่าจดจำนองเหลือ 0.01% จึงคาดว่าจะกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้และคาดยอดโอนกรรมสิทธิ์รวมไม่ต่ำกว่า 100,000 ยูนิต เพิ่มขึ้น 3% จากปีก่อนที่มียอดโอนกรรมสิทธิ์ประมาณ 98,000 ยูนิต
อย่างไรก็ตาม ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มองว่า ผู้ประกอบการต้องปรับตัวและรับมือความท้าทายในการนำเสนอสินค้าที่เหมาะสมเพื่อตอบสนองความต้องการผู้บริโภคในหลายมิติ และตัวโครงการต้องอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพ
โดยล่าสุดบริษัทเปิดตัวคอนโด 2 โครงการ ที่มีเอกลักษณ์และมีแนวคิดการพัฒนาโครงการตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในยุคปัจจุบัน บนทำเลใกล้แนวรถไฟฟ้า ประกอบด้วย โครงการแอทโมซ รังสิต จำนวน 978 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 1.39 ล้านบาทต่อยูนิต มูลค่า1,650 ล้านบาท ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมใหม่สไตล์รีสอร์ท บรรยากาศริมน้ำ ที่สร้างสรรค์ในรูปแบบ Smart Living โดยจําลองมาจากเมืองอัมสเตอร์ดัม ตั้งอยู่ในทำเลใจกลางเมืองรังสิต เดินทางสะดวก ติดถนนใหญ่ เชื่อมต่อใจกลางเมืองด้วยทางด่วน และทางยกระดับโทลล์เวย์ ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสายสีแดง
และโครงการแอทโมซ อ่อนนุช จำนวน 1,110 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 1.49 ล้านบาทต่อยูนิต มูลค่าโครงการ 2,200 ล้านบาท มีส่วนกลางกว่า 3 ไร่ ใกล้ชิดธรรมชาติ สามารถเชื่อมต่อใจกลางเมือง 450 เมตร จากสถานีรถไฟฟ้าศรีนุชและใกล้ทางด่วน 2 สาย รวมถึงอยู่ใกล้ไลฟ์สไตล์มอลล์และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ โดยได้เตรียมจัดงานเปิดตัว 2 โครงการใหม่ดังกล่าว 26 มี.ค.นี้
อย่างไรก็ตาม ในปี 2565 บริษัทได้วางแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 7 โครงการ ทั้งคอนโดมิเนียมและโครงการบ้านแนวราบ มูลค่าโครงการรวมกว่า 12,400 ล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีโครงการที่อยู่ระหว่างการขายรวม 25 โครงการ อาทิ โครงการ โมดิซ คอลเลคชั่น บางโพ, โครงการ เคฟ ศาลายา, โครงการ เคฟ เอวา ฯลฯ จึงมั่นใจว่าจะผลักดันยอดขาย (พรีเซล) ทั้งปีที่ 10,000 ล้านบาทได้ตามเป้าหมาย
ปัจจุบัน บริษัทพัฒนาโครงการมาแล้วกว่า 39 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 38,500 ล้านบาท ในจำนวนดังกล่าวเป็นโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและโครงการพร้อมอยู่จำนวน 31 โครงการ และโครงการที่กำลังเปิดขายและอยู่ระหว่างการพัฒนา จำนวน 8 โครงการโดยปัจจุบันบริษัทฯ มียอดรอรับรู้รายได้ (Backlog) มูลค่ารวมกว่า 7,338 ล้านบาท ที่จะทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่อง