ปลูกมะนาวใน ’บ่อ’ ได้ผลผลิต 500 กก./เดือน
เกษตรกรปลูกมะนาวในบ่อซีเมนต์ใช้เวลา 8 เดือนเก็บขายได้ ช่วงมะนาวแพงมีลูกค้ามาสั่งซื้อถึงสวนในราคากิโลกรัมละ 50 บาท ทำมะนาวไม่เพียงพอต้องสั่งจองล่วงหน้าคิวยาว ซึ่งเกษตรกรงจะมีการปรับราคาขึ้นอีก 30 บาทในเดือนเมษายนนี้
ที่สวนมะนาวหลังบ้านเลขที่ 3 หมู่ที่ 1 ต.นาหมื่นศรี อ.นาโยง จ.ตรังเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ ซึ่งเป็นของนางจินดา ทหารไทย อายุ 58 ปี ได้ปลูกมะนาวพันธุ์แป้นพิจิตรในวงบ่อซีเมนต์ไว้ทั้งหมด 58 ต้น โดยปลูกมาประมาณ 2 ปี 2 เดือน ขายในราคากิโลกรัมละ 50 บาท ซึ่งช่วงนี้มะนาวแพงก็ยังขายอยู่ที่ราคาเดิม ทำให้มีลูกค้าแห่ซื้อถึงบ้านจนมะนาวไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า และต้องสั่งจองกันล่วงหน้าข้ามสัปดาห์ บางคนขอซื้อทั้งที่มะนาวยังไม่สุก ยังมีน้ำไม่เต็มที่หรือแค่ 80-90% ก็ซื้อ เพราะมีราคาถูกกว่าท้องตลาดครึ่งต่อครึ่งและรอให้มะนาวแก่จัดไม่ไหว บางคนมาเลือกเก็บเองถึงสวน ทำให้เกษตรกรไม่ต้องเดินทางไปหาตลาด ขายแค่หน้าสวนก็หมดเกลี้ยงมาหลายสัปดาห์แล้ว
สำหรับมะนาวพันธุ์แป้นพิจิตร ใช้เวลาปลูกแค่ 8 เดือนก็เริ่มทยอยเก็บผลผลิตออกขายได้ เมื่ออายุเพิ่มขึ้นมะนาวก็จะแตกกิ่งก้านสาขาทำให้มีลูกเยอะขึ้น พออายุ 2 ปีสามารถเก็บมะนาวได้ถึง 200-300 กิโลกรัมต่อต้นต่อปี โดยที่สวนแห่งนี้ เก็บมะนาวขายได้เดือนละไม่ต่ำกว่า 500 กิโลกรัม แต่ก็ยังไม่พอขาย ซึ่งในช่วงหน้าแล้งปีนี้ นอกจากมะนาวจะออกน้อยแล้ว ยังมีแมลงวันทองรบกวนมาก โดยในช่วงเดือนเมษายนนี้ เกษตรกรจะปรับราคาขายจากเดิมกิโลกรัมละ 50 บาทเป็น 80 บาท และขายกิ่งพันธุ์กิ่งละ 35 บาทหรือ 3 กิ่ง 100 บาทเพื่อเป็นรายได้เสริมอีกทางหนึ่งด้วย
ด้านนางจินดา ทหารไทย เกษตรกรผู้ปลูกมะนาวในบ่อซีเมนต์อำเภอนาโยง จ.ตรังกล่าวว่า กิ่งพันธุ์ขาย 3 ต้นร้อยและคิดว่าเมษายนนี้ปีนี้มะนาวน่าจะแพงขึ้น ปีนี้มะนาวไม่ค่อยมี ออกน้อยแมลงเยอะ และน่าจะปรับขึ้นอีกเป็นกิโลกรัมละ 80 บาทในเดือนเมษายนนี้ แต่ต้องมาเอาที่สวนไม่มีส่ง เพราะส่วนมากลูกค้าจะมาเอาถึงสวน แต่มีไม่พอ หน้าแล้งขายกิโลกรัมละ 50 บาท ประมาณ 14-15 ลูกต่อกิโลกรัม ในช่วงมะนาวแพงมีคนติดต่อมาซื้อเยอะ เพราะขายถูกด้วย แต่ต้องมาเอาจากสวนเท่านั้น