ทิพยประกันภัย เผยมี1.6 ล้านกรมธรรม์โควิด สิ้นสุดความคุ้มครองพ.ค.นี้
"ทิพยประกันภัย" เผย มีประกันโควิดเฉพาะกรณี ค่ารักษาพยาบาล โคม่า ชดเชยรายได้ เหลืออีก1.6 ล้านกรมธรรม์จะสิ้นสุดคุ้มครองพ.ค.นี้ คาดมียอดเคลมอีก 1 พันล้าน ยันฐานะการเงินแกร่งรับไหว พร้อมจ่ายสินไหมตามเงื่อนไข
นายสมพร สืบถวิลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮล ดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPH และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทมีการรับประกันภัยโควิด -19 เฉพาะกรณี ค่ารักษาพยาบาล โคม่า ชดเชยรายได้เท่านั้น ไม่มีรับประกันโควิด เจอจ่ายจบ
ทั้งนี้ปัจจุบันเหลือกรมธรรม์ที่ยังมีความคุ้มครองราว 1.6 ล้านกรมธรรม์ โดยจะสิ้นสุดความคุ้มครองเป็นส่วนใหญ่ในเดือนพ.ค.นี้ ซึ่งคาดว่าจะมียอดจ่ายเคลมสินไหมประกันภัยโควิด-19 อีกราว 1,000ล้านบาท โดยที่ผ่านมาจ่ายเคลมสินไหมไปแล้วราว 3,600 ล้านบาท
โดยปัจจุบันบริษัทยังมีเงินกองทุนที่แข็งแกร่งสูงถึง 230% ทำให้บริษัทยังคงให้การดูแลและพิจารณาด้านสินไหมให้กับลูกค้าและประชาชน ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์
นายสมพร กล่าวว่า หลักเกณฑ์การพิจารณาจ่ายค่าสินไหมประกันภัยโควิด-19 ของบริษัท ซึ่งในกรณีค่ารักษาพยาบาล ผู้ป่วยใน บริษัทจะยึดตามเหตุผลความจำเป็นทางการแพทย์ในการรักษาพยายาล ตามแนวเวชปฏิบัติประกาศใช้ของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เมื่อวันที่ 4 ม.ค. 2565 เป็นหลัก
โดยได้แบ่งเป็นกลุ่มผู้ป่วยติดโควิด 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ สีเขียว สีเหลือง และสีแดง หากเป็นกลุ่มสีเหลืองและแดง รักษาเป็นผู้ป่วยในโรงพยาบาล สามารถได้รับความคุ้มครองตามเงื่อนไขกรมธรรม์อยู่แล้วไม่มีปัญหา ส่วนกรณี ผู้ป่วยติดโควิด กลุ่มสีเขียว ไม่มีอาการ หรือ มีอาการป่วยเล็กน้อย ซึ่งไม่มีความเป็นทางการแพทย์ในการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลตามประกาศของสธ. แต่หากใบรับรองแพทย์มีการระบุเหตุผลและความเป็นทางการแพทย์รักษาในโรงพยาบาล แต่ไม่สามารถรักษาในโรงพยาบาลได้ อาจจะเตียงไม่พอหรือต้องแยกกักตัวรักษาที่บ้านหรือฮอลพิเทล บริษัทพร้อมพิจารณาจ่ายสินไหม
สำหรับกรณี ผู้ป่วยติดโควิดกลุ่มสีเขียว ไม่มีอาการ หรือ มีอาการป่วยเล็กน้อย ซึ่งไม่มีความเป็นทางการแพทย์ในการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลตามประกาศของสธ. แต่เข้า Home Isolation, Hotel Isolation และ Community Isolation เดิมไม่เข้าเงื่อนไขความคุ้มครองตามกรมธรรม์อยู่แล้ว
อย่างไรก็ตามล่าสุด ทางสมาคมประกันวินาศภัย ได้หารือกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ให้อนุโลมจ่ายได้ตามเงื่อนไข ซึ่งบริษัทจะยึดตามแนวทางพิจารณาจ่ายสินไหมดังกล่าวต่อไป